'N-sense' นวัตกรรมไทย ตรวจสาร BY2 ตกค้างในทุเรียน ลดรายจ่าย 10 เท่า
สวทช. พัฒนาต้นแบบ 'N-sense' อุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์สาร BY2 ตกค้างในทุเรียนแบบพกพา รู้ผลใน 20 นาที ลดต้นทุน 10 เท่า สำเร็จ!
หากย้อนอาการปวดขมับของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนในปีนี้ เหตุการณ์หนึ่งคงหนีไม่พ้นตั้งแต่เดือน มกราคม 2568 ทางการจีนบังคับให้ทุเรียนทุกล็อตที่นำเข้าประเทศจีน ต้องตรวจสาร BY2 (Basic Yellow 2) และ Cadmium ซึ่งนับเป็นปีแรกที่จีนตรวจเข้ม
ในช่วงเวลาดังกล่าวนี่เองทำให้ทุเรียนไทยหลายตู้ถูกปฏิเสธ จนกระทั่งในเดือน กุมภาพันธ์ ไม่กี่อาทิตย์ถัดมา กรมวิชาการเกษตรต้องสั่งทำลายทุเรียนกว่า 64 ตัน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และระงับการส่งออกของ 26 โรงคัดบรรจที่มีสาร BY2 หลงเหลือ จนนำไปสู่การสอบสวนแล็บ และดีลกับจีนเปลี่ยนจากการตรวจ 100% เป็นการสุ่มตรวจแทน!
ราคาผลผลิตของทุเรียนไทยจากภาคตะวันออกเริ่มมีปัญหานับตั้งแต่นั้น แม้ว่าในช่วงเดือนเมษายน 2568 จะมีข่าวออกมาว่า สาร BY2 ไม่ได้มาจากทุเรียนแต่จากกล่องกระดาษที่ใช้บรรจุ ภายหลังได้มีมาตรการผ่อนปรนจากทางจีน แต่ประเทศไทยก็ต้องเพิ่มมาตรฐานห้องแล็บและการทำความสะอาดโรงคัดบรรจุอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผลเสียที่เกิดขึ้นก็กระทบกับเกษตรกรและตลาดทุเรียนไทยอย่างชัดเจน!
กลับมาที่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน คำถามคือ แล้วพวกเขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ทุเรียนของตนเองไม่ปนเปื้อน หรือถ้าปนเปื้อนก็ไม่ใช่เกษตรกรที่เป็นต้นเหตุ เพราะสุดท้ายความเสียหายก็กลับมาที่ราคาทุเรียน ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง
โพสต์ทูเดย์ ได้พบความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ จากฝั่งของศูนย์นาโนเทค สวทช. ซึ่งเป็นการคิดค้นนวัตกรรมนำมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคิดค้นนวัตกรรมที่มีชื่อว่า N-sense
N-sense คือ อุปกรณ์วิเคราะห์สารตกค้าง BY2 (Basic Yellow 2) ในทุเรียนแบบพกพา โดยมีจุดเด่นเรื่องของการใช้งานสะดวก สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ เสมือนยกห้องแล็บมาไว้ในมือ
นวัตกรรมนี้สามารถย่นระยะเวลาในการตรวจจากวิธีในการตรวจวัดแบบมาตรฐานที่ทางเกษตรกรหรือโรงคัดบรรจุ (ลัง) ใช้อยู่ ซึ่งต้องส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ใช้เวลา 48 ชั่วโมง เหลือเพียง 20 นาที และทำให้ต้นทุนเหลือแค่หลักร้อยบาท หรือลดลงกว่า 10 เท่า
สำหรับนวัตกรรม N-sense เกิดจากการต่อยอดองค์ความรู้ด้านนาโนเทคโนโลยี เซ็นเซอร์และการตรวจวัดที่ทีมวิจัยมีศักยภาพอยู่แล้ว สู่เครื่องมือที่จะช่วยตรวจคัดกรองให้เกิดความรวดเร็วในการตรวจสอบ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาของเกษตรกร ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ ขั้วเซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้าที่จำเพาะกับสาร BY2 และเครื่องอ่านและประมวลผลแบบพกพา แม้ว่าจะไม่ได้ไปทดแทนวิธีการตรวจแบบมาตรฐานจากห้องปฏิบัติการกลาง แต่จะช่วยคัดกรองเพื่อลดภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายและระยะเวลา และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรของไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยจาก ดร.อรรณพ คล้ำชื่น ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการวิเคราะห์ระดับนาโนขั้นสูง ความปลอดภัยและสารสนเทศ นาโนเทค สวทช. ว่า ยังสามารถพัฒนาต่อยอดในการตรวจวัดสารปนเปื้อนชนิดอื่นๆ ในอุตสาหกรรมผลผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออกได้อีกด้วย


