แตะเบรคกฎหมายไปรษณีย์ หลังพบอำนาจบอร์ดกำกับอิสระเกินไป
กฎหมายไปรษณีย์ ยังไม่สะเด็ดน้ำ พบกำหนดบทบาทบอร์ดกำกับอิสระเกินไป รัฐไม่มีส่วนร่วม –เปิดเสรีใครตั้งบริษัทขนส่งก็ได้ หวั่นกระทบผู้บริโภค การแข่งขัน ความปลอดภัย และอนาคตไปรษณีย์ไทย
นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลายฉบับของกระทรวงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการไปรษณีย์ พ.ศ. … ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ หลังพบข้อกังวลว่าร่างเดิมที่ได้รับจากคณะที่ปรึกษาขาดการยึดโยงกับภาครัฐ และอาจกระทบการทำหน้าที่กำกับดูแลในอนาคต
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับเดิมมีลักษณะการออกแบบให้คณะกรรมการกำกับกิจการไปรษณีย์มีความเป็นอิสระมากจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้ รัฐไม่มีบทบาทใดในการกำกับงานบริการพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไปรษณีย์ไทยในฐานะผู้ให้บริการหลัก ที่อาจถูกจำกัดบทบาทในคณะกรรมการชุดใหม่โดยไม่สมเหตุสมผล
ประเทศอื่นอย่างสิงคโปร์หรือออสเตรีย แม้จะมีคณะกรรมการอิสระ แต่ก็ยังมีตัวแทนภาครัฐอยู่ในโครงสร้าง เพื่อให้กำกับดูแลได้ตามนโยบายหลักของรัฐ ซึ่งการยึดโยงกับภาครัฐเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริบทของไทย
อีกประเด็นสำคัญของร่างกฎหมาย คือ การเปิดเสรีให้ใครก็ได้ สามารถตั้งบริษัทจัดส่งสิ่งของได้ โดยไม่มีข้อจำกัดหรือกลไกการควบคุมที่ชัดเจน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบโลจิสติกส์ไทย วันนี้ใครจะส่งอะไรก็ได้ ไม่มีระบบควบคุมแพลตฟอร์ม ไม่มีเกณฑ์กำกับผู้ประกอบการใหม่ มันจึงไม่ปลอดภัย
นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายเร่งปรับร่างกฎหมายให้มีโครงสร้างคณะกรรมการที่ชัดเจนและสมดุลมากขึ้น โดยจะมีตัวแทนภาครัฐเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลัก จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์อย่างเป็นทางการภายในเดือน ต.ค.68 ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เราไม่ได้ร่างเองแล้วรีบยื่น ต้องมีการรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อน เพราะนี่เป็นกฎหมายที่กระทบคนทั้งประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงดีอี ยังเร่งเดินหน้าอีก 3 ร่างกฎหมายสำคัญ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล, ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม และ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแก้ในรายละเอียดสุดท้าย เพื่อเสนอที่ประชุม ครม. ให้ทันภายในเดือน ก.ย.2568 ก่อนที่ตนเองจะเกษียณอายุราชการ
หากช้าไปกว่านี้ งานจะสะดุดทันที ซึ่งบางร่างกฎหมายเคยถูกเสนอโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA แล้ว แต่พบข้อโต้แย้งจากหลายฝ่าย จึงถูกส่งกลับมาปรับแก้และเตรียมเสนอใหม่ในเดือนเดียวกันนี้


