ดีเดย์ 25 ธ.ค. เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ

 

เวลา 09.30 น. วันนี้ (23 ธันวาคม 2568) ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสีสะหวาด อินพะจัน (H.E. Mr. Sisavath INPHACHANH) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น สะท้อนความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องที่แน่นแฟ้น

 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตลาวฯ โดยเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ความเข้าใจในประเทศไทยของท่านทูต จะช่วยขับเคลื่อน ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น บนพื้นฐานวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน

 

 

ลาวร่วมอาลัย "สมเด็จพระพันปีหลวง" พร้อมมอบเงินช่วยน้ำท่วมใต้

 

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูต สปป. ลาวฯ ได้แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ น้ำท่วมภาคใต้ ที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง

 

โดยรัฐบาล สปป. ลาว ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจไมตรีที่เพื่อนบ้านไม่ทิ้งกันในยามยากลำบาก

 

ดีเดย์ 25 ธ.ค. เปิด "สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5"

 

ไฮไลต์สำคัญของการหารือ คือความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะมีพิธีเปิด สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป. ลาว

 

สะพานแห่งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงผู้คน การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายเปลี่ยนประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยง (Land-Locked-to-Land-Linked) ของลาว

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทยยังผลักดันให้เร่งสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ (หนองคาย-เวียงจันทน์) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

 

สำหรับแผนงานในอนาคต ทูตลาวฯ หวังว่าทั้งสองประเทศจะร่วมกันผลักดันให้เกิดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ในปี 2569 ซึ่งทาง สปป. ลาว พร้อมรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

 

 

นายกฯ แจงปม "ชายแดนไทย-กัมพูชา" ไม่กระทบการค้าลาว

 

ในช่วงท้ายของการหารือ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์บริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขอบคุณท่าทีของ สปป. ลาว ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องจากฝ่ายไทย นายกฯ ยืนยันว่าไทยไม่มีนโยบายรุกรานใคร แต่จำเป็นต้องตอบโต้ตามความเหมาะสมเพื่อรักษาอธิปไตย

 

พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงประเด็นมาตรการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนส่งไปยังกัมพูชาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจำกัดการส่งออกน้ำมันไปยัง สปป. ลาว แต่อย่างใด

 

ย้ำชัดว่าความขัดแย้งดังกล่าวเป็นปัญหาระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีกับ สปป. ลาว