posttoday

เตือนระวังไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว

06 ธันวาคม 2559

รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุ คนเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มากที่สุดในฤดูหนาว แพร่เชื้อโดยการไอ จาม และสารคัดหลั่ง แนะสวมหน้ากากอนามัยลดการแพร่เชื้อได้ถึง 80 %

รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุ คนเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มากที่สุดในฤดูหนาว แพร่เชื้อโดยการไอ จาม และสารคัดหลั่ง แนะสวมหน้ากากอนามัยลดการแพร่เชื้อได้ถึง 80 %

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปี เนื่องจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคจะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศหนาวเย็น โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย โดยจะติดต่อผ่านทางการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งข้างต้นโดยตรง ซึ่งการไอหรือจามเพียงครั้งเดียวจะแพร่กระจายเชื้อโรคไปไกลถึง 3 ฟุต

จากการสำรวจกลุ่มประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 512 คน ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด ดังนี้ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเป็นหวัด 19 % สวมบ้างไม่สวมบ้าง 74 % ไม่เคยสวมเลย 7 % ขณะเดียวกันพบว่า กลุ่มที่สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งสูงที่สุด คือ กลุ่มที่มีการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี 44 % เมื่อจำแนกรายภาค พบว่ากลุ่มตัวอย่างภาคกลาง ไม่เคยสวมหน้ากากอนามัยเลยมากที่สุด 15 % รองลงมา คือ กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ไม่เคยสวมเลย 11 % และกลุ่มตัวอย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งมากที่สุด 38 % รองลงมา คือ ภาคเหนือ 31 %

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลองค์การอนามัยโลกพบว่า การสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ถึง 80 % โดยหน้ากากอนามัยจะทำหน้าที่ดักจับละอองที่มีเชื้อโรค ดังนั้นจึงขอความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผยแพร่ความรู้ในการสวมหน้ากากอนามัยให้กับชุมชนและกลุ่มวัยเรียนให้มีพฤติกรรมสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัดจนติดเป็นนิสัย