posttoday

ย้อนวัยเด็กกับ ‘ไอศกรีมสโมสร’ แฮงก์เอ้าท์ขนมหวานใจกลางบรรทัดทอง

05 ตุลาคม 2568

ย้อนวัยเด็กกับ ‘ไอศกรีมสโมสร’ พื้นที่แฮงก์เอ้าท์ขนมหวานใจกลางบรรทัดทอง จากเชฟไฟไดน์นิ่ง ขอเป็นส่วนหนึ่งพาคนไทยน้อนเวลาความทรงจำ

KEY

POINTS

  • ย้อนวัยเด็กกับ ‘ไอศกรีมสโมสร’ แหล่งแฮงก์เอ้าท์ขนมหวานใจกลางบรรทัดทอง เอาใจคนใช้ชีวิตกลางคืน 
  • จากความทรงจำริมสระว่ายน้ำของเชฟคณิน บุญตันบุตร สู่ร้านไอศกรีมที่อยากให้ทุกคนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
  • วาดภาพใหญ่ พาแบรนด์ขยายนอกกรุงเทพฯ เผยเล็งดูไบ หลังกระแสนักท่องเที่ยวตอบรับดี

 

ทุกคนต่างมีความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง บางคนจำได้ว่าเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยแก้วโอวัลตินร้อน ๆ ก่อนเข้าเรียน บางคนผูกพันกับไมโลเย็นคู่ขนมปังเนยน้ำตาล แต่สำหรับ คณิน บุญตันบุตร ความทรงจำที่ฝังแน่นในใจกลับอยู่สโมสรว่ายน้ำ

 

หลังจากซ้อมว่ายน้ำเสร็จ คณินจะขึ้นมานั่งกินข้าว แล้วปิดท้ายวันด้วยไอศกรีมหนึ่งถ้วยเล็ก ๆ ความสุขเรียบง่ายที่กลายเป็นภาพจำ และวันหนึ่งก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้าง “ไอศกรีมสโมสร” ร้านขนมหวานอบอุ่นใจที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านบรรทัดทอง

 

“เราเลือกชื่อ ‘ไอศกรีมสโมสร’ เพราะมันผูกพันกับความทรงจำของเราโดยตรง”

 

คณินเล่าให้โพสต์ทูเดย์ฟัง พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่สะท้อนความภูมิใจของคนที่ได้ย้อนกลับไปหาต้นทางของความสุขอีกครั้ง 

 

คณิน บุญตันบุตร

ก่อนจะมี “ไอศกรีมสโมสร” คณิน เคยใช้เวลากว่า 7 ปี อยู่ในครัวของร้านไฟน์ไดนิ่ง ทั้งสายอาหารและของหวาน เขาคุ้นชินกับการจัดจานอย่างประณีต เสิร์ฟประสบการณ์หรูหราให้ลูกค้าในห้องอาหารระดับบนสุดของเมือง แต่ในความละเอียดนั้น เขากลับมองเห็นบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดของความหรู 

 

“คนไม่ได้ต้องการแค่รสชาติที่ดี แต่ต้องการ ความรู้สึกที่ติดกลับไปด้วย”

 

นั่นคือจุดเริ่มต้นของความคิดอยากสร้างบางสิ่ง ที่ไม่ต้องอยู่ในห้องอาหารราคาแพง แต่ยังมอบความรู้สึกดีให้คนกลับไปได้เหมือนเดิม เขาอยากสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ที่เป็นเหมือนเครื่องย้อนเวลา พาลูกค้ากลับไปสัมผัสความทรงจำบางอย่างในวัยเด็ก

 

ย้อนวัยเด็กกับ ‘ไอศกรีมสโมสร’  แฮงก์เอ้าท์ขนมหวานใจกลางบรรทัดทอง

แล้วทำไมต้อง “ไอศกรีม”?

 

คณินบอกว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากความบังเอิญ

 

“วันหนึ่งผมไปเดินงานแสดงสินค้า แล้วเจอเครื่องทำไอศกรีมเข้า รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าอยากลอง ทั้งที่ตอนนั้นไม่ได้คิดจะเปิดร้านด้วยซ้ำ แค่คิดว่า ถ้าวันหนึ่งเบื่องานประจำ คงอยากทำไอศกรีมขายเล่น ๆ”

 

"แม้เครื่องนั้นจะมีราคาสูงถึง สามถึงสี่แสนบาท แต่ผมกลับมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในเวลานั้น เพราะถ้าเป็นเครื่องระดับโปรเฟสชันนัลราคาคงหลายล้าน และตัวเครื่องไอศกรีมสามารถใช้งานได้หลายปี ผมเลยซื้อมาเก็บไว้ แล้วเริ่มทดลองทำไอศกรีมในคอนโด ค่อย ๆ เล่นกับสูตร ลองปรับรสชาติไปทีละนิด พอเข้าที่เข้าทาง ก็เริ่มมองเรื่องธุรกิจ"

