"เจริญอ่านเภสัช" พังงา "ร้านจ่ายยารักษาใจ" จุดประกายสู่เศรษฐกิจสบายใจ
สำรวจพลังสร้างสรรค์ที่เปล่งประกายในเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ ภายใต้คอนเส็ปต์ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ” โดย CEA - สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ในย่านเล็ก ๆ ของจังหวัดพังงา มีร้านขายยาที่แตกต่างจากร้านใด ๆ ที่เราเคยรู้จัก “เจริญอ่านเภสัช” อาจดูเหมือนร้านขายยาธรรมดา แต่เมื่อก้าวเข้าไปข้างในกลับพบว่าพื้นที่นี้คือ “ร้านจ่ายยารักษาใจ” ที่เปลี่ยนความหมายของคำว่าการเยียวยาให้กว้างไกลกว่าแค่การรักษาร่างกาย ธวิศรุต บุรพัฒน์ และ ชนชญา ไชยอิ่นคำ สองนักสร้างสรรค์จาก Soul Friend & Spiritual Garden เลือกจะตีความร้านขายยาแห่งนี้ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พังงาพลังบวก” ที่ตั้งใจยกระดับให้กลายเป็นศูนย์กลางเยียวยาจิตใจของผู้คนในชุมชน
ร้านเจริญอ่านเภสัชจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของฐานรากในชุมชนที่กำลังมุ่งสู่ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ” ในอนาคต ซึ่งเป็นแผนงานและแนวคิดสำคัญของ CEA - สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เจ้าภาพในการจัดงาน เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 (Pakk Taii Design Week 2025) ในปีนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้ธีม “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน”
มาถึงวันนี้เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ได้กลายแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนให้ปักษ์ใต้ก้าวสู่การเป็นภูมิภาคสร้างสรรค์ที่ “น่าอยู่ น่าลงทุน และน่าท่องเที่ยว” อย่างแท้จริง ตอบรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคนี้ที่มีมูลค่าสูงถึง 85,306 ล้านบาทในปี 2565 โดยร้อยละ 80 มาจากการท่องเที่ยว
“ร้านจ่ายยารักษาใจ” จึงเป็นส่วนเล็กๆที่สำคัญภายในเรือนร่างอันใหญ่โตของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ” ที่กำลังสร้างคุณค่าบางอย่างให้กับชุมชมและสังคมมากกว่ามูลค่า
ที่นี่ มียาเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เพราะสิ่งที่โดดเด่นกว่าคือบรรยากาศที่เต็มไปด้วย หนังสือและกิจกรรมสร้างสมดุล ผู้มาเยือนสามารถเลือกหยิบหนังสือดี ๆ สักเล่ม จิบชาสมุนไพร และเรียนรู้ที่จะฟังเสียงหัวใจตัวเองผ่านกิจกรรมอย่าง สมาธิ โยคะ ศิลปะ หรือแม้กระทั่ง Sound Healing ทุกกิจกรรมล้วนถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนกลับมาสัมผัสความสงบที่แท้จริง
หนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจคือการชวนผู้คนออกเดินทางไปตาม “10 เส้นทางเยียวยาใจ” ที่เชื่อมโยงการดูแลภายในกับประสบการณ์นอกตัว ตั้งแต่การภาวนาจิต การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ไปจนถึงการเล่นเซิร์ฟท่ามกลางพลังทะเล ทุกเส้นทางไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางเพื่อกลับไปพบความสมดุลในใจตนเอง
คุณธวิศรุตเล่าว่า การทำร้านนี้ไม่ใช่แค่การสร้างธุรกิจ แต่คือการสร้างความหมายใหม่ให้กับคำว่าความคิดสร้างสรรค์ เขากล่าวอย่างชัดเจนว่า
“ความคิดสร้างสรรค์ไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังช่วยแก้ปัญหาสังคม และเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้แลกเปลี่ยนเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน”
