MERGE ชี้ วิกฤตคือโอกาส อ่านเกมให้ขาด ปรับตัวไวถึงจะอยู่รอด
MERGE มั่นใจฐานลูกค้าไทยแน่น เดินหน้าเติบโตแม้เศรษฐกิจโลกผันผวน ชี้ วิกฤตคือโอกาส อ่านเกมให้ขาด ปรับตัวไวถึงจะอยู่รอด
อธิศ ทิพย์ชัยเชษฐา, CEO และ Co-founder, MERGE กล่าวในงานสัมมนา Thailand SMART SME 2025 “Smart Solutions & Sustainable Growth จัดโดย PostToday ในหัวข้อ Success Cases (24 ก.ค. 2568) ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ ว่า ลูกค้าของ MERGE กว่า 90% เป็นคนไทย แม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่บ้าง แต่ในเชิงกลยุทธ์แล้ว เรายังสามารถเดินหน้าเติบโตต่อได้ เพราะสินค้าไทยยังเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ฐานลูกค้าหลักของ MERGE ยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย จึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากนักจากปัจจัยภายนอก
อธิศ กล่าวเสริมว่า ภาพรวมของการทำธุรกิจในปัจจุบันว่า แม้หลายอย่างจะท้าทาย แต่ปัจจุบันโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจก็มีมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญคือการมีจุดยืนที่ชัดเจน เช่นเดียวกับแบรนด์ MERGE ที่มุ่งมั่นในกลุ่มสินค้าเดนิม แม้หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นแบรนด์กระเป๋า แต่ในความเป็นจริง จุดแข็งของ MERGE คือยีนส์และเสื้อผ้า ซึ่งเติบโตตามแผนที่วางไว้
“หากพูดถึงกลยุทธ์ของ MERGE ต้องบอกว่าเราให้ความสำคัญกับการทำการตลาดและการสื่อสารเป็นหลัก โดยเฉพาะด้าน PR ซึ่งช่วยให้แบรนด์กลายเป็น Top of Mind ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยว่า MERGE คือแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องยีนส์”
อธิศกล่าว กล่าวต่อว่า เมื่อลูกค้าได้ลองใช้สินค้า พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าที่ได้รับเมื่อเทียบกับราคา ทำให้เกิดการบอกต่อแบบ organic ว่าแบรนด์ของเรามีคุณภาพ ใช้งานได้หลากหลาย และตอบโจทย์ในหลายโอกาส ซึ่งสิ่งนี้ช่วยเสริมสร้างการเติบโตของแบรนด์อย่างยั่งยืน
- วางตำแหน่งแบรนด์ในตลาดให้ถูก
ทั้งนี้ฐานลูกค้าของ MERGE มีทั้งกลุ่มทั่วไปและกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ซึ่งช่วยให้เราวางตำแหน่งแบรนด์ในตลาดได้อย่างเหมาะสม และยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังมีกำลังจับจ่ายอยู่ แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม แน่นอนว่าเราต้องปรับตัวตามแนวโน้มธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องราคาและการขยายธุรกิจ ซึ่งเราก็พยายามปรับให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและภาพรวมโดยทั่วไป”
“ผมเชื่อว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและยิ่งร้อนแรงในช่วงวิกฤต หากเราปรับตัวได้ดี ก็มีโอกาสรอดและเติบโตได้ในระยะยาว”
- ผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจให้ขาด
อธิศ กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ CEO หรือผู้ประกอบการทุกคนต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจให้ขาด และพร้อมปรับตัวตลอดเวลา เพราะแม้เม็ดเงินในระบบจะเคลื่อนตัว แต่ถ้าเรายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยืดหยุ่นและอยู่รอดได้ สุดท้ายเมื่อเศรษฐกิจฟื้น เราก็จะเป็นหนึ่งในผู้ที่เติบโตได้เร็วกว่า”
อธิศ ย้ำว่า ไม่ควรหมดหวังกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ แต่ควรหันมาโฟกัสที่การทำความเข้าใจตลาดของตนเองให้ชัด ว่ามีช่องว่างหรือโอกาสอะไรที่ยังสามารถคว้าไว้ได้
“ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน น้ำหอม แฟชั่น หรืออะไรก็ตาม ยังมีผู้เล่นที่อยู่รอดได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราวิเคราะห์ตลาดของตัวเองได้ลึกพอหรือไม่ เพราะถ้าคุณผ่านช่วงนี้ไปได้ วันที่เศรษฐกิจกลับมาฟื้น คุณจะเติบโตได้เร็วมากแน่นอน”


