ชงผบ.ตร.ฟันวินัย-อาญา 14 ตำรวจทำคดี "บอส" บกพร่อง

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 63 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการสั่งไม่ฟ้องและตำรวจไม่แย้งคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ได้แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งของ ผบ.ตร. และ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับ ตร.ได้สั่งการให้สอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น คือ พล.ต.ท.เพิ่มพูน? ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร.ไม่แย้งความเห็นของอัยการ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่/และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีนี้ใหม่และกรณีตำรวจ 11 นายที่สอบสวนและทำคดีนี้มีกี่คน ทั้งที่โดนทำโทษและบางคนที่ยังเลื่อนตำแหน่งอยู่

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่าประเด็นการตรวจสอบความเห็นไม่แย้งของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร.นั้นไม่พบความบกพร่อง เนื่องจาก พล.ต.ท.เพิ่มพูน พิจารณาได้เฉพาะสำนวนของอัยการที่ส่งมาเท่านั้น ไม่มีอำนาจสอบสวนใหม่ หรือหยิบยกพยานหลักฐานใหม่มาพิจารณาได้ รวมทั้งผู้ตรวจสำนวนพิจารณาทั้ง 4ระดับ ก็ไม่มีความเห็นแย้งอัยการ พล.ต.ท.เพิ่มพูนจึงพิจารณาไปตามระเบียบ แต่ยังคงต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พล.ต.ท.เพิ่มพูน อย่างละเอียดอีกครั้งตามคำสั่งของ นายกฯ

"คณะกรรมการเตรียมเสนอ ผบ.ตร. ให้พิจารณาโทษทางวินัยและอาญากับ 14 นายตำรวจที่ทำคดีทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ โดยในจำนวนนี้11นาย เป็นตำรวจที่ ปปช.ได้ชี้มูลความผิดและลงโทษแล้ว ส่วนอีก3นายมีตำแหน่งระดับรองผบช.และผู้กำกับการ ที่มีการกลับคำให้การเรื่องความเร็วรถของนายวรยุทธ"

"ความบกพร่องที่พบมี 10 ข้อ อาทิ ไม่ได้ทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ไม่ได้ทำการตรวจค้นรถผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุประกอบสำนวนการสอบสวน, ไม่ได้ทำการตรวจวัดปริมาแอลกอฮอล์, ไม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานในทันทีเป็นเหตุให้ขาดพยานหลักฐานในการฟ้อง, ไม่ได้สอบปากคำผู้นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวประกอบสำนวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาไปที่ไหนอย่างไร เพื่อสอบสวนขยายผลและอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยืนยันในเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายและข้อเท็จจริงแห่งคดี"พล.ต.ท.จารุวัฒน์กล่าว

นอกจากนี้คณะกรรมการเตรียมเสนอให้ดำเนินคดีนายวรยุทธ ข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่อายุความยังเหลืออีก 7ปี เพราะจากการสอบสวนผู้เชี่ยวชาญประกอบความเห็นเดิมของ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดิมเชื่อได้ว่าความเร็วรถน่าจะอยู่ที่ 177 กม./ชม.และแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษประเภท2(โคเคน)?ที่มีอายุความเหลือ2ปี หลังแพทย์ยืนยันว่า ยาแอมม็อกซิลีนที่นายวรยุทธไปรักษาฟัน ไม่มีส่วนผสมของโคเคน

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการแจ้งข้อหาและทำคดีใหม่ ทางพนักงานสอบสวนก็จะเนินการขอศาลออกหมายจับได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมถึงการทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อนำคนผิดมาลงโทษ

"ยืนยันว่าตร.จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดอย่างแน่นอน พร้อมระบุจากกรณีที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ผบ.ตร.จะเข้ามาดูแลเรื่องการเห็นแย้งหรือไม่แย้งของอัยการด้วยตนเอง และจะวางกฎระเบียบให้ รอง ผบ.ตร.และผช.ผบ.ตร ดำเนินการต่อไป