นิวเคลียร์ยุคใหม่ 101 เรื่องยากที่เล่าให้เข้าใจง่าย by ดร.ณัทกฤช
นิวเคลียร์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดร.ณัทกฤช ชวนคุย SMR แบบเข้าใจง่าย อธิบายพลังงานนิวเคลียร์ยุคใหม่ด้วยภาษาคนทั่วไป ฟังสนุก ไม่ซับซ้อน และใกล้ตัวกว่าที่เคย
KEY
POINTS
- อธิบายเทคโนโลยีนิวเคลียร์ยุคใหม่แบบเข้าใจง่าย SMR (Small Modular Reactor) คือเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง สามารถต่อเพิ่มได้เหมือนเลโก้ (Modular) และมีระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ (Passive Safety) ที่ช่วยแก้ข้อจำกัดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิม
- SMR มีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่มั่นคง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนที่ไม่สม่ำเสมอ (เช่น แสงอาทิตย์และลม) และรองรับอุตสาหกรรมอนาคตที่ใช้พลังงานสูงอย่าง AI และ Data Center
- ความท้าทายหลักของนิวเคลียร์คือการจัดการกากนิวเคลียร์และการยอมรับจากสังคม ซึ่งประเทศไทยได้บรรจุ SMR ไว้ในแผนพลังงานชาติ (PDP2024) โดยมีเป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2037 และเน้นย้ำความสำคัญของการสื่อสารที่โปร่งใสเพื่อสร้างความไว้วางใจจากประชาชน
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.ณัทกฤช อภิภูชยะกุล ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร และคอลัมนิสต์ด้านพลังงานของโพสต์ทูเดย์ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ Nation TV - Time to Talk เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ SMR (เป็นภาษาอังกฤษ)
เนื้อหาของการสัมภาษณ์เป็นการอธิบายภาพรวมของเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ SMR โดยเน้นที่การอธิบายเรื่องยากๆอย่างนิวเคลียร์ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น มีการสอดแทรกความรู้พื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้ผู้ฟังทั่วไปเข้าใจถึงเนื้อหาได้ไม่ยาก ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์มากมาย ไม่ซับซ้อน ในบทสัมภาษณ์เน้นใช้คำทั่วไป ไม่ทางการ จึงขอนำเนื้อหาของบทสัมภาษณ์บางส่วนมาแชร์ให้ผู้อ่านโพสต์ทูเดย์ในบทความนี้
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คืออะไร? และทำงานอย่างไร?
“เวลาเราได้ยินคำว่า ‘พลังงานนิวเคลียร์’ ภาพที่หลายคนมักนึกถึง มักจะเป็นอาวุธชีวภาพเหมือนในหนังที่สามารถทำลายทั้งเมือง หรือไม่ก็รังสีอันตรายที่ส่งผลต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริง หากเราใช้นิวเคลียร์อย่างถูกต้องและอยู่ภายใต้การควบคุมที่เหมาะสม เทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้ โดยอาศัยปฏิกิริยานิวเคลียร์เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้า”
“หากย้อนดูประวัติศาสตร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เหตุการณ์ใหญ่ที่คนทั่วโลกจำได้มีอยู่ 2 ครั้ง คือ อุบัติเหตุเชอร์โนบิลในปี 1986 ที่ประเทศยูเครน และเหตุการณ์ฟุกุชิมะในปี 2011 ที่ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจมองว่าสาเหตุเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือภัยธรรมชาติ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นระบบที่ซับซ้อนและบริหารจัดการได้ยาก และหากเกิดปัญหา ผลกระทบก็มีความรุนแรงสูง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมีเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และปัจจุบันไฟฟ้าจากนิวเคลียร์คิดเป็นประมาณ 9% ของไฟฟ้าทั่วโลก”
“หากอธิบายกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบเข้าใจง่ายๆ เมื่อเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ จะเกิดความร้อน ความร้อนนั้นนำไปต้มน้ำให้กลายเป็นไอน้ำ ไอน้ำจะไปหมุนกังหัน และกังหันก็ผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิมมีขนาดใหญ่มาก ใช้เงินลงทุนสูง ใช้เวลาก่อสร้างนาน และระบบความปลอดภัยก็ซับซ้อนมาก ยิ่งโรงไฟฟ้าใหญ่เท่าไร การจัดการความเสี่ยงก็ยิ่งยากขึ้น”
“จนกระทั่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า SMR”
แล้ว SMR คืออะไร? แตกต่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเดิมอย่างไร?