ประโยคนี้สะท้อนว่า “เจริญอ่านเภสัช” ไม่ได้เป็นเพียงร้านขายยาที่พัฒนาให้แปลกใหม่ แต่คือการวางรากฐานของคอมมิวนิตี้แห่งการดูแลใจ ที่ให้ทั้งคนในพื้นที่และนักเดินทางได้เข้ามาสัมผัสพลังบวก พื้นที่เล็ก ๆ นี้จึงเปลี่ยนพังงาให้เป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว แต่คือแหล่งพักใจที่แท้จริงของผู้คน
“South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” พลังสร้างสรรค์ที่งดงามจากแดนใต้
ปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายนที่ผ่านมา จังหวัดสงขลากลายเป็นศูนย์กลางแห่งพลังสร้างสรรค์ เมื่อสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จัดงาน เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 (Pakk Taii Design Week 2025) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้ธีม “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” ตลอดเวลา 11 วันของการจัดงาน ไม่เพียงเปิดพื้นที่แสดงผลงานออกแบบ แต่ยังทำหน้าที่เป็น “เครื่องมือปลุกพลังสร้างสรรค์” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง
ผลลัพธ์ของงานสะท้อนให้เห็นว่า เทศกาลฯ ไม่ได้เป็นเพียงเวทีเฉพาะของนักออกแบบ แต่คือแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนให้ปักษ์ใต้ก้าวสู่การเป็นภูมิภาคสร้างสรรค์ที่ “น่าอยู่ น่าลงทุน และน่าท่องเที่ยว” อย่างแท้จริง คาดการณ์มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลอดงานสูงกว่า 500 ล้านบาท และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 200,000 คน โดยอาศัยจังหวะพิเศษที่ตรงกับวันชาติของมาเลเซีย (31 สิงหาคม) เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ฐานทุนสู่ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ”
การท่องเที่ยวคือฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย ปี 2568 มีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามามากกว่า 40 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3.5 ล้านล้านบาท และเมื่อมองลึกลงไปในพื้นที่ภาคใต้ จะพบว่ามีศักยภาพโดดเด่นอย่างยิ่ง ปี 2565 มูลค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคนี้สูงถึง 85,306 ล้านบาท โดยกว่าร้อยละ 80 มาจากการท่องเที่ยว คิดเป็นรายได้กว่า 68,170 ล้านบาท
ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA กล่าวว่า “ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สะท้อนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แสดงให้เห็นว่าภาคใต้พร้อมก้าวสู่เวทีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ… เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้จึงถูกออกแบบบนแนวทาง Area-Based Platform ที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับศิลปะ อาหาร แฟชั่น ดนตรี และงานคราฟต์ เพื่อยกระดับสู่ ‘เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ (De-Stress Economy)’ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ต้องการมากกว่าการพักผ่อนทั่วไป”
“ยิ่งไปกว่านั้น เทศกาลฯ ยังทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับภาคใต้ให้เป็นจุดหมายที่สะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต พร้อมต่อยอดสู่การลงทุนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทุกสาขา ตั้งแต่การพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area-Based) ขยายสู่การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม (Industry-Based) และต่อเนื่องสู่การพัฒนาเชิงความรู้ (Knowledge-Based) เพื่อเสริมศักยภาพคนในพื้นที่ควบคู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
