posttoday

BCC เปิดเกมพลังงาน! แผ่นพื้นพลังงานจลน์สร้างไฟทุกครั้งที่ก้าว

08 ธันวาคม 2568

BCC เปิดประสบการณ์สร้างไฟฟ้าจากแรงก้าวเดินด้วยแผ่นพื้นพลังงานจลน์ใน NEXTOPIA พร้อมโชว์สายไฟรีไซเคิล GreenLoop ตอกย้ำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดยุคใหม่

KEY

POINTS

  • บางกอกเคเบิ้ล (BCC) เปิดตัวนวัตกรรม "แผ่นพื้นพลังงานจลน์" ที่สยามพารากอน ซึ่งสามารถเปลี่ยนพลังงานจากการก้าวเดินของผู้คนให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าได้
  • โครงการนี้เป็นพื้นที่ทดลองเชิงโต้ตอบที่พัฒนาร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์การสร้างพลังงานสะอาดด้วยตนเอง และสร้างความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี
  • นอกจากการผลิตไฟฟ้าแล้ว โครงการยังนำเสนอต้นแบบสายไฟ "GreenLoop" ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงานที่ยั่งยืนและเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน

บางกอกเคเบิ้ล (Bangkok Cable หรือ BCC) นำเสนอการทดลองใช้นวัตกรรมพลังงานรูปแบบใหม่ “แผ่นพื้นพลังงานจลน์” ภายในโซน NEXTOPIA ชั้น 5F และ 5M ของศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยจัดวางใน 6 จุด รวมพื้นที่ราว 100 ตารางเมตร เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมทดลอง “สร้างไฟฟ้า” จากแรงก้าวเดินของตนเอง พร้อมเกมแสงสีและสื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด เพื่อทำให้แนวคิดพลังงานทางเลือกเป็นเรื่องจับต้องได้มากขึ้น

 

BCC เปิดเกมพลังงาน! แผ่นพื้นพลังงานจลน์สร้างไฟทุกครั้งที่ก้าว

 

โครงการนี้เกิดจากการร่วมพัฒนาระหว่าง BCC และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) นำเทคโนโลยี Kinetic Tiles มาประยุกต์เป็นประสบการณ์ Interactive ในพื้นที่สาธารณะ แม้แผ่นพื้นชนิดนี้ยังไม่ได้วางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย แต่ BCC มองว่าการจัดแสดงในพื้นที่จริงจะช่วยให้สังคมเริ่มคุ้นเคยกับพลังงานที่มาจากการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ซึ่งอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต

 

BCC เปิดเกมพลังงาน! แผ่นพื้นพลังงานจลน์สร้างไฟทุกครั้งที่ก้าว

 

นอกเหนือจากตัวแผ่นพื้นทดลองใช้งาน BCC ยังแสดงต้นแบบสายไฟรุ่นใหม่ “GreenLoop” ซึ่งพัฒนาร่วมกับ KMITL เพื่อรองรับระบบของแผ่นพื้นพลังงานจลน์ในโครงการนี้โดยเฉพาะ จุดเด่นคือฉนวนผลิตจากวัสดุรีไซเคิลประเภท Post Consumer Recycle (PCR) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงราว 23% เมื่อเทียบกับฉนวนที่ผลิตจากพลาสติกใหม่ สะท้อนแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

 

BCC เปิดเกมพลังงาน! แผ่นพื้นพลังงานจลน์สร้างไฟทุกครั้งที่ก้าว

 

การติดตั้งภายใน NEXTOPIA ยังใช้ระบบสายไฟมาตรฐานของ BCC ทั้งหมด เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานจริงและตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันของทีมวิศวกร นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน และครีเอทีฟหลายสาขา เพื่อออกแบบพื้นที่ที่ทำหน้าที่อธิบายเทคโนโลยีใหม่ให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนทั่วไป

 

BCC เชื่อว่าการนำเทคโนโลยีมาแสดงในพื้นที่สาธารณะจะช่วยเปิดมุมมองต่อระบบพลังงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากการเคลื่อนไหวหรือวัสดุรีไซเคิลที่นำกลับมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ได้จริง ทั้งยังสื่อสารว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องไกลตัว การเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพลังงานในอนาคตได้

 

BCC เปิดเกมพลังงาน! แผ่นพื้นพลังงานจลน์สร้างไฟทุกครั้งที่ก้าว

 

