สตูดิโอเรียบโก้ของ ธีระ-ประพัฒน์ศิริ ธีระกุลชัย

เรื่อง ณัฐพล ช่วงประยูร / ภาพ ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

มาเยี่ยมเยือนชั้น 8 ของโรงแรมนอร์ธเกต รัชโยธิน เซอร์วิส เรสสิเดนซ์ ที่ ธีระ ธีระกุลชัย หนึ่งในสี่เจ้าของและผู้บริหารระดับสูงอยู่ร่วมกับลูกและภรรยา

“แต่เดิมบ้านหลังของครอบครัว คือ คุณพ่อของผม และลูก 4 คน จะอยู่กันที่ย่านประชาชื่น ที่นั่นมีบ้าน 3 หลังในรั้วเดียวกัน ส่วนของผมกำลังทุบสร้างใหม่ ใช้เวลายาวนาน 4 ปีมาแล้วยังไม่เสร็จ เพราะเวลาส่วนใหญ่มาทุ่มให้กับธุรกิจโรงแรมนอร์ธเกต แห่งนี้ เมื่อที่นี่เสร็จ เราก็จัดสรรพื้นที่ของชั้นนี้สำหรับการอยู่อาศัยไว้ด้วยครับ”

บริษัท เทรนด์ ชิพ เพต โปรดักส์ ที่นำเข้าและส่งออกอาหาร และของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คือธุรกิจที่รุ่นพ่อของธีระดำเนินการมาโดยตลอด เรียกว่าเลี้ยงลูกๆ 4 คนจนโตมา กระทั่งมีครอบครัว และรุ่นของธีระและน้องๆ ทั้ง 3 คน ก็ลุยงานบนที่ดินมรดกแห่งนี้

“เดิมตรงนี้เป็นที่ดินเปล่าท้ายซอย เพราะสมัยนั้นยังไม่มีถนนเส้นรัชดา ถัดมาก็นำมาทำโกดังเก็บสินค้าของธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงพักหนึ่ง แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน เราก็เริ่มสร้างโรงแรมโลว์ ไรซ์ 8 ชั้น นอร์ธเกต ผม—ลูกชายคนโต ดูแลเรื่องโอเปอเรชัน น้องสาวคนที่ 2 ดูด้านการตลาด น้องสาวคนถัดไปดูแลเรื่องบัญชี และน้องชายคนสุดท้ายดูแลการจัดซื้อและระบบไอที

ธีระเพิ่งย้ายมาอยู่เพนต์เฮาส์เล็กๆ แห่งนี้ได้เพียง 1 เดือน ประพัฒน์ศิริ-ภรรยา เป็นหลักในการสร้างสรรค์ไอเดีย สไตล์นิวยอร์ก สตูดิโอแห่งนี้ตลอด 6 เดือนของการตกแต่ง

“ผมอยู่บ้านสไตล์เทรดิชันมานาน อยากได้อะไรที่ทันสมัย แบบชีวิตกลางเมือง แต่ยังคงความเรียบง่ายด้วย เนื่องจากพื้นที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ฉะนั้นเราจึงพยายามใช้ให้คุ้มค่าที่สุด”

จากประตูหน้าบ้านเข้าสู่แพนทรีเล็กๆ สำหรับจัดเตรียมอาหารพอประมาณ ถัดมาลีฟวิ่งรูมโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้าน ด้วยโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมจตุรัส กับเก้าอี้ เบาะสีม่วง 8 ตัว แชนเดอเลียร์ โมเดิร์นส่องสว่าง ไม่ว่าจะนั่งทำงานหรือรับประทานข้าวตรงนี้ ก็อบอุ่นสบาย
ในพื้นที่เดียวกัน โซฟายักษ์ 3 ที่นั่ง นุ่มสบาย สำหรับนั่งชมภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือชิลกับเพลงโปรดของธีระ เขาไม่ใช่คนติดทีวี ฉะนั้นถ้าจะดูหนังละก็แค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้นเอง แต่ห้องนี้เสน่ห์ล้นตรงที่ผนังด้านติดถนน มีระเบียงเล็กๆ นอกกระจกใสไว้ชมวิวยามค่ำ เห็นฟากฝั่งรัชโยธิน แจ่มชัด แม้จะสูงแค่ 8 ชั้น

