posttoday

ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ประเดิมวันแรกจับ 4,443 ราย ยึด 88 คัน

28 ธันวาคม 2561

คสช.เดินหน้ามาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” วันแรกยึด รถไว้ 88 คัน เป็นจักรยานยนต์ 63 คัน รถยนต์ 25 คัน

คสช.เดินหน้ามาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” วันแรกยึด รถไว้ 88 คัน เป็นจักรยานยนต์ 63 คัน รถยนต์ 25 คัน

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า มาตรการดื่มไม่ขับ จับยึดรถ เป็นหนึ่งในมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในช่วงเทศกาลและวันหยุดต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 46/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจาการขับขี่ยานพาหนะ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ดำเนินการมาตลอด 4 ปี สำหรับในห้วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 27 ธ.ค. 2561- 2 ม.ค. 2562 นี้

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า  พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ฝ่ายปกครอง กระทรวงคมนาคม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและประชาชนจิตอาสา ดำเนินมาตรการดังกล่าวอีกเช่นเคย โดยได้จัดตั้งจุดตรวจตามเส้นทางคมนาคม บนถนนสายหลัก สายรอง ทางตรงระยะยาว หรือจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางอย่างปลอดภัย เน้นป้องกันไม่ให้มีการดื่มสุราแล้วขับรถ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า หากตรวจพบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่จะใช้การชี้แจง แนะนำให้ยุติการใช้รถ ติดต่อญาติหรือผู้นำชุมชนมารับทราบเหตุ หากจำเป็นเจ้าหน้าที่จะนำรถไปเก็บรักษาไว้ก่อน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้พร้อมดูแลป้องกันความเสียหายของรถ เช่นการลงทะเบียน บันทึกภาพ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้หลังเทศกาล 

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า โดยสถิติการดำเนินมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 ปรากฏว่าผู้กระทำผิดและรถที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ตลอดเทศกาลมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี ดังนี้  ปี 2559 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 3,046 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 2,477 คัน และ รถยนต์ 569 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 30,152 คน  ปี 2560 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 4,354 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 3,118  คัน และ รถยนต์ 1,236 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 66,783 คน  ปี 2561 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 6,326 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 4,823 คัน และ รถยนต์ 1,503 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 245,356 คน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับในวันที่ 27 ธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 6,852 ครั้ง ดำเนินคดี 4,443 ราย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเก็บรักษารถไว้ 88 คัน เป็นจักรยานยนต์ 63 คัน และ รถยนต์ 25 คัน  ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 95 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ  รถยนต์ 34 คน

 “ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดื่มไม่ขับ จับยึดรถเป็นมาตรการที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะทำให้ผู้ใช้เส้นทางมีความระมัดระวังและตะหนักในวินัยจราจรยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาล ที่หวังให้เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทยอย่างแท้จริง" รองโฆษก คสช. กล่าว