Grindr แอปหาคู่ LGBTQ+ ปิดฟีเจอร์แชร์ตำแหน่งในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก
Grindr แอปหาคู่สำหรับชาว LGBTQ+ ปิดฟีเจอร์ระบุตำแหน่งในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก เพื่อป้องกันนักกีฬาจากการถูกคุกคามหรือถูกเปิดเผยตัวตนโดยไม่ได้ตั้งใจ
สำหรับใครที่กำลังมองหาความรักกับนักกีฬาโอลิมปิกอาจลำบากหน่อยในปีนี้ เพราะ Grindr แอปหาคู่สำหรับชาว LGBTQ+ ได้ปิดฟีเจอร์ระบุตำแหน่งเพื่อป้องกันนักกีฬาจากการถูกคุกคามหรือถูกเปิดเผยตัวตนโดยไม่ได้ตั้งใจ
Grindr ตัดสินใจปิดการใช้งานฟีเจอร์ที่ใช้ตำแหน่งที่ตั้ง เช่น "Explore" และ "Roam" ภายในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้นักกีฬาเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่โดยไม่ตั้งใจ หรือถูกเปิดเผยตัวตนโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยบริษัทได้ชี้แจงผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ว่า
"หากนักกีฬาไม่ได้เปิดเผยตัวตนว่าเป็น LGBTQ+ หรือการเป็น LGBTQ+ เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศของพวกเขา การใช้แอปพลิเคชัน Grindr อาจทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว”
“การปิดฟีเจอร์ระบุตำแหน่งจะช่วยป้องกันพวกเขาจากบุคคลภายนอกที่อยากรู้อยากเห็น และพยายามระบุตัวบุคคลว่ามีนักกีฬาโอลิมปิกคนไหนบ้างที่เป็น LGBTQ+”
นอกจากนี้ Grindr ยังเพิ่มฟีเจอร์บางอย่างเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกด้วย เช่น การยกเลิกข้อความ (unsend) แบบไม่จำกัด,การปิดใช้งานวิดีโอส่วนตัวและห้ามแคปหน้าจอรูปโปรไฟล์และหน้าจอแชท
Grindr เริ่มจำกัดฟีเจอร์บางอย่างหลังการแข่งขันโอลิมปิกปี 2016 ปิดฉากลง เนื่องจากมีนักข่าวของ The Daily Beast สื่อสหรัฐฯได้นำเสนอข่าวว่ามีการใช้แอปฯ Grindr เพื่อสำรวจว่ามีนักกีฬาคนไหนบ้างที่เป็น LGBTQ+ รวมถึงอธิบายรูปลักษณ์ของนักกีฬาเหล่านั้น จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชมหลายราย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการจำกัดฟีเจอร์บางอย่าง แต่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกช่วงที่ผ่านมา มีนักกีฬา LGBTQ+ หลายรายยังต้องตกอยู่ในความเสี่ยงจากการถูกเปิดเผยตัวตน เช่น ในช่วงโอลิมปิกโตเกียว 2020 มีผู้ใช้ TikTok หลายรายได้โพสต์วิดีโอของนักกีฬาโอลิมปิกพร้อมโปรไฟล์ของพวกเขาที่พบเจอบนแอปฯ Grindr
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจาก OutSports ระบุว่า มีนักกีฬา LGBTQ+ ประมาณ 155 คนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปารีส ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นจากนักกีฬาทั้งหมดกว่า 10,000 คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน ขณะที่ Grindr เพิ่งประกาศแผนสลัดภาพลักษณ์แอปหาคู่แบบเดิมๆ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆที่หวังว่าผู้ใช้จะได้พบกับความสัมพันธ์ระยะยาว ส่งผลให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปีนี้


