ไทย เตรียมแก้กฎหมายลิขสิทธิ์ คุ้มครองนักแสดง–ผู้ผลิตเสียงในยุคออนไลน์
กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รับฟังความเห็นแก้กฎหมายลิขสิทธิ์ คุ้มครองนักแสดงและสิ่งบันทึกเสียง ย้ำไม่เพิ่มภาระผู้ประกอบการ
KEY
POINTS
- กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รับฟังความเห็นแก้กฎหมายลิขสิทธิ์ คุ้มครองนักแสดงและสิ่งบันทึกเสียง
- ย้ำไม่เพิ่มภาระผู้ประกอบการ ไทยจำเป็นต้องปรับกฎหมายเพื่อเข้าร่วมภาคี WPPT ตามพันธกรณี RCEP
- เตรียมเสนอ “ศุภจี” เห็นชอบก่อนเข้าสู่ ครม. และรัฐสภา พร้อมเดินหน้าผลักดันทรัพย์สินทางปัญญาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้หารือกับ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รับฟังความคิดเห็นแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของนักแสดงและสิ่งบันทึกเสียง โดยนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสมาคมการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เรื่องความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และเอื้อต่อการค้าการลงทุน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยเห็นพ้องกันว่าการปรับปรุง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เพื่อส่งเสริมการคุ้มครองเจ้าของสิทธิ์และนักแสดง ไม่ควรสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการโดยไม่จำเป็น แต่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาและผู้ต้องการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ กรมอยู่ระหว่างการเสนอแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ ในส่วนของการคุ้มครองสิทธิของนักแสดงและผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO Performances and Phonograms Treaty : WPPT) ของไทย ตามพันธกรณีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ไทยเป็นสมาชิก ซึ่งมีข้อกำหนดให้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญา WPPT ภายในปี 2569
โดย WPPT เป็นสนธิสัญญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของนักแสดงและผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่มีการเผยแพร่ผลงานทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิก 114 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ได้เข้าเป็นภาคีความตกลงแล้ว
นางอรมน กล่าวว่า กรมได้เริ่มกระบวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อเตรียมเข้าเป็นภาคี WPPT ตั้งแต่ปี 2565 ทั้งในส่วนการจัดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสียต่อร่างแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยกับกลุ่มนักแสดง กลุ่มผู้ประกอบการค่ายเพลง และองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2567 รวมทั้งเปิดรับฟังความเห็นผ่านระบบกลางทางกฎหมายระหว่างปี 2566-2568
ล่าสุดเตรียมนำร่างแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ซึ่งผ่านการรับฟังความเห็นและการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เสนอนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบ เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเสนอรัฐสภาตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายต่อไป