พลังความร่วมมือ จากท้องถิ่นสู่เวทีนานาชาติ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ PTDW2025 แตกต่าง คือพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน นักสร้างสรรค์ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และหน่วยงานรัฐท้องถิ่น โดยปีนี้ยังได้ขยายพื้นที่จัดงานไปยัง ถนนเพชรคีรี เพื่อเปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่จากทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ได้แสดงศักยภาพ
คุณฆฤณ กังวานกิตติ ผู้อำนวยการ CEA สงขลา กล่าวเสริมว่า “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 แสดงพลังความร่วมมือของ ‘ชาวปักษ์ใต้’ ที่ได้แลกเปลี่ยนทักษะข้ามศาสตร์ เกิดเป็นพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ และสะท้อนว่าภาคใต้ ‘มีดี’ และ ‘มีโอกาส’ พร้อมก้าวไปสู่โอกาสการลงทุนและการต่อยอดอย่างแท้จริง”
ตัวอย่างพลังสร้างสรรค์ 5 จังหวัดที่เปล่งประกาย ประกอบด้วยพังงา สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ยะลา และสตูล
“เจริญอ่านเภสัช” จังหวัดพังงา โดย Soul Friend & Spiritual Garden
ร้านขายยาธรรมดาถูกตีความใหม่เป็น ‘ร้านจ่ายยารักษาใจ’ โดย ธวิศรุต บุรพัฒน์ และ ชนชญา ไชยอิ่นคำ สองนักสร้างสรรค์จาก Soul Friend & Spiritual Garden ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘พังงาพลังบวก’ ที่ยกระดับพื้นที่ให้กลายเป็นศูนย์กลางเยียวยาจิตใจ
“Island Frequencies: Music, Art & Paradise” จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย Art in Paradise School
เสน่ห์ศิลปะและดนตรีจากเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จาก Art in Paradise School นำเสนอเทศกาล “Island Frequencies: Music, Art & Paradise” มาสู่ใจกลางเมืองสงขลา การแสดงผสมผสานอัตลักษณ์ชาวเกาะกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ และความร่วมมือกับดีเจชาวฝรั่งเศสเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เชื่อมท้องถิ่นกับสากล
ขณะเดียวกัน ยังมีห้องสมุด ยับ เอี่ยน ฉ่อย ที่จัดแสดงนิทรรศการ “เก้าอี้ 3 ตัว” จากวัสดุรีไซเคิล ที่เล่าเรื่องราวการดูแลรักษาท้องทะเลจากขยะ รวมจนถึงวิถีชีวิตและเสียงทะเลให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส โดยความร่วมมือครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิด แต่ยังสะท้อนโอกาสของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เติบโตจากงานศิลปะของชุมชนและความภาคภูมิใจของคนในพื้นที่ ที่สามารถต่อยอดวัฒนธรรมสู่การท่องเที่ยวได้
De’ Lapae Art Space Narathiwat “Ask Yourself to Narathiwat Beyond” จังหวัดนราธิวาส โดย ดร. ปรัชญ์ พิมานแมน และ ผศ. คีต์ตา อิสรั่น
นราธิวาสกำลังเป็นพื้นที่วัฒนธรรมที่น่าจับตา โครงการ De’ Lapae Art Space ชวนให้ผู้คนกลับมาค้นหามิติใหม่ของนราธิวาส ผ่านการตีความสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมอย่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สายน้ำ ป่าเขา และเรื่องเล่าท้องถิ่นที่คุ้นเคยแต่ถูกละเลย โดยมี ดร. ปรัชญ์ พิมานแมน และ ผศ. คีต์ตา อิสรั่น นำทีมศิลปิน นักออกแบบ และชุมชนสร้าง ‘บทสนทนา’ (Dialogue) ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน โดยเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้ลงลึกกับชุมชนเพื่อถอดรหัสอัตลักษณ์และตีความใหม่