 

เมื่อถึงเวลาตั้งต้นธุรกิจ คณินตัดสินใจรวมเงินลงทุนกับพาร์ตเนอร์อีกสองคน หนึ่งคือเพื่อนสนิท และอีกคนคือทีมงานเก่าที่เคยร่วมงานกันมา รวมงบกว่า 4–5 ล้านบาท ตัวเลขไม่น้อยสำหรับร้านขนาดกะทัดรัด แต่เขายืนยันว่าเกือบทั้งหมดถูกใช้ไปกับ คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำไอศกรีมระดับมืออาชีพ ตู้แช่ที่ควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ หรืออุปกรณ์ครัวที่ตอบโจทย์มาตรฐานที่เขาเคยคุ้นในร้านไฟน์ไดนิ่ง

 

“เราตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่งบประมาณเรามี เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพคือสิ่งที่ลูกค้ารู้สึกได้ แม้ไม่ต้องอธิบายมาก”

 

Instagram.icecream.samosorn

 

ปักหมุดบรรทัดทอง หลังผ่านช่วงพีค

 

คณินเลือกปักหมุดร้านไว้ที่ ย่านบรรทัดทอง พื้นที่ที่ในสายตาหลายคนเริ่มนิ่งหลังผ่านช่วงพีค แต่ในมุมของเขากลับมองเห็นจังหวะที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้น

 

“ผมรู้สึกว่าย่านนี้ยังมีพลังอยู่ ร้านเล็ก ๆ เปิดใหม่ตลอด คนยังอยากออกมาหาของกินดี ๆ ที่ไม่ไกลจากเมืองเกินไป มันมีชีวิต มีจังหวะ มีเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างฝันของตัวเองอยู่รอบ ๆ แต่ตอนนั้นมีหลายคนแนะนำให้ผมเปิดร้านในคอนเซปต์ เจลาโต้บาร์ เพื่อขายในราคาที่สูงขึ้นและจับกลุ่มพรีเมียมชัดเจนกว่า แต่ผมเลือกไม่ทำเพราะไม่อยากสร้างกรอบของความคาดหวังที่ขัดกับสิ่งที่อยากสื่อ เราไม่ได้อยากให้ลูกค้ารู้สึกว่ามากินเจลาโต้ราคาแพง แต่ให้รู้สึกว่าได้กินไอศกรีมที่มีเรื่องราว บางรสชาติอาจทำให้นึกถึงวัยเด็ก บางรสอาจพาให้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยมี”

 

คณินบอกว่า ร้านไอศกรีมสโมสรนั้นพัฒนาสูตรเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบจนถึงการบาลานซ์รสชาติในแต่ละถ้วย ภายในร้านมีไอศกรีมหมุนเวียนกว่า 30–40 รสชาติ และขนมหวานอีกกว่า 20 เมนู ที่ออกแบบมาให้เชื่อมโยงกัน บางเมนูพิเศษเสิร์ฟพร้อมซอสไหลเยิ้ม ที่ตั้งใจออกแบบเพื่อสร้างความสนุกเล็ก ๆ เหมือนตอนที่เราเป็นเด็ก ตอนที่ความสุขไม่ได้ต้องซับซ้อน แค่ของหวานถ้วยหนึ่งก็เพียงพอ

 

ตัวอย่างเมนูเช่น Honey Star, ช็อกบอล, ขนมปังกรอบถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นไอศกรีม ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน ซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง Melting Sundae ที่ราดซอสไหลเยิ้ม กลายเป็นภาพจำของร้าน ให้ลูกค้าถ่ายรูปแชร์ต่อ ส่วนเมนูที่ครองใจลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติคือ Banana Pudding เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ทุกคน

 

คณิน เล่าต่อว่า ความแตกต่างของ ไอศกรีมสโมสร มีสองอย่าง คือ หนึ่ง ต้องอร่อยและสนุกจนต้องถ่ายรูปแชร์ สองรสชาติไม่เหมือนใคร ได้แรงบันดาลใจจากขนมวัยเด็ก แต่ถูกตีความใหม่ในรูปแบบไอศกรีม ทำให้ทั้งคุ้นเคยและสนุกในเวลาเดียวกัน

 

"ผมตั้งราคา เริ่มต้นที่ 65 บาทต่อสกู๊ป เพื่อให้เข้าถึงง่าย ส่วนเวลาเปิดร้าน แตกต่างจากร้านไอศกรีมทั่วไป โดยเปิดช่วงเย็นไปจนถึงดึก (16.00–01.00 น. เสาร์–อาทิตย์) สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าย่านนี้ที่มีชีวิต 24 ชั่วโมง ทำให้ร้านกลายเป็นพื้นที่แฮงก์เอาท์เล็ก ๆ ที่มากกว่าแค่การมาซื้อไอศกรีม"

 

หนึ่งปีแรกของธุรกิจ ความทรงจำที่ไม่เคยละลาย

 

