posttoday

คลัง สั่งสรรพากร ดึงแพลตฟอร์ม “TEMU” เสียภาษี

05 สิงหาคม 2567

จุลพันธ์ รมช.คลัง เผย สั่งกรมสรรพากร ดึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จีน “TEMU” เข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) อย่างถูกต้อง ด้านสมาคมผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย ชี้ กระทบ SME 2 กลุ่ม ที่ซื้อสินค้าจากจีนโดยตรง คาดอาจไม่กระทบวงกว้าง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีที่ “TEMU” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีนเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการว่า ได้มอบหมายให้กรมสรรพากรไปศึกษาในรายละเอียดในเรื่องการดึงแพลตฟอร์ม TEMU เข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)  โดยขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางแพลตฟอร์มดังกล่าว

ตอนนี้ได้มอบได้กรมสรรพกรไปดูแล้วเรียบร้อย ขณะนี้กำลัง communicate กันว่าแพลตฟอร์มแบบนี้ ต้องเข้าสู่ระบบภาษีของเรา โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อให้เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง


ปัจจุบันในการค้าขายผ่านแพลตฟอร์มนั้น ขณะนี้ใช้กลไกของกรมศุลกากร เก็บ VAT สินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ไปก่อนและในอนาคตทางแพลตฟอร์มก็ต้องทำการพัฒนาระบบ เพื่อมาเชื่อมต่อกับระบบจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร และ TEMU เองก็เป็นหนึ่งในนี้ด้วย ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ได้ประสานไปหมดแล้วเช่นกัน คาดว่าต้นปี 2568 ก็จะเรียบร้อยหลังจากนั้นจะหยุดดำเนินการผ่านกรมศุลกากร และดำเนินการผ่านกรมสรรพากร 

อาจไม่กระทบวงกว้าง

ขณะที่นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เปิดเผยกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า นับเป็นอิมแพคอีกระลอกสำหรับวงการอีคอมเมิร์ซ และ SME ไทย แต่คงไม่รุนแรงมากเท่ากับตอนที่ ช้อปปี้ ลาซาด้า เข้ามาทำตลาดในไทยยุคแรก และไม่น่ากระทบในวงกว้าง

สำหรับ SME ที่ได้รับผลกระทบแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก SME ที่ซื้อสินค้าจากประเทศจีน มาขายโดยตรง เนื่องจาก TEMU เป็นการดิวสินค้าผ่านโรงงานระดับโลกโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย เหมือนช้อปปี้ ลาซาด้า ดังนั้น SME ที่นำเข้าสินค้าจากจีนมาขายต่อ ได้รับผลกระทบโดยตรง

กลุ่มที่สอง คือ SME ที่นำสินค้าจีนเข้ามาสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง แต่แบรนด์ยังไม่แข็งแรงพอที่จะมีลูกค้าประจำ ดังนั้น SME กลุ่มนี้ต้องมีการปรับตัว สร้างคุณภาพของสินค้า และแบรนด์ให้เข้มแข็ง เพราะผู้บริโภคจะมีการเปรียบเทียบสินค้าและราคาที่มาจากประเทศจีน เหมือนกัน

นายธนาวัฒน์ กล่าวว่า ในมุมของผู้บริโภค ตนเชื่อว่า ผู้บริโภคเอง ก็คงไม่ได้มองเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว เพราะสินค้าราคาถูกมากไป ก็ย่อมมีความกังวลเรื่องคุณภาพของสินค้า เช่นกัน

ส่วนรัฐบาลเอง ก็ต้องมีนโยบายทางภาษี เพื่อทำให้ TEMU มาจดทะเบียนในประเทศไทย และเสียภาษีในประเทศไทย 

TEMU ส่งฟรีทุกออเดอร์ เปิดแล้ว 47 ประเทศทั่วโลก

ปัจจุบัน Temu มีอยู่ใน 47 ประเทศทั่วโลก และได้เข้ามาทำตลาดในไทย ตามหลังการเปิดตัวในมาเลเซีย และฟิลิปปินส์เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ด้วยการออกโปรโมชันแรง แจกส่วนลดกว่า 90% ในช่วงเปิดตัว และอัดโปรโมชันส่งฟรีทุกออเดอร์ โดยสินค้าจะถูกส่งตรงจากโรงงานในจีนภายใน 4 – 9 วัน รวมถึงยังมีนโยบายคืนสินค้าในทุก ๆ ออเดอร์ฟรีภายใน 90 วัน หรือจะสามารถเลือกรับเป็นการคืนเงินส่วนหนึ่ง โดยไม่ต้องส่งสินค้ากลับคืนก็ได้ TEMU คือใคร