posttoday

สธ.อัดงบ160ล้านให้จุฬาฯผลิตวัคซีนโควิดสัญชาติไทย

13 สิงหาคม 2564

"อนุทิน"ตรวจเยี่ยมโรงงานต้นแบบการผลิตวัคซีนโควิดจุฬาฯพร้อมจัดงบ160ล้าน คาดไตรมาส 3ปี2565 ผลิตใช้ในประเทศเองได้ประมาณ 1-5 ล้านโดสต่อเดือน

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธาณสุข ได้ตรวจเยี่ยมโรงงานต้นแบบการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุด้วยพืช ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เพื่อผลิตวัคซีนโควิด 19 ชนิดโปรตีนซับยูนิตจากใบยาสูบ

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทีมไทยแลนด์ ในการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ภาครัฐ ต้องการให้มีวัคซีนสัญชาติไทย เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ และได้ให้การสนับสนุนผู้ผลิตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทีมจุฬาฯ และบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม เริ่มพัฒนามาตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2563 ทดสอบได้ผลดีกับสัตวว์ทดลอง จากนี้ จะมีการทดสอบในมนุษย์ หวังว่าผลการทดลองจะออกมาได้ด้วยดี เพื่อเป็นอาวุธให้คนไทยใช้สู้กับโรค

สธ.อัดงบ160ล้านให้จุฬาฯผลิตวัคซีนโควิดสัญชาติไทย

อย่างไรก็ตามเพื่อยืนยัน ว่า ภาครัฐสนับสนันโครงการนี้อย่างเต็มที่ กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จึงจัดสรรงบประมาณ 160 ล้านบาท ให้แก่จุฬาฯและบริษัทใบยาในการปรับปรุงพัฒนาโรงงานต้นแบบการผลิตวัคซีนและชีววัตถุโดยใช้พืช ใช้เวลา 8 เดือนในการปรับปรุงบนพื้นที่ชั้น 11 อาคารจุฬาพัฒน์ 14 ขนาด 1,200 ตารางเมตร ผ่านมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมรองรับการผลิตวัคซีนในขั้นต้น เริ่มตั้งแต่เพาะเลี้ยงแบคทีเรียพาหะสารพันธุกรรมของโคโรนาไวรัส ปลูกถ่ายลงในใบยาสูบ เพาะพันธุ์เพิ่มจำนวน และเก็บเกี่ยวเพื่อสกัดโปรตีนสำหรับใช้ผลิตวัคซีน ก่อนนำส่งไปทำวัคซีนให้บริสุทธิ์ ที่บริษัท คินเจ่น ไบโอเทค จำกัด จากนั้นผสมและแบ่งบรรจุวัคซีนที่สถานเสาวภาต่อไป

สำหรับความคืบหน้าในการทดลองผลิตวัคซีนโควิดนั้น ในเดือนก.ย.ปีนี้ ทีมผู้ผลิต จะมีการทดลองในมนุษย์ เฟสที่ 1 เบื้องต้นประมาณ 100 คน ในขนาดโดส 10 ไมโครกรัม 50 ไมโครกรัม และ 100 ไมโครกรัม หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2565 สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด 19 ฝีมือคนไทยในประเทศเองได้ประมาณ 1-5 ล้านโดสต่อเดือน หรือราว 60 ล้านโดสต่อปี