ตลอดหนึ่งปีแรกของการเปิดร้าน “ไอศกรีมสโมสร” คณิน ยอมรับว่าเจอกับความท้าทายไม่น้อย ตั้งแต่สถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซา เหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างแผ่นดินไหว ไปจนถึงการท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดจำนวนลง ส่งผลให้บรรยากาศในย่านที่เคยคึกคักเงียบลงไปบ้าง

 

“แม้หนึ่งปีแรกจะเจอความท้าทายหลายด้าน ทั้งสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่กระทบการค้าขาย และการแข่งขันของร้านขนมที่ดุเดือด แต่สิ่งที่ผมว่ายากที่สุดคือ การรักษาลูกค้าให้กลับมาเรื่อย ๆ เราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับร้าน รู้สึกว่าเมื่ออยากกินไอศกรีม จะคิดถึงที่นี่เป็นที่แรก” 

 

Instagram ice cream.samosorn

 

เขาบอกว่า แต่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง กลุ่มลูกค้าหลักของร้านยังเป็นคนท้องถิ่นทั้งนักศึกษา วัยทำงาน และครอบครัว ที่มักนัดหมายกันมากินข้าวก่อนจะต่อด้วยของหวาน รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่คนจีน ไม่ว่าจะเป็นจากยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

 

ความพยายามครั้งนี้เกิดด้วยแพสชัน 

 

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า การทำธุรกิจนี้ไม่ใช่ก้าวแรกของเขา แต่เป็นความพยายามครั้งที่สี่ หลังจากเคยเปิดร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านครัวซองต์ที่ภูเก็ตมาก่อน แม้ธุรกิจเหล่านั้นไม่ได้ไปต่อ แต่ก็กลายเป็นบทเรียนสำคัญ ก่อนที่เขาจะหันมาลงมือทำร้านขนมหวานที่เป็นแพสชันจริง ๆ ด้วยตัวเอง

 

“ร้านก่อนหน้านี้เราทำไปพร้อมกับงานประจำ ทำให้ไม่มีเวลาโฟกัสเต็มที่ และสุดท้ายก็ไม่สามารถดูแลได้ต่อเนื่อง แต่ไอศกรีมสโมสร เราทำเต็มตัว ลงแรง ลงใจทั้งหมด จนรู้สึกว่านี่คือธุรกิจที่เป็นตัวเรา” 

 

มองภาพแบรนด์ใหญ่ขึ้นขยายสู่ต่างประเทศ

 

ในอนาคต คณินไม่ได้ตั้งใจให้ ไอศกรีมสโมสร เป็นเพียงร้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านบรรทัดทองเท่านั้น หลังจากผ่านช่วงทดลองและเติบโตมา เขาเริ่มมองเห็นภาพใหม่ของแบรนด์ที่ใหญ่ขึ้น และสามารถเดินทางไปหาผู้คนได้ไกลกว่ากรุงเทพฯ

 

ตอนนี้มีแผนจะขยายสาขา ไอศกรีมสโมสร เพิ่มขึ้นภายในปีหน้า อยากเพิ่มอีกหนึ่งสาขาในกรุงเทพฯ และเราวางแผนอยากไปหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต เพราะเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ และไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าที่เรามีในกรุงเทพฯ

 

ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการขยายสาขาอย่างจริงจัง ทางร้านจำเป็นต้อง เซ็ตระบบ เซ็ตการทำงานของน้อง ๆ ในทีมให้เข้าที่เข้าทาง และอยู่ตัวก่อน เมื่อทุกอย่างอยู่ตัวแล้ว จึงจะสามารถ ขยายสาขาต่อไปได้

 

โดยหนึ่งในทำเลที่อยู่ระหว่างการพูดคุยคือ “ดูไบ” ซึ่งจะนับเป็นการขยายธุรกิจไปต่างประเทศครั้งแรกของแบรนด์

 

เหตุผลที่เลือกดูไบ มาจากเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้าและนักลงทุนในพื้นที่นั้น หลายคนที่เคยลิ้มลองไอศกรีมของร้านแสดงความชื่นชอบ ขณะเดียวกันนักลงทุนในดูไบเองก็ให้ความสนใจอยากร่วมผลักดันแบรนด์ไปสู่ตลาดใหม่เช่นกัน

 

“ฟีดแบ็กจากลูกค้าฝั่งตะวันออกกลางค่อนข้างดีครับ เขาชอบขนมหวานในสไตล์ที่ออกอินเตอร์หน่อย และไม่กลัวความหวานเหมือนคนไทย ผมมองว่าดูไบคือเมืองที่เปิดกว้างต่อของหวานคุณภาพดี"

 

ซึ่งต้องติดตามว่าการเดินทางของไอศกรีมสโมสรจะเป็นอย่างไรต่อในปีหน้า

 

 

Credit ภาพ : Instagram icecream.samosorn

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล พบ ไบรท์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68