จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’
KEY
POINTS
- ประเด็นดราม่าสุนัขกินข้าวในร้านอาหารที่ไทย สะท้อนว่าแนวคิด Pet Friendly ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทยและไม่มีกฎหมายรองรับชัดเจน
- เกาหลีใต้ได้แก้ไขกฎหมายสุขอนามัยอาหาร เพื่ออนุญาตให้ร้านอาหารสามารถนำสุนัขและแมวเข้ามาในพื้นที่รับประทานอาหารร่วมกับเจ้าของได้เมื่อเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา
- กฎหมายของเกาหลีใต้กำหนดเงื่อนไขด้านสุขอนามัยที่ชัดเจน เช่น การแยกพื้นที่ปรุงอาหารและภาชนะของคนกับสัตว์เลี้ยงออกจากกันโดยเด็ดขาด หรือสัตว์เลี้ยงจะต้องได้รับวัคซีนก่อน
โซเชียลมีเดียถกกันถึงดราม่าจากคลิปที่มี ‘น้องหมา’ ทานข้าวร่วมโต๊ะในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
กระแสจากคอมเมนต์ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกระทั่งทางร้านได้ออกมาชี้แจงถึงมาตรการ ทั้งการแยกจานข้าวระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง และระบบการทำความสะอาดที่แยกจากกันโดยเด็ดขาด
ดรามาที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เห็นว่า แนวคิด ‘Pet Friendly’ ยังใหม่นักในประเทศไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีธุรกิจด้านสัตว์เลี้ยงที่เติบโตเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงค่านิยมที่สัตว์เลี้ยงไม่เพียงแต่เป็นทรัพย์สิน แต่บางคนมีสัตว์เลี้ยงเหมือนดั่ง ‘สมาชิกครอบครัว’ ซึ่งอยากจะที่จะนำสัตว์เลี้ยงของพวกเขามาใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน
แม้ว่าเทรนด์ของสังคมจะค่อยๆ ออกมาให้เห็นชัดเจนเช่นนี้ แต่กฎหมายเป็นเรื่องที่ยังคงตามค่านิยมอยู่
เกาหลีใต้ เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เทรนด์การมีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกครอบครัวเติบโต แต่เกาหลีใต้ไปไกลกว่าหลายประเทศ เพราะเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2025 กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ ประกาศแนวทางแก้ไข กฎบังคับใช้พระราชบัญญัติสุขอนามัยอาหาร (Enforcement Rules of the Food Sanitation Act) เพื่อเปิดทางให้ร้านอาหารสามารถอนุญาตให้ สุนัขและแมวเข้ามาในพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้าของได้ ภายใต้เงื่อนไขด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด
การแก้ไขครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแนวปฏิบัติสมัครใจ แต่เป็นการปรับกฎหมายเพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของสังคมเกาหลีใต้ ซึ่งมีครัวเรือนเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหารแบบ pet-friendly เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย แม้ก่อนหน้านี้จะยังไม่มีกรอบกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน
หรือ กฎหมายบอกเลยว่า ‘ร้านอาหารถือเป็นพื้นที่ที่สัตว์เข้าไม่ได้’ เป็นหลัก
ทำ Sandbox ทดลองใช้กฎหมาย .. สู่การมีกฎหมายรองรับ
