ซีพีเอ็นต่อยอดค้าปลีก หยิบที่ดินใกล้ห้างทำคอนโด
มิกซ์ยูสของซีพีเอ็นอาจจะมีเพียงศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม แต่ปัจจุบันจะมีที่อยู่อาศัยเข้าไปอยู่ด้วย
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
หลังจากซุ่มเงียบในการพัฒนากลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยมาได้ราว 3 ปี พร้อมกับแตกบริษัทลูก ภายใต้ชื่อบริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ เพื่อดูแลกลุ่มธุรกิจดังกล่าวอย่างจริงจัง ล่าสุด ซีพีเอ็นก็พร้อมเปิดตัวกลุ่มธุรกิจโครงการพิเศษอย่างเป็นทางการ ประเดิมด้วย 3 โครงการคอนโดมิเนียม คือ 1.เอสเซ็นท์ เชียงใหม่คอนโดติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ 2.เอสเซ็นท์ ระยองคอนโด ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง และ 3.เอสเซ็นท์ ขอนแก่นคอนโด ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า ที่ผ่านมาซีพีเอ็นประสบความสำเร็จในกลุ่มค้าปลีก ปัจจุบันมีศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้งหมด 29 แห่ง มีอาคารสำนักงาน 7 แห่ง และมีโรงแรม 2 แห่ง โดยเมื่อ 10 ปีที่แล้วซีพีเอ็นเคยทดลองพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล
พลาซา บางนา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มุ่งเน้นธุรกิจนี้ เพราะต้องการโฟกัสธุรกิจค้าปลีกซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
ขณะที่ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนทั้งในกรุงเทพฯ และในหลายจังหวัดเมืองเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวมีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น การพัฒนาโครงการก็มีแนวโน้มจะเป็นมิกซ์ยูสมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับภาพรวมของโครงการและใช้ประโยชน์ในที่ดินได้สูงสุด ซึ่งก่อนหน้านี้มิกซ์ยูสของซีพีเอ็นอาจจะมีเพียงศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม แต่ปัจจุบันจะมีที่อยู่อาศัยเข้าไปอยู่ด้วย
“ถ้าย้อนกลับไปดูแต่ละทำเลที่ซีพีเอ็นขึ้นศูนย์การค้า เราเหมือนเป็นผู้นำในการบุกเบิกพื้นที่ใหม่ๆ ทำให้เกิดแหล่งใหม่ เกิดการพัฒนาพื้นที่รอบศูนย์การค้า และเกิดที่อยู่อาศัยใกล้ศูนย์การค้า เราจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ซีพีเอ็นจะนำพื้นที่บางส่วนที่ยังมีเหลือจากการพัฒนาศูนย์การค้ามาทำคอนโดมิเนียม”ปรีชา กล่าว
ด้าน กรี เดชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาโครงการพิเศษ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโครงการที่อยู่อาศัยที่ติดกับศูนย์การค้าได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยนโยบายของซีพีเอ็นในการพัฒนาโครงการพิเศษ จะเปิดกว้างกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทแม่ไม่ได้ทำ เช่น ที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบ ออฟฟิศขนาดเล็ก โฮมออฟฟิศ หรือมอลล์เล็กๆ เป็นต้น เพื่อเป็นส่วนเสริมในการสร้างการเติบโตให้กับซีพีเอ็นเอง
“บ้านแนวราบนั้นบางจังหวัดยังไม่เหมาะจะทำคอนโด ก็ต้องเป็นบ้านแนวราบ แต่ทำเลที่ตั้งโครงการจะไม่ติดกับศูนย์การค้าเลย อาจจะขยับไปอีก 500 เมตร-1กิโลเมตร”
สำหรับนโยบายการพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัย อันดับแรก จะหยิบที่ดินที่มีอยู่แล้วที่เป็นส่วนเหลือจาก 29 ศูนย์การค้ามาพัฒนาก่อน อันดับสอง คือ การซื้อที่ดินใหม่เพื่อพัฒนา ซึ่งหลังจากที่ 3 โครงการคอนโดมิเนียม คือ เชียงใหม่ปิดการขายแล้ว ส่วนขอนแก่น มียอดทำสัญญาแล้ว 85% และระยอง มียอดทำสัญญาแล้ว 90% ซึ่งถือว่าใกล้ปิดการขายมากแล้ว จึงเตรียมศึกษาความเป็นไปได้ในอีก 5-6 แปลงที่ติดกับศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะหยิบมาพัฒนาได้ 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และจะเป็นโครงการของปีหน้า เพื่อให้ในปี 2562 มีรายได้เข้ามาประมาณ 3,000 ล้านบาท
ด้าน เป้าหมายรายได้ ซีพีเอ็นจะประเดิมมีรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยในปี 2561 ซึ่งจะเป็นรายได้จากการโอนโครงการที่เปิดการขายแล้วในปีนี้ มูลค่ารวมประมาณ 2,750 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปีถัดไปก็ต้องเติบโตให้ 10-15% โดยไม่เน้นการเติบโตเร็วแต่ต้องเติบโตอย่างมั่นคง


