เปิดอินไซด์ คนไทยมีแนวโน้ม เช่าสินค้าไลฟ์สไตล์อะไรมากสุด
ยุคเช่าแทนซื้อ SCB EIC ชี้พฤติกรรมคนรุ่นใหม่หัน “เช่าแทนซื้อ” เน้นเข้าถึงไม่เน้นครอบครอง พร้อมเปิดอินไซด์คนไทยนิยมเช่าสินค้าไลฟ์สไตล์อะไรที่สุด?
ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Millennials และ Gen Z กำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการ “ซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ” ไปสู่การ “เช่าเพื่อเข้าถึงการใช้งาน” มากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ซึ่งส่งผลให้โมเดลธุรกิจการเช่าสินค้าในหลากหลายหมวดหมู่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ผลการศึกษา “Rent Your Lifestyle: ทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงสินค้า เมื่อการเป็นเจ้าของกำลังถูกแทนที่ด้วยการเข้าถึง” ของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า โมเดลการเช่าในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการเช่าบ้านหรือรถยนต์เท่านั้น แต่ได้ขยายเข้าสู่กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจนผู้บริโภครุ่นใหม่มองว่าการเป็นเจ้าของสินค้าไลฟ์สไตล์บางประเภท เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์จัดงาน อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงสินค้าเทคโนโลยีหรือ Gadget ต่าง ๆ อาจก่อให้เกิดภาระตามมา ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและพื้นที่จัดเก็บ จึงเริ่มหันมาเลือก “เช่า” แทน “ซื้อ” มากขึ้น
ทั้งนี้ รายงานตลาดเช่าสินค้าไลฟ์สไตล์โลกคาดว่า ตลาดดังกล่าวจะเติบโตเฉลี่ยราว 21-22% ต่อปี ในช่วงปี 2022–2026 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 22% ต่อปี สะท้อนโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการขายสินค้าแบบซื้อขาด
โมเดลเช่า ตอบโจทย์หลายมิติ
SCB EIC มองว่า โมเดลการเช่ามีศักยภาพเติบโตสูง เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลายมิติ ได้แก่
1. ความยืดหยุ่นทางการเงิน (Financial flexibility) การเช่าช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูงหรือสินค้าพรีเมียมได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารค่าใช้จ่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เน้นความคุ้มค่า
2. ความคล่องตัวและความสะดวกสบาย (Mobility and convenience) เหมาะกับผู้บริโภคที่มีการเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัยหรือไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง ลดภาระการขนย้าย การจัดเก็บ และการดูแลรักษาสินค้าในระยะยาว
3. การเข้าถึงสินค้ารุ่นใหม่และเทรนด์ล่าสุด (Access to the latest goods)
ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานเทคโนโลยีหรือสินค้าใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อจริง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าตกรุ่นหรือมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็ว
4. ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Sustainability) การเช่าสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) ด้วยการยืดอายุการใช้งานของสินค้า ลดการผลิตใหม่ และช่วยลดปริมาณขยะ ซึ่งสอดคล้องกับความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ตลาดการเช่ายังขยายไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์อื่น ๆ นอกเหนือจากแฟชั่น เช่น กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์งานช่าง (DIY & Hardware) เช่น ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Home Depot และ Lowe’s ได้เข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการใช้งานเครื่องมือเฉพาะทางซึ่งมีราคาสูงแต่ใช้งานไม่บ่อย
แนวโน้มคนไทยเลือกเช่าอะไรมากที่สุด
ข้อมูลจาก SCB EIC Consumer Survey ภายใต้หัวข้อ “สำรวจใจคนไทยยุคใหม่ ‘เลือกเช่า’ หรือ ‘เลือกซื้อ’” ซึ่งสำรวจผู้บริโภค 2,321 คน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2025 พบว่า
- ผู้บริโภคไทยที่เคยเช่าสินค้าไลฟ์สไตล์มากที่สุดอยู่ในหมวดสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า และสินค้าแบรนด์เนม คิดเป็นสัดส่วนราว 62%
- รองลงมาคืออุปกรณ์จัดงาน 39%
