กรมชลฯ เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน 15-18 เม.ย.
กรมชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน 15 - 18 เม.ย. นี้
กรมชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน 15 - 18 เม.ย. นี้
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากการคาดหมายพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาช่วงวันที่ 15-18 เม.ย. 2561 จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยในวันที่ 15 เม.ย. 61 จะมีผลกระทบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ช่วงวันที่ 16-17 เม.ย. 61 จะมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในวันที่ 18 เม.ย. 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกจะมีฝนลดลง ส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง นั้นวันที่ 15-17 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
ทั้งนี้กรมฝนหลวงฯ จึงเตรียมพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่อาจประสบกับสถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยมอบหมายให้แต่ละศูนย์ปฏิบัติการทั้ง 5 ภูมิภาค ทั้งนี้ให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสงขลา ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่บริเวณทิศตะวันตก ตั้งแต่อำเภอตากใบถึงอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้กับป่าพรุและป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ โดยระดับน้ำผิวดินในพื้นที่ รอบป่าพรุโต๊ะแดง อำเภอสุไหงปาดี ต่ำมาก ซึ่งมีโอกาสเกิดไฟป่าสูง จึงปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 1 เที่ยวบิน ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณอำเภอสุไหงปาดีและอำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง ทำให้สามารถช่วยเพิ่มระดับน้ำผิวดินและลดโอกาสการเกิดไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวได้
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทาน บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ตรวจสอบระบบ อาคารชลประทาน และเครื่องจักร เครื่องมือ ให้สามารถใช้การได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อเหตุการณ์ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด หรือหากท่านใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ของตนได้ตลอดเวลา
ภาพประกอบข่าว