posttoday

กรุงเทพฯ ขยับขึ้นอันดับ 11 เมืองไลฟ์สไตล์แพงสุดในโลก ปี 2025

31 กรกฎาคม 2568

‘กรุงเทพฯ’ ขยับขึ้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงลิ่วอันดับ 11 ของโลกแซงหน้าโตเกียว เผยราคาสินค้าโดยเฉพาะรองเท้าสตรีและรถยนต์หรูสูงเป็นพิเศษ!

KEY

POINTS

  • รายงานระดับโลกเผย 'กรุงเทพฯ' ขยับขึ้นเป็นเมืองค่าครองชีพแพงต้นๆของโลก (อันดับ 11) ไต่อันดับขึ้นพรวดเดียว 6 อันดับ ดัชนีสินค้าไลฟ์สไตล์/แบรนด์เนมที่ถูกระบุว่าซื้อในกรุงเทพฯแพง คือ รองเท้าสตรีและรถยนต์หรู
  • กลุ่มคนร่ำรวย หรือ High-Net-Worth Individuals (HNWIs) ในเอเชียเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 855,000 คน
  • คาดว่าในช่วงปี 2025–2028 เอเชียจะสามารถผลิตคนมั่งคั่งกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นถึง 47.5% ของทั้งหมดในระดับโลก โดยมีจีนและอินเดียเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักในการเติบโต
  • Lifestyle Index ของ Julius Baer พบว่ากลุ่ม HNWIs หันมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ชีวิต เช่น การท่องเที่ยว สุขภาพ และการรับประทานอาหารหรู มากกว่าการซื้อสินค้าแบรนด์เนมหรือของชิ้นใหญ่แบบดั้งเดิม

จากการจัดอันดับล่าสุดของ Julius Baer Global Wealth and Lifestyle Report ปี 2025 ระบุว่า กรุงเทพฯ มีราคาสินค้าและบริการบางประเภทที่สูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรองเท้าสตรีและรถยนต์หรู ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีฐานะในเมืองหลวงของไทยที่หันมานิยมแบรนด์เนมและสินค้าคุณภาพสูงมากขึ้น ขณะที่บริการบางอย่างยังคงมีราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ระดับโลกอื่น ๆ

 

เอเชีย–แปซิฟิกยังคงเป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งระดับโลกอย่างต่อเนื่อง จากรายงานล่าสุดโดย Julius Baer Global Wealth and Lifestyle Report 2025 ที่เผยให้เห็นภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจและพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มคนร่ำรวย หรือ High-Net-Worth Individuals (HNWIs) ทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ซึ่งเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้เติบโตถึง 4.5% ในปี 2024 แม้จะลดลงเล็กน้อยจาก 5.1% ในปี 2023 แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 3.3% ทั้งนี้ จำนวน HNWIs ในเอเชียเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 855,000 คน

 

และคาดว่าในช่วงปี 2025–2028 เอเชียจะสามารถผลิตคนมั่งคั่งกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นถึง 47.5% ของทั้งหมดในระดับโลก โดยมีจีนและอินเดียเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักในการเติบโต

 

พฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มคนร่ำรวยในปัจจุบันยังสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ

 

โดยจากข้อมูลใน Lifestyle Index ของ Julius Baer พบว่ากลุ่ม HNWIs หันมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ชีวิต เช่น การท่องเที่ยว สุขภาพ และการรับประทานอาหารหรู มากกว่าการซื้อสินค้าแบรนด์เนมหรือของชิ้นใหญ่แบบเดิม

 

โดยเฉพาะในเอเชีย–แปซิฟิก ซึ่งราคาสินค้าหรูบางหมวดปรับตัวลดลง เช่น สินค้าเทคโนโลยีราคาลดลงเฉลี่ยถึง 21.4% ขณะที่ราคาบริการเช่นตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจกลับเพิ่มขึ้นกว่า 12.6% สะท้อนแนวโน้มที่คนร่ำรวยยอมจ่ายเพื่อการเดินทางและความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งนี้ รายงานยังระบุว่า HNWIs ในภูมิภาคนี้ถึง 100% ต่างกำลังลงทุนในสุขภาพและอายุยืน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดี ไปจนถึงการทำ cryotherapy หรือการบำบัดยีน (gene therapy)

 

