ต่อเติมบ้านให้ถูกวิธี

โดย...เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียนซ์

บ้านทั่วไปมักเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการต่อเติมส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว โรงจอดรถ หรือส่วนอื่นๆ ของบ้าน โดยเมื่อเวลาผ่านไปส่วนต่อเติมมักจะทรุดตัว และเกิดการแตกร้าวตามรอยต่อต่างๆ

รอยร้าว รอยรั่ว หรือรอยแยก ระหว่างส่วนต่อเติมกับตัวบ้านหลัก มักเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่ยืดหยุ่นในการเชื่อมรอยต่อเข้าด้วยกัน เช่น ปูนฉาบ ปูนยาแนว ดังนั้นจึงต้องเลือกใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นตัวสูงในการซ่อมแซม เช่น ซิลิโคน หรือโพลียูรีเทน (PU) โดยรอยต่อในแต่ละส่วนของบ้าน มีแนวทางในการซ่อมแซมดังนี้

รอยต่อส่วนผนัง การนำปูนทรายไปฉาบอุดรอยร้าวที่ผนังนั้น เป็นการซ่อมแซมได้เพียงชั่วคราว เพราะการทรุดตัวจะยังคงมีต่อไป วิธีแก้ไขที่แนะนำจึงควรตัดรอยต่อของผนังทั้งแนวให้ขาดจากกันทั้งด้านในถึงด้านนอก แล้วอุดรอยต่อนี้ด้วยวัสดุที่ยืดหยุ่น เช่น ซิลิโคน หากรอยต่อผนังดูไม่สวยงามก็สามารถใช้ไม้ หรือไม้เทียมปิดบังไว้ โดยยึดไม้ไว้กับผนังฝั่งตัวบ้านหลักหรือผนังฝั่งส่วนต่อเติมเพื่อให้รอยต่อสามารถขยับตัวได้

รอยต่อส่วนพื้น รอยแยกระหว่างยาแนวกระเบื้อง หรือรอยแตกของกระเบื้องซึ่งเกิดจากการปูคร่อมรอยต่อ สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดรอยต่อที่พื้นให้แยกจากกัน แล้วอุดด้วยซิลิโคน หรือ โพลียูรีเทน (PU) ในส่วนของรอยต่อที่พื้นสามารถปิดให้สวยงามได้โดยใช้วัสดุเป็นตัวจบ

รอยต่อส่วนหลังคากับบ้านหลัก โดยปกติแล้วบริเวณที่หลังคาชนกับผนังบ้าน จะมีการใช้ Flashing หรือที่เรียกกันว่า “ปีกนก” ปิดรอยต่อไม่ให้น้ำเข้า ซึ่งมีทั้งแบบปูน แบบแผ่นโลหะ และแบบแผ่นยาง ในกรณีรอยต่อระหว่างหลังคาส่วนต่อเติมใหม่กับตัวบ้าน แนะนำให้ใช้ Flashing แบบแผ่นโลหะ เช่น แผ่นสเตนเลส โดยกรีดร่องผนังบ้านหลักตลอดแนวหลังคาแล้วเสียบแผ่น Flashing เข้าไป จากนั้นจึงอุดร่องผนังและร่องระหว่างหลังคาด้วยโพลียูรีเทน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Flashing แบบแผ่นยาง ซึ่งติดตั้งง่ายกว่าเพียงลอกสติ๊กเกอร์แล้วแปะทับรอยต่อระหว่างผนังและหลังคาได้ทันที ทั้งนี้ Flashing แบบแผ่นยางจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบบโลหะ

วิธีดังกล่าวเป็นการซ่อมแซมเฉพาะรอยแตกร้าวระหว่างส่วนต่อเติมกับตัวบ้านที่เกิดจากการทรุดตัวของส่วนต่อเติมทั่วไป สำหรับกรณีที่ทำการต่อเติมผิดวิธี โดยเชื่อมโครงสร้างของส่วนต่อเติมเข้ากับบ้านหลักนั้น ปัญหาที่เกิดอาจไม่ใช่แค่รอยแตกร้าว แต่จะกระทบไปถึงโครงสร้าง เนื่องจากส่วนต่อเติมที่ทรุดตัวจะดึงรั้งโครงสร้างของบ้านให้ทรุดเอียงตามไปด้วย กรณีนี้เจ้าของบ้านควรหมั่นสังเกตรอยร้าวตามโครงสร้างเสา คาน หากพบรอยร้าวที่ผนังเป็นแนวเฉียงทแยงมุมจากบนลงล่าง ควรรีบปรึกษาวิศวกรเพื่อหาทางแก้ไข