ย่าน “ลาดพร้าว” มาแรงขึ้นแท่นทำเลฮิตแบรนด์คอนโด หลังเปิดสายสีเหลือง
ดาต้าเซ็ต สำรวจตลาดการซื้อขายคอนโดมิเนียมบนสื่อสังคมออนไลน์ พบทำเลใกล้รถไฟฟ้ายังเป็นพื้นที่ที่ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้ความสนใจ โลเคชั่นย่านลาดพร้าวมาแรงหลังรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการ
“เอพี” เป็นแบรนด์ที่ได้รับการมีส่วนร่วม หรือเอ็นเกจเมนต์มากที่สุด ส่วน “อนันดา” เป็นแบรนด์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในโซเชียลมีเดีย ช่วงการสำรวจ 13 ก.พ. – 13 มี.ค. 2567
ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยโดยเฉพาะประเภทคอนโดมิเนียมที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยังคงถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัว แต่คอนโดมิเนียมในทำเลที่มีศักยภาพสำหรับกลุ่มผู้บริโภครายได้ปานกลางถึงสูงยังคงมีแนวโน้มเติบโต รวมถึงชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน ซึ่งยังมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมาก
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ใช้เครื่องมือ DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ระหว่างวันที่ 13 ก.พ. – 13 มี.ค. 2567 เพื่อนำมาวิเคราะห์ตลาดการซื้อขายคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร พบว่ามียอดเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) หรือการมีส่วนร่วมมากถึง 429,263 ครั้ง
แบรนด์ที่ได้รับเมนชั่น (Mention) หรือกล่าวถึงมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
อนันดา (Ananda) เอพี (AP) แสนสิริ (Sansiri) ศุภาลัย (Supalai) เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (Major Development) ออริจิ้น (Origin) พฤกษา (Pruksa) แกรนด์ ยูนิตี้ (Grand Unity) โนเบิล (Noble) และ เซ็นทรัลพัฒนา (Central Pattana)
แบรนด์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) หรือให้ความสนใจในการมีส่วนร่วมมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
เอพี (AP) อนันดา (Ananda) เอสซีแอสเสท (SC Asset) ออริจิ้น (Origin) พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (Property Perfect) แสนสิริ (Sansiri) เรียลแอสเสท (Real Asset) พฤกษา (Pruksa) เทอร์ร่า ดีเวลลอปเม้นท์ (Terra Development) และ เซ็นทรัลพัฒนา (Central Pattana)
ส่องโพสต์ขายคอนโด “ทำเลใกล้รถไฟฟ้า” จุดขายยืนหนึ่ง
จากการสำรวจความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียช่วงวันที่ 13 ก.พ. – 13 มี.ค. 2567 พบว่า “ทำเลใกล้รถไฟฟ้า” ยังเป็นจุดเด่นที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุด โดย “ย่านลาดพร้าว” เป็นทำเลที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในการมองหาคอนโดมิเนียมมือหนึ่ง และ “ย่านอารีย์” เป็นย่านที่ผู้บริโภคสนใจมองหาคอนโดมิเนียมมือสอง
ซึ่งแต่ละแบรนด์หรือโครงการมีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีรสนิยมการเลือกซื้อคอนโดที่ไม่เหมือนกัน โดยพบว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์มักชูจุดขายในเรื่องที่ตั้งที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ามากที่สุด เนื่องจากคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดส่วนใหญ่มีพฤติกรรมที่ต้องการความเร่งรีบและสะดวกสบาย กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นพนักงานบริษัทที่ต้องการการเดินทางไปทำงานที่ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดส่วนใหญ่จะพิจารณาจากทำเลที่ตั้งควบคู่กันไปด้วย โดยพิจารณาจากทำเลในย่านธุรกิจ (CBD) ใกล้ทางด่วน ใกล้โรงพยาบาล ใกล้ห้างสรรพสินค้า หรือตลาด เป็นต้น
“คอนโดพร้อมอยู่” รุกเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติกำลังซื้อสูง
สถิติจาก International Organization for Migration (IOM) Mission in Thailand พบว่าจำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี เพราะปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศดึงดูดให้ชาวต่างชาติต้องการย้ายมาอาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งกฎหมายที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองห้องชุดได้ในอัตราส่วน 49% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมดในอาคาร หรือ คุณภาพการรักษาพยาบาลของไทยที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนซื้อคอนโดในไทยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองมากขึ้นโดยเฉพาะชาวจีน อ้างอิงข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ทำให้ในปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งตีตลาดรุกเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง
คอนโดเพื่อผู้สูงวัย รองรับ Aged Society
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย (Aged Society) เนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำลงและประชากรที่อายุมากกว่า 60 ปีเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าเริ่มพัฒนาและก่อสร้างคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุ โดยจะมีทีมแพทย์ที่ดูแลทั้งยามปกติและยามเจ็บป่วย และมีส่วนกลางที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุอีกด้วย
ซึ่งโครงการที่มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุในช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล ได้แก่ โครงการ PARC EXO เป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ BHS Group และ AgyHero ในการบริหารจัดการ Nursing Home แบบครบวงจรสำหรับลูกบ้านผู้สูงวัย โดยคอนโดได้มีการออกแบบให้เหมาะสมกับผู้คนทุกวัย พร้อมกับมีการอำนวยความสะดวกในด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุโดยทีมแพทย์มืออาชีพ และเครื่องมือที่ครบครัน ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะมีโครงการในลักษณะเช่นนี้ออกมามากขึ้น
ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมผ่าน DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด (dataxet:infoquest) โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 13 ก.พ. – 13 มี.ค. 2567
ที่มา: ดาต้าเซ็ต