ควอนตัมมาแน่! อังกฤษใช้วางตำแหน่งรถลาดตระเวนตำรวจ เดิมใช้เวลา 4 เดือนเหลือ 4 นาที
ควอนตัมมาแน่! ล่าสุดอังกฤษใช้วางตำแหน่งรถลาดตระเวนตำรวจ เดิมใช้เวลา 4 เดือนเหลือ 4 นาที หุ้นกลุ่มเทคฯ ควอนตัมพุ่งกระฉูดราว 2,000% และเพื่อนบ้านไทยนำไปก่อนแล้ว!
ถ้าคิดว่าการปฏิวัติดิจิทัลเป็นจุดสุดยอดของเทคโนโลยี อาจต้องบอกว่ามันกำลังจะ ‘เอ้าท์’ แล้ว
เพราะตอนนี้โลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ทุกอย่างเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และซับซ้อนขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว นั่นคือยุคของ ‘ควอนตัม’
สาเหตุที่ โพสต์ทูเดย์ หยิบเรื่องนี้มาพูดถึง เพราะได้เห็นสัญญาณบางอย่างที่ชัดเจนขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา
ควอนตัมคืออะไร?
ลองนึกภาพว่าหากมีปัญหาที่ซับซ้อนซึ่งคอมพิวเตอร์ทั่วไปต้องใช้เวลาหลายพันปีในการคำนวณ
ควอนตัมคอมพิวเตอร์กลับสามารถแก้ปัญหานั้นได้ภายในไม่กี่นาที
ที่สำคัญคือ มันเป็นเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
หลายคนเชื่อว่า ควอนตันจะเป็นอีกหนึ่งการปฏิวัติครั้งใหญ่ ตั้งแต่วิธีการทำธุรกิจ การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ขององค์กร เพราะมันสามารถทำในสิ่งที่มนุษย์ไม่ได้สามารถทำได้ เช่น ประมวลผลข้อมูลขนาดมหึมาแบบเรียลไทม์ ถ้ามีลูกค้าหลายล้านราย ข้อมูลตลาดเปลี่ยนแปลงทุกวินาที มันสามารถประมวลผลได้และทำให้เกิดการคาดการณ์ที่แม่นยำในระดับวินาที
นอกจากนี้ มันยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ AI ทำให้ AI ฉลาดขึ้น เรียนรู้เร็วและตอบสนองได้ดีขึ้น
ผลลัพธ์คือ ภาคการเงินสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงรวดเร็ว ภาคการแพทย์ค้นหายารักษาโรคใหม่ได้เร็วขึ้น ภาคโลจิสติกส์ที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งก็ทำได้ .. แต่อยู่ที่ว่าใครจะใช้ก่อน ได้เปรียบก่อน
ทิศทางของ ‘ควอนตัม’ จึงเป็นทิศทางที่น่าจับตามอง จริงอยู่ที่เคยมีการคาดการณ์ว่าควอนตัมจะมาช้ากว่านี้ แต่ปรากฎว่ามันมาแล้ว! ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเกิดแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ เพราะหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีควอนตัมหลายแห่งพุ่งขึ้นแบบที่ไม่มีใครคาดคิด
เช่น Rigetti Computing (RGTI) ที่สามารถขึ้นไปปิดที่ 43.92 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 190% ภายในปีนี้ หลังบริษัทเปิดตัวระบบ 36-qubit Cepheus-1-36Q และคว้าสัญญา 5.8 ล้านดอลลาร์ จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ
หรือ D-Wave Quantum (QBTS) ปิดที่ 33.02 ดอลลาร์สหรัฐ (ณ 10 ต.ค. 2025) เพิ่มขึ้นกว่า 2,000% เมื่อเทียบกับปีก่อน
และจากรายงานของ Boston Consulting Group (BCG, 2024) คาดว่าอุตสาหกรรมควอนตัมจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่าง 450,000 – 850,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2040!