ในมุมธุรกิจ BCC ยังคงตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านสายไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมีผลงานในโครงการใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น One Bangkok, สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2, สายไฟฟ้าใต้ดิน, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, รถไฟทางคู่สายตะวันออก รวมถึงการสนับสนุนโครงการ ASEAN Power Grid ผ่านโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในลาวล

 

FACT:

หลักการทำงาน: พลังงานจลน์ → ไฟฟ้า

พื้นฐานคือ Kinetic Energy (พลังงานจากการเคลื่อนไหว): เมื่อคนเดินหรือกระโดด พลังงานจลน์จากการเคลื่อนไหวนั้นสามารถ “เก็บ” และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้

 

แผ่นพื้นพลังงาน (kinetic floor tiles) เช่นที่พัฒนาโดยบริษัท Pavegen ถูกออกแบบให้ “ยืดหยุ่น” เมื่อผู้คนเหยียบลงไป (พื้นจะยุบเล็กน้อยประมาณ 5 มิลลิเมตร) ซึ่งการยุบนี้สร้างแรงกด (mechanical stress) ที่ไปกระตุ้นชิ้นส่วนภายใน tile ให้เกิดการเคลื่อนที่ของกลไก (mechanical → rotational motion) แล้วจึงแปลงเป็นไฟฟ้าผ่านกลไกเช่น ระบบหมุน (electromagnetic generator) หรือวัสดุที่ตอบสนองทางไฟฟ้าเมื่อถูกกด (piezoelectric materials)


หลังแปลงพลังงานได้ ไฟฟ้าที่ได้สามารถเก็บไว้ในแบตเตอรี่หรือใช้ทันที เช่น แสงไฟ LED, ป้ายไฟ, จุดชาร์จ, ระบบเซ็นเซอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้พลังงานน้อย เป็นต้น

 

ขีดจำกัด ผลิตได้จริง แต่ “ปริมาณ” มีข้อจำกัด

พลังงานที่ได้จากแต่ละก้าวเดิน “ค่อนข้างน้อย” ในมุมของไฟฟ้าทั่วไป — แผ่น kinetic tile โดยทั่วไปผลิต “ประมาณ 2–8 วัตต์” ต่อการก้าว 1 ครั้ง (step) ในช่วงพีค (peak)

 

ถ้าพื้นที่นั้นมีคนเดินผ่านเยอะมาก (foot traffic สูง) พลังงานรวมอาจพอมีประโยชน์ เช่น สำหรับไฟแสงสว่าง ไฟป้าย เซ็นเซอร์ หรือระบบที่ใช้พลังงานต่ำ ถึงปานกลาง แต่ยากที่จะใช้เลี้ยงอาคารทั้งหลังหรืออุปกรณ์กินไฟมาก ๆ ได้

 

อีกข้อจำกัดคือ ระบบแปลงพลังงาน ประสิทธิภาพการแปลง (conversion efficiency) จากพลังงานกล → ไฟฟ้า มักไม่ได้ 100% (บางระบบอาจแปลงได้แค่ส่วนน้อยของพลังงานที่ถูกกด)

 

การใช้งานจริงที่พอเหมาะ

กลุ่มที่ “เหมาะ” สำหรับเทคโนโลยีพื้นแบบ kinetic:

  • พื้นที่ที่มีคนเดินผ่านเยอะมาก เช่น สถานีรถไฟ/รถไฟฟ้า สนามบิน ห้างสรรพสินค้า ทางเดินสาธารณะ สนามกีฬา โถงทางเดิน ฯลฯ — เพราะยิ่งมี foot traffic มาก พลังงานสะสมยิ่งเยอะ
  • ใช้กับงานที่กินพลังงานไม่มาก เช่น ไฟ LED / โคมไฟทางเดิน / ไฟตกแต่ง / เซ็นเซอร์ / จุดชาร์จมือถือ / ป้ายดิจิทัล / ระบบแสง–สี–เสียง interactive / งาน “พลังงานพิเศษ” ที่ต้องการให้เห็น “พลังงานจากคนเดิน” เพื่อสร้าง awareness หรือประสบการณ์เชิงอนุรักษ์

 

 

ข่าวล่าสุด

'อนุทิน' ลั่น ไม่เจรจา จะหยุดสู้รบเมื่อกัมพูชาทำตามเงื่อนไขไทย