ดับไฟแต่ต้นลม! หมอยง แนะเฝ้าระวัง-ให้ความรู้ "ต่างด้าว" เพื่อสกัดโควิดกลับมา

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นแนะนำการป้องกันการกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยยกบทเรียนของสิงคโปร์ที่ตอนแรกสามารถคุมได้ แต่กลับมาเริ่มระบาดหนักขึ้นอีกครั้ง จนตอนนี้เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากสุดในอาเซียน

ศ.นพ.ยง ระบุว่า โควิด 19 บทเรียนจากสิงคโปร์ ในปัจจุบันประเทศไทย สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี

จากบทเรียนของสิงคโปร์ ที่เคยควบคุมได้แล้ว กลับมาระบาดใหญ่ขึ้นในกลุ่มคนงานต่างชาติที่อยู่รวมกันหนาแน่น เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้น จึงยากในการที่จะควบคุม ในการกำหนดระยะห่างก็สามารถทำได้ยาก จึงไม่แปลก การระบาดของสิงคโปร์จึงเพิ่มเป็นหลักหมื่น โดยมีผู้ป่วยเพิ่มเป็นหลายร้อยต่อวัน จึงทำให้ยากในการที่จะควบคุม

ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนหลายล้านคน และหลายแห่งอยู่กันหนาแน่น เป็นกลุ่มก้อนจำนวนมาก ถ้าเกิดการระบาดในแรงงานที่อยู่รวมกันจำนวนมาก ถึงแม้ว่าอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มดังกล่าว ที่มีอายุไม่มาก และมีร่างกายแข็งแรง แต่จะทำให้ยากต่อการควบคุมภายในประเทศ

สิ่งสำคัญที่สุดจะต้องเปิดเกมรุก เข้าไปเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นได้ ให้ความรู้ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง แนวทางการปฏิบัติในการป้องกัน การดูแลไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นเป็นกลุ่มก้อน มีความสำคัญมาก

ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ทิ้งทายว่า บทเรียนจากสิงคโปร์ จะเป็นเรื่องเตือนใจเราทั้งนายจ้างและลูกจ้าง พร้อมทั้งนโยบายของรัฐบาล ไม่ให้เกิดการระบาดของโรคโควิด 19 เกิดขึ้นในประเทศไทย จะต้องดับไฟตั้งแต่ต้นลม