พลิกดินสู่ดาว! ปั้น "ทายาทชาวไร่อ้อย 100 ล้าน" สร้างนักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่
นี่ไม่ใช่แค่การสืบทอดไร่อ้อยจากรุ่น สู่รุ่น แต่คือการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้อุตสาหกรรมเกษตรของชาติ โครงการ "ทายาทชาวไร่อ้อย 100 ล้าน" กลุ่ม KTIS คือคำตอบการสร้างนักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่ พร้อมยกระดับอาชีพเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืนและภาคภูมิใจ
KEY
POINTS
- นี่ไม่ใช่แค่การสืบทอดไร่อ้อยจากรุ่นสู่รุ่น แต่คือการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้อุตสาหกรรมเกษตรของชาติ
- โครงการ "ทายาทชาวไร่อ้อย 100 ล้าน" กลุ่ม KTIS คือคำตอบการสร้างนักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่
- พร้อมยกระดับอาชีพเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืนและภาคภูมิใจ
จากผืนดินที่เคยชุ่มเหงื่อของคนรุ่นพ่อแม่ สู่โอกาสทางธุรกิจมูลค่าร้อยล้านในมือของคนรุ่นใหม่ นี่คือเรื่องราวของการเดินทางครั้งสำคัญที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ภายใต้โครงการ "ทายาทชาวไร่อ้อย 100 ล้าน" โดยกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS
เมื่อ "ชาวไร่" ไม่ใช่แค่เกษตรกร
ในอดีต ภาพของ "ชาวไร่อ้อย" อาจถูกจำกัดอยู่แค่การตรากตรำทำงานกลางแดด แต่กลุ่ม KTIS มองเห็นภาพที่ใหญ่กว่านั้น พวกเขามองเห็นศักยภาพในการสร้าง "นักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่" ที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการ
โครงการนี้จึงถือกำเนิดขึ้นจากปรัชญาที่สืบทอดกันมาว่า "ชาวไร่อ้อยมั่งคั่ง กลุ่ม KTIS มั่นคง" สะท้อนความเชื่อที่ว่า ความสำเร็จของบริษัทต้องเดินคู่ไปกับคุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงของเกษตรกร
โครงการ "ทายาทชาวไร่อ้อย 100 ล้าน" ซึ่งดำเนินมาเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว ไม่ได้ตั้งเป้าเพียงแค่ให้ลูกหลานกลับมาสานต่ออาชีพดั้งเดิม แต่ต้องการ ยกระดับและสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นชาวไร่อ้อย พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ
ติดอาวุธให้คนรุ่นใหม่..จากไร่สู่โลกธุรกิจ
ความท้าทายของภาคเกษตรในปัจจุบันมีรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ตลาดโลกที่ผันผวน หรือนโยบายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น การทำไร่แบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
โครงการนี้จึงเปรียบเสมือนสถาบันที่เข้ามาติดอาวุธทางความรู้ให้กับทายาทชาวไร่ โดยเน้น
- การบริหารจัดการไร่อย่างเป็นระบบ: สอนให้คิดแบบผู้ประกอบการ ไม่ใช่แค่ผู้ผลิต
- การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และก้าวสู่การทำเกษตรแบบยั่งยืน
- การสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง: เปิดพื้นที่ให้ทายาทชาวไร่รุ่นใหม่ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เพื่อสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งในอนาคต
เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างทายาทที่มีความสามารถในการสืบทอดและต่อยอดกิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
รากฐานที่มั่นคงสู่อนาคตของอุตสาหกรรมอ้อยไทย
"ภูมิรัฐ หวังปรีดาเลิศกุล" ผู้อำนวยการฝ่ายวัตถุดิบของกลุ่ม KTIS ย้ำว่า โครงการนี้ไม่ใช่แค่การสร้างความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น แต่คือ การวางรากฐานที่มั่นคงให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของประเทศไทย เพราะอุตสาหกรรมนี้คือหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจการเกษตรของชาติ ซึ่งสร้างรายได้และการจ้างงานให้คนจำนวนมหาศาล
การปั้น "ทายาทชาวไร่" ให้มีความรู้ความสามารถ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายของโลกยุคใหม่
นี่คือบทพิสูจน์ว่า อาชีพชาวไร่อ้อยคืออาชีพที่มีเกียรติ สร้างความมั่งคั่ง และเป็นอนาคตของประเทศไทยได้.