“SMR ย่อมาจาก Small Modular Reactor เป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง มีความยืดหยุ่น บริหารจัดการง่ายขึ้น และให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ผมขออธิบายลักษณะเด่นของ SMR เป็น 3 ส่วน ตามตัวอักษรของคำว่า SMR”
S = SMALL (ขนาดเล็ก)
“คำว่าเล็กในที่นี้ หมายถึงเล็กพอที่จะสามารถผลิตมาสำเร็จรูปภายในโรงงานได้ ไม่จำเป็นต้องนำมาประกอบชิ้นส่วนของเตาปฏิกรณ์ขึ้นมาในไซต์ก่อสร้างเหมือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิม โรงไฟฟ้า SMR ใช้พื้นที่ดินน้อยกว่ามาก ประมาณ 100 ไร่ เทียบกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พื้นที่ราว 1,000 ไร่ นอกจากนี้ ยังใช้เวลาสร้างสั้นกว่ามาก ลดต้นทุนและลดระยะเวลาการก่อสร้างโรงไฟฟ้า”
M = MODULAR (เหมือนตัวต่อ LEGO)
“ด้วยการออกแบบแบบโมดูลาร์ เครื่องปฏิกรณ์ SMR สามารถนำมาเชื่อมต่อเพิ่มได้กับอีกเครื่องนึง (หรืออาจต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ) ให้คิดภาพเหมือนกับการต่อเลโก้ เราอาจเริ่มต้นจากการสร้างเพียงหนึ่งเครื่องก่อน หากในอนาคตต้องการไฟฟ้าเพิ่ม ก็สามารถต่อเพิ่มเครื่องใหม่เข้าไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ตั้งแต่แรก
อีกข้อดีคือ หากเครื่องใดเครื่องหนึ่งมีปัญหา ก็สามารถแยกออกไปซ่อมได้ โดยที่เครื่องอื่นยังคงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าต่อไป”
R = REACT QUICKLY (ตอบสนองเร็ว)
“SMR ถูกออกแบบให้มีระบบความปลอดภัยแบบ Passive Safety หรือระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ หมายความว่า หากเกิดเหตุผิดปกติ เครื่องปฏิกรณ์สามารถตอบสนองได้เองอย่างรวดเร็ว มีระบบระบายความร้อนอัตโนมัติ และระบบหยุดการทำงานด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งแหล่งไฟฟ้าจากภายนอกหรือการตัดสินใจของมนุษย์ในช่วงวิกฤต”
“ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถแก้ไขข้อจำกัดหลายอย่างของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิมได้”
ทำไมเราต้องมี SMR? ทำไมไม่พึ่งพาแค่พลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม?
“ในความเป็นจริงแล้ว เราจำเป็นต้องใช้พลังงานสะอาดทุกประเภท และพลังงานแสงอาทิตย์กับพลังงานลมก็ถือเป็นการลงทุนที่เหมาะสมมากสำหรับประเทศไทย แต่ก็มีช่วงเวลาที่พลังงานเหล่านี้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เช่น ตอนกลางคืนที่ไม่มีแสงแดด หรือวันที่ลมไม่แรงพอ ปัญหานี้เรียกว่า ‘ความไม่สม่ำเสมอ’ ของพลังงานหมุนเวียน”
“ในอดีต เราจึงใช้ถ่านหินหรือถ่านลิกไนต์เป็นไฟฟ้าสำรอง แต่ทุกคนก็ทราบดีว่าถ่านหินก่อมลพิษสูง และถ้าเรายังใช้ถ่านหินเป็นไฟฟ้าสำรองอยู่ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุเป้าหมาย Net Zero”
“นี่จึงเป็นเหตุผลที่ SMR สามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะไฟฟ้าสำรอง เพราะ SMR สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เชื้อเพลิงหลักคือแร่ยูเรเนียม ซึ่งแร่ชนิดนี้มีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก”
“อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ ปัจจุบันโลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วย AI และการลงทุนใน Data Center ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงมาก และต้องการพลังงานสะอาดที่มีความเสถียร 100% หากประเทศไทยต้องการดึงดูดอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเหล่านี้ เราจำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานที่สะอาด มั่นคง และเชื่อถือได้ ซึ่ง SMR เป็นหนึ่งในคำตอบนั้น”
ความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์มีอะไรบ้าง
“โดยทั่วไป ผมคิดว่าความกังวลหลักของเทคโนโลยีนิวเคลียร์มีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ เรื่องแรกคือ การจัดการกากนิวเคลียร์หลังจากใช้เชื้อเพลิงแล้ว หากบริหารจัดการไม่ดีและไม่ปลอดภัย ก็อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้”
