KIA เปิดตัว “The Kia EV5” SUV ขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% เริ่มต้น 1,249,000 บาท

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งกันเดือดระอุเมื่อ แบรนด์เกาหลีฮึดสู้แบรนด์จีน งานมอเตอร์โชว์ 2024 ส่ง 2 แบรนด์คุ้นชื่อคุ้นมาตรฐานมาสู้ตลาด EV ทั้งฮุนได้ และ KIA

ล่าสุดแบรนด์ KIA โดยบริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด เปิดตัว The Kia EV5 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 พร้อมเคาะราคาพิเศษในช่วงเปิดตัวเริ่มต้นที่ 1,249,000 บาท

โดย “The Kia EV5” เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่ให้ความอเนกประสงค์อย่างเต็มรูปแบบรุ่นแรกในประเทศไทย ตอบรับกระแสความนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นด้วยการนำเสนอไลน์อัป
ยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความหลากหลายให้กับผู้บริโภคชาวไทย ตั้งเป้าเจาะกลุ่มคู่รักวัยมิลเลนเนียลและกลุ่มครอบครัวสมัยใหม่ ด้วยจุดเด่นแห่งยุคใหม่ของการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมการออกแบบอันโดดเด่นในสไตล์รถ

เอสยูวี ผสานความคล่องตัวและความสะดวกสบายที่เหนือชั้นเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง สมรรถนะแรงเต็มอัตรา มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัย และมีระยะขับขี่ได้ไกลที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน 

โดยไลน์อัปของ “The Kia EV5” ที่จะวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย พร้อมราคาพิเศษช่วงเปิดตัว จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2567 ได้แก่ 

The Kia EV5 Light ราคา 1,249,000 บาท 

The Kia EV5 Air ราคา 1,349,000 บาท 

The Kia EV5 Earth Long Range ราคา 1,549,000 บาท 

 The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ในราคา 1,749,000 บาท 

ผู้ที่สั่งจองรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นภายในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 จะได้รับการรับประกันคุณภาพนานถึง 7 ปีเต็ม บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ 8 ปี โดยสามารถสั่งจองได้ที่บูธเกียภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 7 เมษายน พ.ศ. 2567 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี และที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ

เปิดสเปค The Kia EV5 

The Kia EV5 มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้าหลากรูปแบบ โดยใน 2 รุ่นแรก คือ The Kia EV5 Light และ The Kia EV5 Air มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ โดยทั้งรุ่น Light และรุ่น Air ให้ระยะทางจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที ด้วยกําลังมอเตอร์สูงสุด 217 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 310 นิวตันเมตร มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

อีกทั้งยังมีฟีเจอร์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย ได้แก่ ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist และระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go โดยในรุ่น The Kia EV5 Air ยังมีระบบฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ซันรูฟแบบ Panoramic, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electric Tailgate), ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM)

ส่วนในรุ่น The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก ในขณะที่ให้ระยะการวิ่งจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC ได้ไกลมากถึง 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 

ส่วน The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 308 แรงม้า หรือ 230 กิโลวัตต์  และแรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร ส่วนอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดในระยะ 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge) โดยมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 38 นาที 

ทั้ง The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว นอกเหนือไปจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานรุ่นล่าสุดของเกียที่ติดตั้งใน The Kia EV5 ทุกรุ่นย่อยแล้ว The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range และ รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม

ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง (RCCA) ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง (BCAA) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (BVM) ระบบ Smart Cruise Control (SCC) พร้อม Stop & Go รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ช่วยให้รถยนต์วิ่งอยู่ตรงกลางของช่องจราจร และช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist) 

ภายในห้องโดยสาร The Kia EV5 ได้ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์และเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อที่ทันสมัย พร้อม Panoramic Wide Display ประกอบด้วย หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, จอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5 นิ้ว 

The Kia EV5 ยังมาพร้อมตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลาย และวัสดุหุ้มเบาะโดยสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งวัสดุหุ้มผ้ารีไซเคิลจากพลาสติก PET และหนังสังเคราะห์ Bio-PU ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในรุ่น Earth Exclusive AWD มีเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่แบบ Relaxation Seat ที่มาพร้อมฟังก์ชันการนวดถึง 4 รูปแบบ ระบบทำความอุ่น และระบายอากาศ 3 ระดับ รวมถึงหมอนรองน่องแบบปรับด้วยไฟฟ้า

นอกจากนี้ใน The Kia EV5 รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมาพร้อมกับลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิที่สามารถใช้เป็นตู้เย็น หรือตู้เก็บความร้อนสำหรับแช่เย็นเครื่องดื่ม หรือเก็บความร้อนของอาหารระหว่างการเดินทาง หรือการออกทริปแคมป์ปิ้งได้  โดยรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ 

นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “The Kia EV5 เป็นรถยนต์พลังงานฟ้ารุ่นที่ 2 ในตระกูลรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเกีย รถยนต์รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม EV เฉพาะของเกีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับประสิทธิภาพของยานพาหนะ รวมทั้งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่โดยรวมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เกีย"