ยิบอินซอย ยก 3 สตาร์ทอัพไทย ดาวรุ่ง หนุนการเติบโตแบบยั่งยืน
หลังสนับสนุนกว่า 3 ปี โซลารินน์ พร้อมต่อยอดธุรกิจสู่มอเตอร์ไซค์อีวี แบรนด์ RYN วางจำหน่ายภายในปีนี้ ขณะที่ โมรีน่า ชูจุดแข็งสร้างวิตามินพืชผล หนุนตลาดอาหาร และ อีซีไรช์ จากเทคโนโลยีคัดพันธุ์ข้าวสู่การควบคุมโรงงานผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
นางมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางในการสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศไทยว่า ปีนี้ยังไม่มีแผนในการสนับสนุนสตาร์ทอัพรายใหม่เพิ่มเติม จากเดิมที่มีอยู่ 3 บริษัท คือ บริษัท โซลารินน์ จำกัด สตาร์ทอัพ ด้านพลังงานสะอาด , บริษัท โมรีน่า โซลูชั่นส์ จำกัด (Morena) สตาร์ทอัพด้านBIOTECHNOLOGY , บริษัท อีซีไรช์ ดิจิทัล เทคโนโลยี จำกัด (EASYRICE) สตาร์ทอัพใช้เทคโนโลยี AI ตรวจสอบพันธุ์ข้าว เนื่องจากปีนี้ต้องการให้ทั้ง 3 สตาร์ทอัพมีผลิตภัณฑ์ออกมาก่อน หลังจากที่บริษัทได้สนับสนุนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนบริษัทละ 10-50 ล้านบาท
การลงทุนในสตาร์ทอัพเราต้องมั่นใจว่า บริษัทที่เราเลือก 80% ต้องประสบความสำเร็จ และนำเทคโนโลยีไปต่อยอดได้ แน่นอนว่าต้องใช้เวลา และสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เรามั่นใจเพราะเราเลือกแต่สตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมและรางวัลจากเวทีต่างๆ
ปีนี้ บริษัท โซลารินน์ จำกัด จะสามารถจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ RYN ได้ ซึ่งบริษัทมีแผนในการนำแบตเตอรี่เก่ามาผลิตใหม่เพื่อใช้เป็นแบตเตอรี่สำหรับการทำระบบสำรองไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ เพื่อให้เกษตรมีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในเวลากลางคืนด้วย ซึ่งโครงการนี้บริษัทได้วางระบบไว้แล้วที่บ่อกุ้ง อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี สามารถประหยัดค่าไฟที่ต้องจ่ายปีละ 8,000 ล้านบาท เหลือค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น การต่อยอดของ โซลารินน์ จากเดิมที่ทำระบบสำรองไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อทำสมาร์ท ฟาร์มมิ่ง มาสู่การผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าจะช่วยให้ประเทศไทยลดการนำเข้า จากจีน และข้อมูลอยู่ในประเทศ สามารถต่อยอดสร้างแพลตฟอร์มกรีน ลอจิสติกส์ ของตนเองได้
สำหรับ โมรีน่า โซลูชั่นส์ เป็นการต่อยอดธุรกิจปุ๋ยของบริษัท ซึ่งคนส่วนใหญ่มักมองว่าปุ๋ยเคมี คือสารเคมี เทคโนโลยีของ โมรีน่า จะเปลี่ยนความคิดให้ปุ๋ยกลายเป็นอาหาร เป็นวิตามิน ไม่ใช่ยา หรือ สารเคมีอย่างที่เข้าใจ ด้วยการส่งไมโคร นาโน โรบอท ส่งวิตามินเข้าไปถึงเซลพืช เพื่อให้พืชที่จะเป็นอาหารของมนุษย์มีคุณภาพ
ขณะที่ EASYRICE ด้วยจุดเด่นของเทคโนโลยี AI ในการใช้รูปภาพเพื่อคัดแยกพันธุ์ข้าว แทนคน จากเดิมที่ใช้กับข้าวเพื่อการส่งออก ในการผสมผสานข้าวหลายๆสายพันธุ์ให้มีความอร่อยตามความต้องการของแต่ละประเทศเพื่อการส่งออกแล้ว บริษัทยังสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ เพื่อใช้เฝ้าแทนคน วิเคราะห์ และคาดการณ์ หากเกิดกระบวนการผลิตที่ผิดปกติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของ EASYRICE ที่ทางยิบอินซอยให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การตรวจสอบและคักแยกความสุกของทุเรียน การคัดกรองสายพันธ์และกระดองของปูนิ่ม ตรวจสอบสารพิษตกค้างในสัตว์ทะเล เป็นต้น
แม้ว่าการสนับสนุนสตาร์ทอัพจะยังไม่มีรายได้มากนัก แต่ก็อยากให้คนไทยร่วมกับสนับสนุนสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น เพราะหากนักลงทุนเป็นต่างชาติ ผลผลิตที่ได้ก็จะออกไปอยู่นอกประเทศ ประเทศไทยจะไม่ได้ประโยชน์จากสตาร์ทอัพของคนไทยด้วยกัน