ในแง่ของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพ รายงานได้จัดอันดับ 25 เมืองทั่วโลก โดยพบว่า สิงคโปร์ยังคงครองอันดับ 1 ของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน แม้ราคาสินค้าและบริการจะสูง แต่ก็แลกมากับความมั่นคงทางการเมือง ระบบสาธารณูปโภคคุณภาพดีเยี่ยม และระบบสุขภาพ–การศึกษาที่โดดเด่น ทำให้ยังคงดึงดูดกลุ่มคนมั่งคั่งจากทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนและพำนักอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่ ฮ่องกง ซึ่งอยู่ในอันดับ 3 ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่น่าสนใจ ด้วยจุดแข็งด้านภาษีต่ำ ชุมชนนานาชาติ และนโยบายการพำนักผ่านการลงทุน แม้ว่าในปีนี้ราคาที่อยู่อาศัยหรูจะลดลงถึง 26% แต่ก็ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของคนร่ำรวย โดยเฉพาะจากจีนแผ่นดินใหญ่

 

และที่น่าจับตามองคือ กรุงเทพมหานคร ที่ปีนี้ขยับขึ้นถึง 6 อันดับจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ อันดับ 11 กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพเพื่อการใช้ชีวิตแบบหรูหราสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น รองเท้าสตรีแบรนด์หรูและยานยนต์ ที่มีราคาสูงกว่าหลายเมืองในโลก

 

แม้ว่าบริการบางอย่าง เช่น การทำเล็บหรือการทานอาหารนอกบ้านยังอยู่ในระดับ "จับต้องได้" เมื่อเทียบกับมหานครอื่น ๆ เช่น โตเกียว (อันดับ 17) และเซี่ยงไฮ้ (อันดับ 6) ด้านเมือง มะนิลา และ มุมไบ ที่อยู่ในอันดับ 23 และ 20 ตามลำดับ ยังคงมีค่าครองชีพที่เอื้อมถึง โดยเฉพาะในหมวดที่พักและการท่องเที่ยว

 

รายงานฉบับนี้จึงไม่เพียงสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก หากยังเผยให้เห็นว่าเอเชีย–แปซิฟิกกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งใหม่ของโลก พร้อมด้วยเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในแง่ไลฟ์สไตล์ระดับบน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากลุ่มคนมั่งคั่งกำลังเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมต่อโลกแห่งความหรูหราไปสู่สิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตและประสบการณ์มากยิ่งขึ้น

 

อันดับเมืองในเอเชีย–แปซิฟิก ที่มีค่าครองชีพแบบ “Living Well” สูง

Julius Baer จัดอันดับเมืองต่าง ๆ ตามต้นทุนของ “ตะกร้าไลฟ์สไตล์” ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้า 11 รายการ (เช่น รถยนต์ นาฬิกา แว่นคลาสเสื้อผ้า พร้อมสินค้าเทคฯ) และบริการอีก 9 รายการ (เช่น business-class flight, degustation dinner, private school, spa)

โดยอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดใน เอเชีย–แปซิฟิก ปี 2025 ได้แก่:

  • สิงคโปร์ อันดับ 1 ของโลก โดยรักษาตำแหน่งนี้ไว้เป็นปีที่สาม
  • ฮ่องกง อันดับ 3 แม้เลื่อนลงหนึ่งอันดับจากปีที่ผ่านมา แต่ยังอยู่ในกลุ่มหัวแถว
  • กรุงเทพฯ ขยับขึ้น 6 อันดับ สู่ อันดับ 11 ของโลก
  • โตเกียว ขยับขึ้น 6 อันดับ กลายเป็นอันดับ 17 ของโลก
  • เซี่ยงไฮ้ ร่วงจากอันดับ 4 ลงไปอยู่อันดับ 6
  • มะนิลา อยู่ในอันดับ 23 แม้ราคาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 7.5% แต่ดัชนียังต่ำกว่าหลายเมือง
  • มุมไบ อยู่ที่อันดับ 20 และจัดอยู่ในกลุ่ม “จับต้องได้” โดยเฉพาะด้านบริการและการท่องเที่ยว

 

ข่าวล่าสุด

จ่อตั้ง 1 จังหวัด 1 คลินิก 'การแพทย์แม่นยำ' ถอดรหัสพันธุกรรมโรคมะเร็ง-โรคหายาก