"ไข่ผำ" พืชจิ๋วพื้นบ้าน สู่ผักแผ่นอบกรอบ นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต
จากวัตถุดิบท้องถิ่นที่หลายคนคุ้นเคย ทีมนักวิจัยธรรมศาสตร์ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมเปลี่ยน "ไข่ผำ" ให้เป็นสแน็คเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพและมองหาแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ๆ "อาหารแห่งอนาคต" (Future Food) จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปล่าสุด ผศ.ดร.กฤติยา เขื่อนเพชร อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้นำเสนอหนึ่งในนวัตกรรมที่น่าจับตา คือการแปรรูป "ไข่ผำ" ซูเปอร์ฟู้ดขนาดจิ๋วของไทย ให้กลายเป็น "ผักแผ่นอบกรอบ" ที่ทั้งอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเก็บรักษาได้ยาวนาน
ไข่ผำ: แหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ที่ไม่ได้มาจากสัตว์
ผศ.ดร.กฤติยา อธิบายว่า ไข่ผำกำลังถูกจับตามองในฐานะ "Future Food" เนื่องจากเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริโภคกลุ่ม Plant-based ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หรือแม้กระทั่งแมลงซึ่งกำลังเป็นอีกหนึ่งกระแสโปรตีนทางเลือก
"เดี๋ยวนี้คนอยากกินอาหารที่ไม่ได้มาจากสัตว์ แล้วไข่ผำมีโปรตีนสูง มันก็จะเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่มองหาแหล่งโปรตีน" ผศ.ดร.กฤติยา กล่าว
นอกจากนี้ยังเป็นทางออกสำหรับผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
จากฟาร์มคุณภาพสู่ห้องแล็บ: จุดเริ่มต้นของนวัตกรรม
หนึ่งในข้อกังวลของผู้บริโภคคือแหล่งที่มาของไข่ผำ ซึ่ง ผศ.ดร.กฤติยา ชี้แจงว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้น ไม่ได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป
แต่มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างดี ทั้งความสะอาดและค่า pH ของน้ำ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในความปลอดภัย
ไข่ผำสดจะถูกนำมาผ่านกระบวนการทำแห้ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา (Shelf life) แต่ยังช่วยลดกลิ่นเขียวเล็กน้อยที่บางคนอาจไม่คุ้นเคย
และทำให้ได้วัตถุดิบที่เหมาะกับการนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่น่าสนใจคือ ไข่ผำอบแห้งจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับ "มัทฉะ" อีกด้วย
"ผักแผ่นอบกรอบ": ผสานคุณค่าจากไข่ผำและผักเคล
นวัตกรรม "ผักแผ่นอบกรอบ" ไม่ได้มีเพียงไข่ผำเป็นพระเอก แต่ยังมีการผสานคุณค่าจาก "ผักเคล" (Kale) ราชินีแห่งผักใบเขียว เข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญ
- ไข่ผำ : ทำหน้าที่เป็นแหล่งโปรตีนหลัก
- ผักเคล : ให้กากใยอาหาร (Fiber) สูง ซึ่งช่วยในการขึ้นรูปแผ่นให้มีโครงสร้างที่สมบูรณ์ และยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
- การปรุงรส : ไม่ใช้ผงชูรส แต่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ผงเห็ดหอม ผงหัวหอม พริกไทย และน้ำมันงา เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและดีต่อสุขภาพ
"การกินผลิตภัณฑ์นี้จะได้อะไรบ้าง ก็คือได้โปรตีน เส้นใย แล้วก็ได้พวกวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) " ผศ.ดร.กฤติยา กล่าว
โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนา Food Innovation ที่นำพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นมาต่อยอด
โดยในอนาคต ไข่ผำยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกมาก เช่น การสกัดโปรตีนเพื่อทำเป็นอาหารเสริมรูปแบบเวย์โปรตีนสำหรับผู้ออกกำลังกาย
หรือแม้กระทั่งการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามองสำหรับซูเปอร์ฟู้ดไทยชนิดนี้