- อุปกรณ์กีฬา 27%
- อุปกรณ์เทคโนโลยีหรือ Gadget เช่น โทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูป 24%
- ขณะที่สินค้าอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์สำนักงานและเครื่องมือแพทย์ มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 2%
เหตุผลหลักที่ผู้บริโภคไทยเลือกเช่าสินค้า คือ ความคุ้มค่าในการใช้งาน โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้เป็นครั้งคราวหรือในโอกาสพิเศษ เช่น ชุดราตรี อุปกรณ์ดำน้ำ หรืออุปกรณ์จัดอีเวนต์ ซึ่งการเช่าช่วยให้เข้าถึงสินค้าคุณภาพโดยไม่ต้องลงทุนซื้อและแบกรับภาระการจัดเก็บ เหตุผลถัดมาคือ การประหยัดค่าใช้จ่าย และ การลดภาระในการดูแลรักษา โดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือเสื่อมสภาพง่าย
เมื่อพิจารณาแยกตามประเภทสินค้า พบว่า สินค้าแฟชั่นโดดเด่นในแง่ความคุ้มค่า การลดภาระจัดเก็บ และการได้เปลี่ยนลุคใหม่โดยไม่ต้องซื้อซ้ำ ส่วนอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์จัดงาน แม้มีราคาสูง แต่การเช่าช่วยลดทั้งต้นทุนและข้อจำกัดด้านพื้นที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่อาศัยในคอนโดมิเนียม ขณะที่กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี การเช่าช่วยให้เข้าถึงอุปกรณ์รุ่นใหม่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องตกรุ่น และเหมาะกับการใช้งานระยะสั้นหรือโปรเจกต์เฉพาะกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ Rental economy จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญ เช่น ราคาค่าเช่าที่อาจสูงเมื่อเทียบกับราคาซื้อช่วงโปรโมชั่น ต้นทุนแฝงอย่างค่าทำความสะอาดหรือค่าปรับ ความกังวลด้านคุณภาพและสุขอนามัยของสินค้า รวมถึงนโยบายการเช่าและคืนสินค้าที่ไม่ชัดเจน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนยังลังเล
ในด้านช่องทางการเช่า ผู้บริโภคไทยยังนิยมเช่าผ่านหน้าร้านมากที่สุด รองลงมาคือ Social media เช่น Facebook และ Instagram ขณะที่เว็บไซต์และแพลตฟอร์มตัวกลางได้รับความนิยมน้อยกว่า ทั้งนี้ ผู้ที่เคยเช่าสินค้าแล้วกว่า 90% มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการซ้ำ โดยยังคงเลือกสินค้าแฟชั่นเป็นอันดับแรก
สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่เคยเช่า พบว่าประมาณ 62% เปิดใจและมีแนวโน้มจะเช่าในอนาคต โดยให้ความสนใจมากที่สุดกับอุปกรณ์เทคโนโลยี เนื่องจากมีราคาสูงและตกรุ่นเร็ว สะท้อนว่าตลาดการเช่าสินค้าไลฟ์สไตล์ในไทยยังมีศักยภาพเติบโตจากกลุ่มลูกค้าใหม่อีกมาก แม้จะยังมีผู้บริโภคบางส่วนที่ยึดติดกับแนวคิดการเป็นเจ้าของ และมองว่าการเช่ายังไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเองก็ตาม
การเติบโตของธุรกิจการเช่าไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบทบาทของผู้บริโภคในฐานะ “ผู้เช่า” เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่โอกาสใหม่ในบทบาทของ “ผู้ให้เช่า” ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคมองหาช่องทางเพิ่มรายได้ สิ่งของที่เคยถูกเก็บไว้โดยไม่ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้ หรืออุปกรณ์เฉพาะทางอย่างอุปกรณ์ดำน้ำที่ใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง กำลังถูกมองใหม่ในฐานะทรัพย์สินที่สามารถสร้างมูลค่าและรายได้เสริมได้
ธุรกิจไม่ควรมองข้ามกระแส Sharing Economy
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าไลฟ์สไตล์ไม่อาจมองข้ามกระแส Sharing Economy ได้อีกต่อไป เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจการเช่าไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เริ่มให้คุณค่ากับ “การเข้าถึงการใช้งาน” มากกว่า “การเป็นเจ้าของ” ส่งผลให้เศรษฐกิจการเช่ากลายเป็นโอกาสทางธุรกิจสำคัญ ที่ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดจากโมเดลการขายขาดแบบดั้งเดิมไปสู่รูปแบบรายได้ใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม SCB EIC สรุปว่า แนวโน้ม “เช่าแทนซื้อ” ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็นรูปแบบการบริโภคใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการเข้าถึง ประสบการณ์ และความยืดหยุ่น มากกว่าการครอบครองสินค้าในระยะยาว


