เปลี่ยนภาพถ่ายตัวเองให้เป็นงานศิลปะแบบก้างปลาด้วยเลนส์อัจฉริยะ
หลายท่านเคยเห็นกล้องที่ช่วยให้ภาพสวยคมชัดมามากมาย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกล้องที่ทำให้ตัวเรากลายเป็นก้างปลากันบ้าง
ที่ผ่านมาเราต่างคุ้นเคยกับการใช้งานกล้องที่มีความละเอียดสูง การจับภาพแต่ละครั้งสามารถให้ภาพได้คมชัดเนียนตา ระบบชดเชยแสงสว่าง เพิ่มสีสัน แสงเงาต่างๆ เพื่อให้ภาพที่สวยตระการตาที่สุดเท่าที่ทำได้ นับเป็นจุดหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปมาตลอด
แต่นี่จะเป็นครั้งแรกกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะทำให้ตัวเราในรูปถ่ายหรือวีดีโอกลายเป็นก้างปลา
PrivacyLens กล้องอัจฉริยะที่เปลี่ยนเราเป็นก้างปลา
ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก University of Michigan กับการคิดค้นเลนส์อัจฉริยะชนิดใหม่ PrivacyLens ที่จะเปลี่ยนภาพบุคคลที่ได้รับการจับและบันทึกภาพทั้งหมดให้กลายเป็นก้างปลา แต่ยังสามารถตรวจจับอิริยาบทและการเคลื่อนไหวของเราได้อย่างแม่นยำ
ตัวกล้องอาศัยการทำงานผ่านระบบกล้องคู่ ประกอบด้วย กล้องวีดีโอมาตรฐาน และ กล้องตรวจจับความร้อน อาศัยระบบตรวจจับอุณหภูมิเพื่อระบุตำแหน่งและการคงอยู่ของบุคคล จากนั้นตัวกล้องจะแทนที่ภาพของบุคคลที่จับได้ด้วยเส้นไม้ขีดไฟหรือก้างปลาแทน
แม้จะถูกเปลี่ยนเป็นก้างปลาแต่การติดตามตำแหน่ง การเคลื่อนไหว และพฤติกรรมของระบบยังคงใช้งานตามปกติ ทำให้กล้องชนิดนี้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ติดตามสถานะ การเคลื่อนไหว และภาวะสุขภาพของบุคคลได้เช่นเดิม จึงสามารถใช้สนับสนุนการออกกำลังกายหรือตรวจการหกล้มของผู้สูงอายุโดยไม่มีปัญหา
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือบุคคลภายในภาพจะถูกแทนที่ด้วยการปลาจนไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกต่อไป
เมื่อความสะดวกจากอุปกรณ์อัจฉริยะมากจนไม่ปลอดภัย
ถึงตรงนี้หลายท่านย่อมตั้งคำถามว่าเหตุใดเราจึงอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นก้างปลาภายในกล้อง เมื่อการถ่ายรูปคือการเก็บช่วงเวลาแห่งความทรงจำขณะนั้นเอาไว้ และแน่นอนเป้าหมายการใช้งาน PrivacyLens ไม่ได้เข้ามาทดแทนกล้องถ่ายรูปทั่วไป แต่เป็นกล้องที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ
ปัจจุบันอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านมีการติดตั้งกล้องเอาไว้นานาชนิด ตั้งแต่กล้องวงจรปิด ลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ททีวี ตู้เย็นอัจฉริยะ หรือแม้แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดที่เราไม่คิดฝันว่ามีกล้องก็มีการติดตั้งกันทั่วไป และถูกใช้ในการจับภาพภายในบ้านอย่างต่อเนื่อง
จริงอยู่กล้องเหล่านี้ช่วยเพิ่มศักยภาพอุปกรณ์ทำให้ชีวิตเรายิ่งสะดวกสบาย ในทางกลับกันก็ทำให้เราตั้งคำถามถึงความเป็นส่วนตัว เมื่อกล้องเหล่านี้ทำการจับภาพบางส่วนยังถูกส่งกลับไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์กลาง จนทำให้ภาพการใช้ชีวิตประจำวันหรือภาพส่วนตัวของเรารั่วไหลถึงภายนอก
ตัวอย่างของกรณีข้อมูลรั่วไหลนี้ เช่น ข้อมูลภาพถ่ายจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba J7 รั่วไหลจากบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งก่อนถูกปล่อยลงบนโลกออนไลน์ รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่พยายามแทรกแซงอุปกรณ์อัจฉริยะหลายชนิดภายในบ้าน จนเสี่ยงที่ภาพถ่ายส่วนบุคคลจะเกิดข้อมูลรั่วไหล
จริงอยู่นี่อาจเป็นกรณีเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็ชวนให้ตั้งคำถามการที่อุปกรณ์อัจฉริยะจะถูกใช้งานในการสอดแนม อีกทั้งความสะดวกสบายนี้มากเกินไปจนทำให้เราเสียความเป็นส่วนตัวหรือไม่?
ภาพถ่ายก้างปลา แก้ปัญหาความเป็นส่วนตัว
นี่เป็นเหตุผลให้ทาง PrivacyLens พัฒนาอุปกรณ์ลบและแก้ไขภาพของบุคคลออกก่อน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้งาน การเปลี่ยนเป็นก้างปลาช่วยให้เราไม่ต้องเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น เพศ หน้าตา หรือรูปร่าง ป้องกันการรั่วไหลข้อมูลที่อาจจะเกิดขึ้น
จากการทดสอบร่วมกับอาสาสมัคร 15 รายพบว่า การแทนที่ผู้ใช้งานด้วยภาพก้างปลา ช่วยให้พวกเขาสะดวกใจในการใช้งานมากขึ้น แม้จะมีการติดตั้งกล้องในส่วนที่เป็นส่วนตัวอย่างภายในห้องนอนหรือห้องน้ำ เพราะจะไม่มีข้อมูลใบหน้าหรือร่างกายหลุดออกไปได้อีก
PrivacyLens จึงถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสบายใจในการใช้งานอุปกรณ์อัจฉริยะมากขึ้น เพราะพวกเขามีสิทธิควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเต็มรูปแบบ สามารถกำหนดได้ว่าใครควรจะมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย
จริงอยู่ PrivacyLens ยังคงอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนา คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะสามารถเปิดตัวเชิงพาณิชย์ได้ แต่ในอนาคตทีมวิจัยตั้งเป้าว่า กล้องของพวกเขาจะถูกใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น กล้องรถยนต์ไร้คนขับ หรือ กล้องภายนอกอาคาร ป้องกันการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ใบหน้า ดวงตา หรือลายนิ้วมือ ต่อไป
ที่มา
https://news.umich.edu/youre-just-a-stick-figure-to-this-camera/
https://newatlas.com/technology/privacylens-camera-stick-figure/


