คอนโดไทยถูก ต่างชาติแห่ซื้อ

ต่างชาติแห่ซื้อคอนโดเพื่อลงทุนและอยู่เอง ด้านผู้พัฒนาโครงการมองซัพพลายล้นตลาด

นายณพงศ์ ปานทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เปิดเผยว่า ต่างชาติยังคงให้ความสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมาก เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังไม่สูงมาก จึงมองว่ามีโอกาสทำกำไรในอนาคต รวมถึงการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ทำให้มีทำเลใหม่ๆ ในการลงทุนเพื่ออนาคต โดยกลุ่มผู้ซื้อหลัก เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง ส่วนชาวไต้หวันและจีนถือว่ามาแรงมาก

นอกจากนี้ ยังเห็นแนวโน้มที่น่าสนใจคือ ผู้ซื้อชาวสิงคโปร์ซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และเชียงราย ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่ออยู่เองมากขึ้น จากในอดีตจะซื้อเพื่อการลงทุน โดยผู้ซื้อชาวสิงคโปร์ยินดีซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ต่างจากนักลงทุนกลุ่มอื่นที่เน้นซื้อใจกลางเมือง ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้คาดว่าปีนี้จะมีผู้ประกอบการไทยทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็กขนคอนโดไปโรดโชว์ในต่างประเทศต่อเนื่อง ประเมินจะมีเม็ดเงินจากการขายโครงการของไทยในเวทีโรดโชว์ต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ด้าน นายเอกอธิป รัตนอารี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี.คอมเมอร์เชียล พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ ในเครือบริษัท ทีซีซี แลนด์ กล่าวว่า จากปัญหาซัพพลายของคอนโดที่ล้นตลาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้บริษัทต้องชะลอแผนการเปิดตัวคอนโดโครงการใหม่ออกไป 2-3 ปี เพื่อรอดีมานด์ของตลาดกลับมา และหันมาพัฒนาอาคารสำนักงานแทน เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการ

ทั้งนี้ ใน 4-5 ปีจากนี้คาดว่าจะเปิดตัว 3 โครงการ ได้แก่ ที่บางนา สุขุมวิทตอนปลาย และนอร์ธปาร์ค ดอนเมือง เนื่องจากมีรถไฟฟ้าผ่านและมีที่ดินอยู่แล้ว แต่ละโครงการจะใช้ที่ดิน 4-5 ไร่ ลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ในโครงการจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ให้บริการซึ่งเปิดที่แรกแล้วคือ เอ็มไพร์ทาวเวอร์ใช้งบ 1,150 ล้านบาท จากที่มีอาคารสำนักงาน 5 แห่ง คือ เอ็มไพร์ทาวเวอร์, อาคาร 208 ไวร์เลสโรด, อินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์, พลับพลาไชย ทาวเวอร์ และแอทธินี ทาวเวอร์