ห้องเล็กๆ ติดกับห้องนั่งเล่นแห่งนี้ ยังถูกเตรียมไว้ให้เป็นห้องทำงานของธีระ และห้องการบ้านของลูกชายวัย 10 ขวบ ฟังก์ชันตรงนี้ ยาวไปถึงแพนทรี ถูกกันด้วยประตูกระจกอีกชั้น เผื่อว่าอนาคตกลายเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เจ้าของห้องจะแยกส่วนของแนนนี่ หรือคนงานไว้ได้ชัดเจน แต่จุดที่โดดเด่นของบ้าน แอบซ่อนอยู่ในห้องน้ำแขกเสียนี่

“เวลา 6 เดือนในการทำห้องนี้ ผมว่าก็นานอยู่ เพราะพื้นที่ไม่ได้ใหญ่นัก แต่ที่ใช้เวลากันมาก เห็นจะเป็นห้องน้ำด้านนอกข้างครัว ที่ไปเลือกกระเบื้องติดผนังที่ตลาดเก่ากับภรรยาอยู่ 4-5 รอบ และให้อินทีเรีย ดีไซเนอร์ กับช่างใช้เวลาหลายวัน กว่าจะจัดเรียงทุกอย่างให้ออกมาวาไรตีที่สุด”

ด้านในมี 2 ห้องนอน ห้องหนึ่งเป็นสีสดใส ฟ้า-เขียว มีห้องน้ำและวอล์ก อิน คลอเซตในตัว สำหรับ อูโณ่ ปริญ ลูกชายคนเดียวของทั้งคู่ ส่วนมาสเตอร์เบดรูมสุดเรียบง่าย ธีระและภรรยาอยู่ถัดไปด้านใน

“วันทำงาน ตื่นเช้า ลงไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงแรม ไปส่งลูก แล้วก็กลับเข้ามาดูแลการงาน ชีวิตบนบ้านจะอยู่กันอย่างเรียบง่าย สบาย แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า ที่นี่จะไม่ใช่ที่อยู่ถาวร เพราะเป้าหมายคือบ้านหลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ครับ”

อูโณ่ คนเก่ง เป็นนักกีฬาโรงเรียนนานาชาติแฮร์โรว์ เป็นหนุ่มน้อยสปอร์ต ผิวสีแทน เพราะรักชีวิตกลางแจ้ง ทั้งบาสเกตบอล ฟุตบอล แบดมินตัน ว่ายน้ำ ฯลฯ วิ่งมาทักทายพูดคุยเราอย่างไม่เก้อเขินเหมือนเด็กไทยเหนียมๆ พูดจาฉะฉาน ยิ้มแย้ม อารมณ์ดี สมกับที่พ่อแม่ทุ่มเทดูแลอย่างดี โดยเฉพาะประพัฒน์ศิริ เป็นคุณแม่เต็มเวลา เพื่อลูกจริงๆ

“บ้านไม่ใช่แค่ห้องหรือตัวอาคาร แต่หมายรวมถึงครอบครัว ความอบอุ่นในนั้น ผมใช้ชีวิตนอกบ้านและนอกประเทศตั้งแต่ 11 ขวบ เริ่มจากเรียนไฮสกูลที่สิงคโปร์ ไปต่อปริญญาตรีและโทที่สหรัฐอเมริกา กลับมาเมืองไทยจริงๆ ก็อายุ 24 แล้ว อยู่คนเดียว และไกลบ้านมาตลอด การกลับมามีชีวิตที่บ้าน มีคนที่คุ้นเคยและรักใคร่ มันคือความสมบูรณ์แบบครับ”