รัชฎา จรูญพงศ์ กับบ้านสไตล์โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่
‘ต้อม-รัชฎา จรูญพงศ์’ เวิร์กกิ้งวูแมนสาวเก่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอสเธติคส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสกินแคร์
โดย...ภาดนุ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
‘ต้อม-รัชฎา จรูญพงศ์’ เวิร์กกิ้งวูแมนสาวเก่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอสเธติคส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสกินแคร์ชั้นนำจากเอเชียและยุโรป ให้เกียรติเปิดบ้านสไตล์โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ ที่มีความหรูหราทันสมัย ในหมู่บ้านกฤษดานคร 19 เดอะ ไพรเวท เลค แอนด์ พาร์ค รังสิตคลอง 1 ให้เราได้ไปเยี่ยมเยือน
“ดิฉันและสามีเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ ต้นไม้ ลำคลอง เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกๆ ปีเราจะชอบไปพักที่ มุติ มายา ฟอเรสต์ฯ ซึ่งเป็นรีสอร์ทสไตล์พูลวิลล่าที่เขาใหญ่ นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เรามาซื้อที่ดินผืนนี้เพื่อปลูกบ้านหลังใหม่ เพราะรู้สึกว่าเรือนหอที่รังสิตคลอง 4 ซึ่งอยู่มาหลายปีเริ่มมีพื้นที่น้อยลง เราจึงมองหาที่ดินเปล่าซึ่งมีทำเลแอบอิงใกล้ชิดธรรมชาติ มีต้นไม้ มีนก มีคลอง มีปลา เพื่อสร้างบ้านใหม่ จนมาลงตัวกับที่แปลงนี้ซึ่งมีพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ”
ต้อม บอกว่า แม้ทางเข้าหมู่บ้านจะติดถนนพหลโยธิน แต่เมื่อเข้ามายังบริเวณบ้านหลังนี้กลับพบบรรยากาศที่ร่มรื่น เงียบสงบ เป็นธรรมชาติ สามารถหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองได้จริง
“แม้ดิฉันและสามีจะชอบธรรมชาติมาก แต่อีกมิติหนึ่งของเราทั้งคู่ก็จะชอบความทันสมัยหรือความเป็นโมเดิร์นด้วย เราจึงตกลงกันว่าคอนเซ็ปต์ของบ้านหลังนี้จะออกมาเป็นสไตล์โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ ที่มีหลังคาบ้านแบบแฟลต รูฟ ดีไซน์ โดยผนังของบ้านจะเป็นกระจกสูงแบบดับเบิ้ลวอลุ่มที่ช่วยเปิดรับแสงและอิงแอบกับธรรมชาติได้มากขึ้น พร้อมทั้งสนามหญ้าที่มีพื้นที่เยอะๆ หน่อยค่ะ”
ต้อม เสริมว่า มู้ด แอนด์ โทน ของบ้านจะเน้นสีขาว เทา ดำ ที่มีความเป็นโมเดิร์นอยู่ในตัว ภายในบ้านมีส่วนที่บิลต์อินอยู่หลายส่วน อย่างกระเบื้องปูพื้นก็เลือกใช้แบรนด์ที่มาจากสเปนทั้งหลังเลย เพราะตัวกระเบื้องมีเทกซ์เจอร์ที่ดูเป็นโมเดิร์นเห็นได้ชัดเจน เรียกว่าทุกจุดของความเรียบง่ายนี้จะสอดแทรกรายละเอียดไว้ทั้งหมด แม้แต่ผ้าม่านก็ยังใช้แบรนด์พาซาญ่า (Pasaya) ที่เป็นลายรวงผึ้งซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ตัวม่านเป็นผ้าสีเทาเหลือบๆ ดูเข้ากับความโมเดิร์นของตัวบ้านได้ดี
“มุมโปรดที่ดิฉันใช้บ่อยที่สุดก็คือห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นส่วนที่มีเพดานสูงโปร่ง เป็นมุมที่พักผ่อนแล้วรู้สึกสบาย มีโฮมเธียเตอร์และเครื่องเสียงคุณภาพดีอยู่ในห้องนี้ เพราะดิฉันกับสามีจะชอบดูภาพยนตร์กันมาก ตามจุดต่างๆ ทั่วบ้านจะมีลำโพงฝังไว้ ขณะที่เปิดเพลง ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนไหนของบ้านก็จะได้ยินเสียงเพลงตลอด
ที่สำคัญคือห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับริมคลองซึ่งมีระเบียงยื่นออกไปที่ชายน้ำ ทำให้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด มองเห็นลำคลอง เต่า ปลา และใบบัว บริเวณริมฝั่งก็มีต้นไม้ มีนกมาทำรังให้เห็น ดิฉันจึงรู้สึกว่ามุมนี้เหมาะเป็นที่รีแลกซ์หลังจากทำงานมาทั้งวัน”
ส่วนมุมโปรดอีกมุมหนึ่งของเธอก็คือ ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับห้องฟิตเนสเล็กๆ “ดิฉันว่าไลฟ์สไตล์ของคนทุกวันนี้ หรือคนที่ทำงานหนัก เครียดมาทั้งวัน บางครั้งก็ต้องการสถานที่ที่ตัวเองสามารถรู้สึกผ่อนคลายได้มากที่สุดตอนกลับถึงบ้านโดยส่วนตัวจึงรู้สึกว่ามุมสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ แม้เพียงแค่ได้มานอนเล่นริมสระว่ายน้ำก็รู้สึกดีแล้วค่ะ อารมณ์เหมือนกับอยู่ที่รีสอร์ทตลอดเวลา (หัวเราะ) เพราะไหนๆ เราก็สร้างบ้านที่มีพื้นที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติแล้ว เราก็ควรจะใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า เหมือนเป็นการบำบัดตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน”
ต้อม ทิ้งท้ายว่า นิยามคำว่าบ้านสำหรับเธอแล้วก็คือ บ้านต้องเป็นสถานที่ที่กลับมาแล้วจะต้องมีความสุข มีเวลาได้พักผ่อน และได้ดูแลตัวเอง
“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับดิฉันก็คือผู้ที่อยู่กับเรา นั่นคือสามี น้องเหมียวพันธุ์เปอร์เซีย 2 ตัว และน้องหมาอีก 3 ตัว เพราะสิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบที่ทำให้เราสามารถปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างที่วุ่นวายจากโลกภายนอกได้ทันที นี่แหละคือบ้านแสนสุขสำหรับดิฉัน”


