บิลท์แลนด์ลุยแตกแบรนด์ใหม่ บุกทุกเซ็กเมนต์ดันโตปีละ10%

บิลท์ แลนด์ เผยดีมานด์ อสังหาฯ แนวรถไฟฟ้ายังสูงพร้อมแตกแบรนด์เลสโตเจาะตลาดล่าง เดินหน้าแต่งตัวเข้าตลาด ตั้งเป้าโตปีละ 10%

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการที่ต่างชาติหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะราคาถูกกว่าเมื่อเทียบในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ขณะที่การแข่งขันในตลาดยังสูง อีกทั้งราคาที่ดินแพงและหายาก โดยผู้ประกอบการจะต้องหาตลาดใหม่ๆ รองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

สำหรับในส่วนของบริษัทนั้น ยังเน้นพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งได้มีการสร้างแบรนด์ใหม่คือ เลสโต เพื่อขยายตลาดในเซ็กเมนต์ล่างในระดับราคาล้านต้นๆ กลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแทนการเช่า

ทั้งนี้ ล่าสุดเปิดขาย เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113 ใกล้สถานีสำโรง เป็น คอนโดสร้างเสร็จแล้ว แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ สูง 8 ชั้น 4 อาคาร 786 ยูนิต ขนาดห้อง 26.5-36 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 7 ไร่เศษ มูลค่า 1,068 ล้านบาท ในวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ ราคาขายเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายแล้ว 50% จาก 2 อาคาร คาดว่าในปีนี้จะมียอดขาย 70% จากทั้งหมด 4 อาคาร

อย่างไรก็ดี บริษัทได้ซื้อที่ดินย่าน ธูปะเตมีย์ราว 5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้หรือต้นปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการว่าจะเป็นคอนโดหรือแนวราบหรือทั้งสองอย่าง มูลค่าโครงการราว 300 ล้านบาท ทั้งนี้ 1-2 เดือนจะได้ความชัดเจน และในปีนี้ตั้งงบซื้อที่ดินเพิ่ม 1,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมีเป้าหมายจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2562 โดยมีแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น เพื่อขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนราคาเสนอขายต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อน คาดจะเสนอขายได้ราวไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ปี 2562 ทั้งนี้จะยื่นไฟลิ่งในไตรมาส 4 ปีนี้

"เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้พัฒนาโครงการในอนาคตซึ่งบริษัทพร้อมทำตลาดทุกเซ็กเมนต์ขึ้นอยู่กับที่ดินที่ได้มา และยังเปิดโอกาสร่วมทุนพัฒนาโครงการ โดยตั้งเป้าการเติบโตปีละ 10% ในปี 2562 มีแผนเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่าราว 1,100 ล้านบาท" นายชัยรัตน์ กล่าว

ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกราว 300 ล้านบาท มีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 4 โครงการ คือ เทมโป แกรนด์ สาทรวุฒากาศ และเทมโป ควอด สะพานใหม่ มีหน่วยรอขายรวม 60 ยูนิต ส่วนเดอะ ริทโม ชัยพฤกษ์-วงแหวน เฟสแรก 70 ยูนิต ขายได้แล้ว 70% และเปิดขายเฟส 2 จำนวน 120 ยูนิต จากทั้งหมด 300 ยูนิต ปีนี้บริษัทตั้งเป้า รายได้ที่ 1,000 ล้านบาท