posttoday

สุริยุปราคา และจันทรุปราคาในปี 2560

18 ธันวาคม 2559

สุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน

โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด

สุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกันในอวกาศ สุริยุปราคาเกิดในช่วงจันทร์ดับ ดวงจันทร์อยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ทำให้เงาดวงจันทร์พาดลงมาบนผิวโลก คนที่อยู่ใต้เงามองเห็นดวงอาทิตย์ถูกดวงจันทร์บัง หากเป็นการบังแบบบางส่วน สังเกตได้โดยดูผ่านแผ่นกรองแสงเพื่อลดความสว่างของดวงอาทิตย์ แต่ถ้าบังมิดหมดทั้งดวงจะเห็นบรรยากาศชั้นคอโรนาแผ่รอบดวงอาทิตย์ ซึ่งดูด้วยตาเปล่าได้

จันทรุปราคาเกิดในช่วงจันทร์เพ็ญ โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ จันทรุปราคาเกิดเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเงาโลก ทำให้เห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งหรือมืดสลัวลง สามารถเห็นได้จากทุกสถานที่ในด้านกลางคืนของโลก หากถูกเงามืดบังมิด ดวงจันทร์จะไม่มืดสนิท แต่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม สีน้ำตาล หรือสีส้ม เนื่องจากแสงอาทิตย์เกิดการหักเหและกระเจิงในบรรยากาศโลก ก่อนจะไปตกที่ผิวดวงจันทร์ ปี 2560 มีสุริยุปราคาและจันทรุปราคาอย่างละ 2 ครั้ง ซึ่งประกอบด้วยจันทรุปราคาเงามัว สุริยุปราคาวงแหวน จันทรุปราคาบางส่วน และสุริยุปราคาเต็มดวง ตามลำดับ

วันเสาร์ที่ 11 ก.พ. 2560 เกิดจันทรุปราคาเงามัวระหว่างเวลา 05.34-09.53 น. ดวงจันทร์ผ่านเข้าไปในเงามัวของโลกโดยไม่ผ่านเงามืด ดวงจันทร์จึงไม่แหว่งเว้าให้เห็น เพียงแต่มีความสว่างลดลงเล็กน้อยจนแทบไม่สามารถสังเกตได้ ขณะบังลึกที่สุดเวลา 07.44 น. ร้อยละ 99 ของเส้นผ่านศูนย์กลางดวงจันทร์อยู่ในเงามัวของโลก สำหรับประเทศไทย ดวงจันทร์ใกล้ตกเมื่อเริ่มเกิดจันทรุปราคา ประกอบกับเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งเงามีความทึบแสงต่ำ จึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ บนดวงจันทร์

วันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ. 2560 เกิดสุริยุปราคาวงแหวน ดวงจันทร์อยู่ห่างโลกจนมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ บังดวงอาทิตย์ไม่มิด มีลักษณะคล้ายวงแหวน เราเห็นสุริยุปราคาชนิดนี้ได้เมื่ออยู่ในแนวเส้นทางแคบๆ ตามศูนย์กลางเงาดวงจันทร์ที่ลากผ่านผิวโลก ครั้งนี้แนวคราสวงแหวนเริ่มต้นในทะเลทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านชิลีและอาร์เจนตินาในอเมริกาใต้ ตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก แล้วไปสิ้นสุดในแอฟริกา โดยผ่านประเทศแองโกลา แซมเบี

ย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่กลางคราสในมหาสมุทรเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนาน 44 วินาที ส่วนที่จุดเริ่มและสิ้นสุดเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนานกว่า 1 นาทีเล็กน้อย

สุริยุปราคาครั้งนี้เงามัวของดวงจันทร์สัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 19.11-00.36 น. ตามเวลาประเทศไทย เงาที่ทำให้เกิดคราสวงแหวนสัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 20.15-23.32 น. บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วนครอบคลุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนใหญ่ของอเมริกาใต้ ตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนใหญ่ของแอฟริกา และส่วนใหญ่ของแอนตาร์กติกา ประเทศไทยไม่เห็นสุริยุปราคาในวันนี้

คืนวันจันทร์ที่ 7 ส.ค. 2560 เกิดจันทรุปราคาบางส่วนเห็นได้ในประเทศไทย โดยพื้นที่บางส่วนทางด้านทิศใต้ของดวงจันทร์จะถูกเงามืดของโลกบังระหว่างเวลา 00.22-02.18 น. (เข้าสู่วันที่ 8 ส.ค.) เงาโลกบังดวงจันทร์ลึกที่สุดเวลา 01.20 น. คิดเป็นร้อยละ 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางดวงจันทร์ บริเวณที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้ ได้แก่ ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ยุโรป แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก และแอนตาร์กติกา

วันจันทร์ที่ 21 ส.ค. 2560 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิดหมดดวง แนวคราสเต็มดวงพาดผ่านด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก สหรัฐอเมริกา และมหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วนครอบคลุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ตอนเหนือของอเมริกาใต้ ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านตะวันตกของยุโรปและแอฟริกา ประเทศไทยไม่เห็นสุริยุปราคาในวันนี้