ก่อนหน้าการแก้ไขกฎหมายอย่างเป็นทางการ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ทดลองอนุญาตร้านอาหาร pet-friendly ผ่านระบบ Regulatory Sandbox ตั้งแต่ปี 2023 เป็นเวลาประมาณ 2 ปี เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านสุขอนามัยอาหารและพฤติกรรมผู้ใช้บริการ ผลการทดลองดังกล่าวนำไปสู่การตัดสินใจแก้ไขกฎหมาย เพื่อกำหนดกติกาที่ชัดเจนและบังคับใช้ได้จริง
หัวใจของกฎหมายฉบับแก้ไข คือ การเปลี่ยนแนวคิดจาก ‘ห้ามสัตว์เข้าร้านอาหารโดยเด็ดขาด’ มาเป็น อนุญาตได้หากสามารถควบคุมความเสี่ยงได้
โดยร้านอาหารไม่ถูกบังคับให้ต้องรับสัตว์เลี้ยง แต่หากสมัครใจเปิดบริการในรูปแบบนี้ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเฉพาะอย่างเคร่งครัด
รายละเอียดกฎหมายที่ร้านต้องปฏิบัติตาม
สำหรับรายละเอียดกฎหมายที่เกาหลีใต้ประกาศ ประกอบด้วยสาระสำคัญ ดังนี้
- กฎหมายกำหนดให้ร้านต้อง แยกพื้นที่ปรุงอาหาร จัดเก็บอาหาร และล้างภาชนะออกจากพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงเข้าถึงโดยเด็ดขาด ไม่ใช่เพียงการแบ่งเชิงสัญลักษณ์ แต่ต้องมีสิ่งกีดขวางทางกายภาพ เช่น ผนัง ประตู หรือแผงกั้น เพื่อป้องกันการปะปนอย่างแท้จริง
- ในพื้นที่รับประทานอาหาร ร้านต้องจัดระยะโต๊ะให้เหมาะสม ลดโอกาสการสัมผัสระหว่างสัตว์กับลูกค้าโต๊ะอื่น และป้องกันไม่ให้สัตว์เข้าใกล้อาหารของผู้อื่น กฎหมายจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่และการจัดการเชิงกายภาพ มากกว่าการพิจารณาเพียงพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง
- อีกข้อกำหนดสำคัญคือ ภาชนะของสัตว์เลี้ยงต้องแยกจากภาชนะของมนุษย์อย่างชัดเจน ทั้งการใช้งาน การล้าง และการจัดเก็บ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการปนเปื้อนอาหาร ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของกฎหมายสุขอนามัยอาหารในระดับสากล
- ด้านสุขภาพสัตว์ ร้านต้องประกาศเงื่อนไขชัดเจนว่า สัตว์ที่ไม่ได้รับวัคซีนไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ ขณะเดียวกัน ร้านยังต้องติดป้ายแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบว่าร้านอนุญาตสัตว์เลี้ยง เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ที่แพ้ขนสัตว์หรือไม่สะดวกใช้บริการร่วมกับสัตว์
- หากร้านฝ่าฝืนข้อกำหนดตามข้อกำหนดอาจถูกสั่ง ปิดกิจการชั่วคราวตามลำดับขั้นตั้งแต่ 5 วัน 10 วัน ไปจนถึง 20 วันหรือมากกว่า แทนการใช้เพียงโทษปรับ
….
สำหรับกรณีของเกาหลีใต้ เป็นตัวอย่างของการออกแบบกฎหมายที่รองรับกับวิถีชีวิตคนยุคใหม่ ทำให้ประชาชนมั่นใจต่อกฎหมายด้านอนามัยและสาธารณสุข และยังสนับสนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีพื้นที่ให้หารายได้เพิ่มเติม
ส่วนในประเทศในฝั่งยุโรปนั้น จะเน้นดุลยพินิจของผู้ประกอบการร้านอาหารและบรรทัดฐานทางสังคม แล้วแต่ว่าผู้ประกอบการจะอนุญาตหรือไม่ บางแห่งก็จะเน้นเป็นแค่เพื้นที่เอาท์ดอร์ภายนอกเท่านั้น เช่นเดียวกับประเทศไทย
….
ทั้งนี้ ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยมีมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในปี 2568 อยู่ที่ราว 9.2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2567 ถึง 13.2% และมีแนวโน้มทะลุ 1 แสนล้านบาทในปี 2569
สะท้อนว่า ‘คน’ พร้อมที่จะจ่ายให้แก่ ‘สัตว์เลี้ยง’ ของพวกเขามากกว่าที่คิด.