เคสน่าสนใจ ควอนตัมใช้ได้จริงในชีวิตของมนุษย์
North Wales Police ของสหราชอาณาจักร ร่วมมือกับบริษัทควอนตัมเจ้าหนึ่ง จัดการกับปัญหาที่ว่า จะทำยังไงให้การวางตำแหน่งรถลาดตระเวนครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ?
โดยพบว่าระบบคอมพิวเตอร์แบบเดิมใช้เวลาถึง 4 เดือน ในการคำนวณตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งช้าเกินไปสำหรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเขาได้ออกมาแถลงข่าวความสำเร็จ เพราะสามารถใช้ควอนตัม เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลตำแหน่งเหตุการณ์อาชญากรรมในอดีต รูปแบบการจราจร และพฤติกรรมของประชากรในแต่ละพื้นที่
ผลลัพธ์ คือ เกิดการลดเวลาคำนวณจาก 4 เดือนเหลือเพียง 4 นาที พูดง่ายๆ คือเร็วขึ้นหลายหมื่นเท่า ที่สำคัญคือมันสามารถทำงานได้ในระดับนาที จนทำให้ลดเวลาตอบสนองเหตุฉุกเฉินลงเกือบ 50% ทำให้ประชาชนได้รับการถูกช่วยเหลือมากขึ้น และตำรวจสามารถป้องกันอาชญากรรมได้ดีขึ้นด้วย
อีกเคสหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นในเดือน สิงหาคม 2024 คือ NTT Docomo ของประเทศญี่ปุ่น ใช้เทคโนโลยีควอนตัมเข้ามาปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่าย เนื่องจากพบว่าในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุด เครือข่ายมักจะติดขัดเพราะสัญญาณ paging (สัญญาณที่ส่งไปหามือถือเพื่อแจ้งว่ามีสายเรียกเข้า) ที่เกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนมาก การจัดการปัญหานี้ด้วยระบบเดิมไม่สามารถคาดการณ์และปรับตัวได้ทันท่วงที
พวกเขาใช้เทคโนโลยีที่มีการนำควอนตัมเข้ามาวิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์มือถือ และคาดการณ์ว่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องควรเชื่อมต่อกับ base station ไหนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สามารถลดสัญญาณ paging ลงได้กว่า 15% ในช่วงเวลาที่มีการโทรสูงสุด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้โครงสร้างพื้นฐาน เพราะลดต้นทุนในการขยายเครือข่ายเพราะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้ดีขึ้น และสามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เพราะอินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น โทรศัพท์ไม่หลุด และบริการมีเสถียรภาพมากขึ้น
เคสนี้ถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของการใช้ควอนตัมในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ!
ไทยควรลงทุนควอนตัมหรือไม่?
คำถามสำคัญอาจไม่ใช่ว่า ‘ควรลงทุนหรือไม่’ แต่ ‘จะตามทันไหม’ มากกว่า
เมื่อแวะไปดูเพื่อนบ้าน ก็ต้องบอกว่าไปไกลเหลือเกิน
เช่น สิงคโปร์ ได้ตั้ง Centre for Quantum Technologies ตั้งแต่ปี 2007 ลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านดอลลาร์ มีนักวิจัยระดับโลกมากกว่า 200 คน
อินโดนิเซีย ประกาศตั้ง National Quantum Center เมื่อปี 2023 ร่วมมือกับ IBM และมีแผนชัดเจนในการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์เอง
มาเลเซีย ร่วมมือกับจีนพัฒนาระบบ quantum communication และมีแผนสร้างเครือข่ายควอนตัมระหว่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะไม่มีใครปฏิเสธว่าควันตัม คือ 'คลื่นเทคโนโลยีลูกใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ' และมันพร้อมจะเขียนกติกาการแข่งขันใหม่ทั้งหมด ที่ไม่ช้าก็เร็ว ‘มันจะมาถึงไทย’ แน่นอน.