“ผมมีโอกาสร่วมศึกษาดูงานกับทาง กฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) ที่สถาบันวิจัยนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ในเดือนพฤศจิกายน 2025 หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการได้เยี่ยมชมอุโมงค์วิจัยใต้ดิน หรือ KURT (Korea Underground Research Tunnel) อุโมงค์แห่งนี้ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 220 เมตร ใช้เก็บกากนิวเคลียร์ในภาชนะที่แข็งแรงที่สุด เพื่อป้องกันการรั่วไหลและรังสีออกสู่ภายนอก เจ้าหน้าที่ที่นั่นบอกกับผมว่า
พวกเขาต้องมั่นใจว่ากากนิวเคลียร์จะถูกเก็บอย่างปลอดภัย ไม่ใช่แค่ 20 หรือ 50 ปี แต่ยาวนานถึง 100,000 ปี”
“ความกังวลที่สองคือ การยอมรับจากสังคม ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ประเทศไทยเคยมีแนวคิดจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่โครงการต้องยุติลงเนื่องจากการคัดค้านของประชาชนในพื้นที่”
“หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘NIMBY’ หรือ ‘NOT IN MY BACKYARD’ คือ ถึงแม้เทคโนโลยีจะปลอดภัยแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครอยากให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาตั้งอยู่ใกล้บ้านตัวเอง
ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เพราะไม่มีใครสบายใจนักหากต้องอยู่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ความกังวลนี้เองที่นำไปสู่คำถามที่ยากที่สุดของโครงการนิวเคลียร์ นั่นคือ ‘ควรตั้งโรงไฟฟ้าที่ไหน?’ ที่ทุกคนยอมรับได้”
“ผมคิดว่า หากต้องการให้โครงการนิวเคลียร์ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับประชาชนอย่างจริงใจ เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รัฐบาลและนักการเมืองจำเป็นต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับผลดีและผลเสียของการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศ”
สถานะปัจจุบันของ SMR ในประเทศไทย โดยเฉพาะในแผน PDP เป็นอย่างไร?
“ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP2024 ระบุว่า โครงการ SMR จะเริ่มเดินเครื่องในช่วงปี 2037 หรืออีกประมาณ 10–12 ปีจากนี้ ผมคิดว่าเรายังมีเวลาเพียงพอในการสื่อสารกับประชาชน ว่า SMR คืออะไร มีต้นทุนและประโยชน์อย่างไร และควรตั้งอยู่ที่ไหน”
“หน่วยงานหลักที่จะมีบทบาทสำคัญคือ กฟผ. (EGAT) ซึ่งศึกษาเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาอย่างต่อเนื่อง ส่งวิศวกรไปเรียนรู้ในต่างประเทศ เยี่ยมชมประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี เช่น เกาหลีใต้และจีน นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีทีมฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ (PR) ที่ทำงานอย่างหนักในการอธิบายเรื่องเกี่ยวกับพลังงานให้ประชาชนเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ”
“สิ่งที่ผมอยากเน้นย้ำคือ ประเทศไทยมีวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์จำนวนไม่น้อย บุคลากรเหล่านี้ถือเป็นมันสมองของประเทศไทย หากได้รับการสนับสนุน การฝึกอบรม และความร่วมมือจากนานาชาติ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้โครงการโรงไฟฟ้า SMR ประสบความสำเร็จได้”
“สุดท้ายแล้ว ผมมองว่า SMR ไม่ใช่แค่แหล่งพลังงานใหม่ แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับประเทศไทย ด้วยความมีประสิทธิภาพและความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้าของเทคโนโลยีนี้”
“ด้วยทิศทางนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจนจาก PDP2024, บทบาทผู้นำของ กฟผ. และการมีผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์จำนวนมากในประเทศไทย ผมเชื่อว่าโครงการ SMR ของประเทศไทยมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต”
“แต่หัวใจสำคัญคือ การเปิดพื้นที่พูดคุย ความไว้วางใจจากประชาชน และการมีส่วนร่วมของสังคม หากเราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกันได้ ผมเชื่อว่า SMR จะเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดของประเทศไทย ขอบคุณครับ”
ลิงค์เพื่อรับชมรายการ: https://www.youtube.com/watch?v=xR4oyEnv8iE
ขอบคุณ The Nation ขอบคุณ คุณต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า ผู้ดำเนินรายการ ขอบคุณโปรดิวเซอร์, คุณเพชร, คุณมุกและทีมงาน รายการ Time to Talk By The Nation Thailand