สุริยุปราคาครั้งนี้เงามัวของดวงจันทร์สัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 22.47-04.04 น. ตามเวลาประเทศไทย เงาที่ทำให้เกิดคราสเต็มดวงสัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 23.49-03.03 น. ผู้คนในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกามีโอกาสเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้ โดยเริ่มจากชายฝั่งด้านตะวันตกไปจรดชายฝั่งด้านตะวันออก โดยผ่านรัฐออริกอน ไอดาโฮ มอนแทนา ไวโอมิง เนแบรสกา แคนซัส ไอโอวา มิสซูรี อิลลินอยส์ เคนทักกี เทนเนสซี นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา (เฉพาะพื้นที่ส่วนเล็กๆ ของมอนแทนาและไอโอวา) กึ่งกลางคราส ซึ่งเป็นเวลาที่ศูนย์กลางเงาดวงจันทร์ผ่านใกล้ศูนย์กลางโลกมากที่สุด เกิดขึ้นเวลา 01.26 น. บริเวณรัฐเคนทักกี เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนาน 2 นาที 40 วินาที ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้นานไม่เกิน 1 นาที 58 วินาที ส่วนชายฝั่งตะวันออกเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้นานไม่เกิน 2 นาที 34 วินาที

สุริยุปราคาเต็มดวงครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 38 ปี ที่ผ่านแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในทวีปอเมริกาเหนือนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2522 (หลังจากนั้นมีสุริยุปราคาเต็มดวงเห็นได้ที่เกาะฮาวายในแปซิฟิกเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2534) นับเป็นครั้ง

สำคัญเพราะพาดผ่านหลายรัฐ ครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ไม่มีแนวสุริยุปราคาเต็มดวงที่ลากจากชายฝั่งด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่งของสหรัฐ เช่นนี้นับตั้งแต่ปี 2461 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หากไม่มีเมฆบัง คาดว่าชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนจะมีโอกาสสังเกตสุริยุปราคาเต็มดวงได้ด้วยตาของตนเอง

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (18-25 ธ.ค.)

ดาวศุกร์เป็นดาวประจำเมืองอยู่บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ โดยอยู่ในทิศทางของกลุ่มดาวแพะทะเล ตกลับขอบฟ้าในเวลา 3 ทุ่มเศษ ดาวอังคารซึ่งสว่างน้อยกว่าปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ สูงกว่าดาวศุกร์ ตกลับขอบฟ้าราว 4 ทุ่มครึ่ง

ดาวพุธอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู เคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น จึงอยู่ใกล้ขอบฟ้าหลังดวงอาทิตย์ตก โดยอยู่ในทิศทางเดียวกับดาวศุกร์ อาจพอจะสังเกตได้ในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากนั้นดาวพุธจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จนสังเกตได้ยาก

ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในเวลาเช้ามืด อยู่ห่างดาวรวงข้าวซึ่งเป็นดาวฤกษ์สว่างที่สุดในกลุ่มดาวหญิงสาวราว 6 องศา ดาวพฤหัสบดีขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกที่มุมเงย 10 องศา ตั้งแต่เวลาประมาณตี 2 จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นจนไปอยู่สูงบนท้องฟ้าให้สังเกตได้ง่ายเมื่อใกล้รุ่ง

สัปดาห์นี้เป็นข้างแรม ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดของทุกวัน วันที่ 19 ธ.ค.ดวงจันทร์ผ่านใกล้ดาวหัวใจสิงห์ในกลุ่มดาวสิงโตที่ระยะ 2 องศา ดวงจันทร์สว่างครึ่งดวงในวันที่ 21 ธ.ค. จากนั้นเคลื่อนไปอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีในวันที่ 23 ธ.ค. วันนั้นจันทร์เสี้ยวอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีที่ระยะ 3 องศา และห่างดาวรวงข้าวในกลุ่มดาวหญิงสาวที่ระยะ 6 องศา

แกนหมุนของโลกทำมุมเอียงกับระนาบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ วันที่ 21 ธ.ค.ขั้วโลกใต้จะหันเข้าหาดวงอาทิตย์มากที่สุดในรอบปี ทำให้ดวงอาทิตย์ที่ปรากฏบนท้องฟ้ามีตำแหน่งอยู่ค่อนไปทางทิศใต้มากที่สุด ทางดาราศาสตร์ถือเป็นวันเริ่มต้นฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูร้อนของซีกโลกใต้

สถานีอวกาศนานาชาติเคลื่อนที่รอบโลกโดยปรากฏให้เห็นเป็นดาวสว่างบนท้องฟ้าเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบ หัวค่ำวันพฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. 2559 กรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงเริ่มเห็นสถานีอวกาศใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 18.42 น. จากนั้นสถานีอวกาศเคลื่อนสูงขึ้นจนผ่านเหนือศีรษะในเวลา 18.45 น. แล้วเคลื่อนต่ำลงไปสิ้นสุดใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลา 18.49 น. (เวลาอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย)

ข่าวล่าสุด

‘เท้ง ณัฐพงษ์’ เยี่ยมศูนย์อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา หวัง สถานการณ์คลี่คลาย