บุกจับหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ชุดพีพีอี ลักลอบนำเข้า มูลค่ากว่า 5 ล้าน

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นพ.ไตรฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1พ.คที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ พ.ต.ท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและอย.นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 133 หมู่ 2 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่เก็บสินค้า โดยมีนายต้น อบปิ่น เป็นผู้ครอบครอบผลการตรวจค้น พบสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลายรายการ ได้แก่ หน้ากากอนามัย (แบบธรรมดา) จำนวน 565 กล่อง กล่องละ 50 ชิ้น รวมจำนวน 28,250 ชิ้น เจลล้างมือแอลกอฮอล์หลายขนาดและหลายยี่ห้อ จำนวนมาก แผ่นกรองหน้ากากอนามัย จำนวน 8,200 ห่อ และชุดป้องกันไวรัส PPE (Personal Protective Equipment) จำนวน 1,800 ชุด รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000,000 บาท

นพ.ไตรฤทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บสินค้าที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยไม่ผ่านวิธีการศุลกากร และสินค้าบางชนิดมีความผิดตามกฎหมายเฉพาะ เช่น พ.ร.บเครื่องมือการแพทย์ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง โดยพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดงจะนำสินค้าไปตรวจสอบขยายผลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีความผิดอื่นหรือไม่ เช่น มาตรฐานสินค้า และฉลากสินค้า ต่อไป ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานนำเข้าโดยไม่จดแจ้ง, ทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง, ไม่แสดงฉลากภาษาไทย และแสดงฉลากภาษาไทยไม่ครบถ้วน ถูกต้อง ตามพ.ร.บเครื่องสำอาง 2558 และฐานนำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่จดทะเบียนสถานประกอบการ ตามพ.ร.บเครื่องมือแพทย์ 2551 และความผิดตามพร.บว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ 2542