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือผลงานของกลุ่ม Bunga Melayu ที่ศึกษาลวดลาย ‘เรือกอและ’ และต่อยอดสู่งานออกแบบร่วมสมัย ขณะที่กลุ่ม Muslimah Collective ลงพื้นที่บ้านกูยิ ทำงานคลุกคลีกับผู้คนจริง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาและทรัพยากรท้องถิ่น ส่วนกลุ่ม Rolling Wild ที่ใช้ฟิล์ม Super 8 บันทึกภาพเคลื่อนไหวของชุมชนจังหวัดนราธิวาสแบบที่ไม่เคยเห็น ได้ถ่ายทอดบรรยากาศของพื้นที่จนกลายเป็นบันทึกความทรงจำที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ดร. ปรัชญ์ ย้ำว่าการอนุรักษ์ที่แท้จริงคือต้องทำให้มรดกมีชีวิตและสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำคัญที่จะสร้างคุณค่าในอนาคตได้ต่อไป
YALA ICON จังหวัดยะลา โดย “NAYU COUTURE” The Real McCoy
ยะลาตอกย้ำศักยภาพในฐานะศูนย์กลางแฟชั่นมลายู กับโครงการ “NAYU COUTURE” ภายใต้แนวคิด YALA ICON โดยมี เอกรัตน์ สุวรรณรัตน์ นำทีมสร้างสรรค์ โครงการนี้มุ่งยกระดับอัตลักษณ์มลายูสู่เวทีแฟชั่นร่วมสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Real McCoy” ที่เน้นความแท้จริงและการเล่าเรื่องอย่างภาคภูมิใจ ไฮไลต์สำคัญคือแฟชั่นโชว์คอลเล็กชันพิเศษ 15 ผลงาน สะท้อนความประณีตของหัตถศิลป์ท้องถิ่น ตั้งแต่บาติกปั๊มลายจนถึงการปักกะปิเยาะห์ ควบคู่กับนิทรรศการและเวทีเสวนาที่เชื่อมโยงนักออกแบบ ช่างฝีมือ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์
คุณเอกรัตน์กล่าวว่ายะลามีรากฐานแฟชั่นมลายูที่ลึกซึ้ง และแฟชั่นร่วมสมัยสามารถเดินเคียงคู่กับมรดกทางวัฒนธรรมได้อย่างทรงพลัง ด้วยการนำทักษะของช่างฝีมือมาผสานกับมุมมองของดีไซเนอร์เพื่อยกระดับอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายท้องถิ่นสู่เวทีโลก
“สตูล ‘ปลา’ ณีต Satun Folk & Fine” จังหวัดสตูล โดย ภาคีนักสร้างสรรค์สตูล
เสน่ห์ของสตูลสะท้อนผ่านความประณีตของการทำประมงพื้นบ้านและการปรุงวัตถุดิบสดจากทะเลอย่างพิถีพิถัน จังหวัดเล็ก ๆ ที่เปรียบเสมือน ครัวกระจายอาหาร ของทุกภูมิภาคนี้ ถูกนำมาเล่าใหม่ใน
มิติสร้างสรรค์ภายใต้โครงการ “สตูล ‘ปลา’ ณีต Satun Folk & Fine” โดย เยาวนันท์ เส็นติระ และกลุ่มนักสร้างสรรค์ท้องถิ่น กิจกรรมของโครงการครอบคลุมตั้งแต่งานศิลปะเครื่องมือประมง การปรุงเมนูพื้นถิ่น ไปจนถึงการท่องเที่ยววิถีประมงเชิงอนุรักษ์แบบ One Day Trip เพื่อพาผู้มาเยือนไปสัมผัสชีวิตชาวประมงที่แท้จริง
คุณเยาวนันท์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่ร่วมเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ เราเห็นตรงกันว่าการประมงคือหัวใจของเศรษฐกิจชุมชน โครงการนี้จึงเกิดจากความร่วมมือของคนในพื้นที่ ศิลปิน ภาครัฐ และภาคธุรกิจ เพื่อชวนผู้คนมาสัมผัสและต่อยอดสิ่งที่เรามีให้กลายเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน”
PTDW2025 คือบทพิสูจน์ว่าภาคใต้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว แต่กำลังก้าวขึ้นเป็น “ภูมิภาคสร้างสรรค์” ที่ใช้พลังงานวัฒนธรรมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม จากพื้นที่เชิงชุมชน ขยายสู่การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม และต่อยอดไปสู่การสร้างองค์ความรู้ เพื่อให้ปักษ์ใต้ไม่เพียง “น่าอยู่” แต่ยัง “น่าลงทุน” และ “น่าท่องเที่ยว” อย่างยั่งยืน


