เรียบง่ายแต่อบอุ่น ของ ดร.สายศิริ ศิริวิริยะกุล

โดย...วราภรณ์ ภาพ : เสกสรร

“ซิมพลี เดอะเบสต์” คือนิยายการตกแต่งคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ ดร.สายศิริ ศิริวิริยะกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายการสื่อสารองค์กร บริษัทเกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น ทายาทรุ่นที่ 4 ของธุรกิจครอบครัว หรือ “กลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์” เธอเพิ่งชิมลางธุรกิจของครอบครัวได้เพียงปีเศษ ซึ่งมีหลายสิ่งที่เธอต้องเรียนรู้อย่างเต็มที่เพื่อผลักดันให้ธุรกิจของครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้าไปได้ในเจเนอเรชั่นของเธอ

นักบริหารสาวสวยดีกรีปริญญาเอกทางด้านกฎหมายจากสหรัฐอเมริกา ดร.สายศิริ เวลาทำงานเธอทุ่มเทเต็มที่ แต่หากเวลาอยู่บ้านเธอขอใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มีค่าที่สุด เพราะค่าที่ไปร่ำเรียนปริญญาโทและเอกที่เมืองนอกนานถึง 5 ปีเต็มๆ ดร.สายสิริ เล่าถึงบ้านหลังแรกในชีวิตที่มีอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว จึงถึงเวลาที่ต้องเรโนเวตใหม่ทั้งหมด เพื่อให้บ้านออกมาทันสมัยสวยงาม เหมาะกับทุกชีวิตในบ้านที่เจริญเติบโตมากขึ้น

 

เมื่อบ้านหลังแรกถึงเวลาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ที่บ้านจึงต้องหาบ้านสำรองจึงคิดได้ว่ามีคอนโดมิเนียมของครอบครัวริมแม่น้ำเจ้าพระยาวิวดีมากๆ คุณพ่อคุณแม่จึงมาตกแต่งคอนโดมิเนียมหลังที่ว่านี้ก่อนเธอกลับมาเมืองไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ครอบครัวซุ่มตกแต่งคอนโดมิเนียมใหม่ทั้งหมดให้ออกมาสไตล์เรียบง่ายด้วยที่เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เพื่อเตรียมไว้เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์ลูกสาวคนโตสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกและบินกลับมาใช้ชีวิตทำงานที่เมืองไทย

“ตอนแรกที่คุณพ่อคุณแม่ไปรับมาจากสนามบิน โจ้ก็รู้สึกแปลกใจว่าพามาที่นี่ทำไม แต่พอเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วรู้สึกตะลึงและรู้สึกเขินมากๆ เพราะโจ้ไม่รู้เลยว่าที่บ้านตกแต่งห้องเพื่อต้อนรับโจ้โดยเฉพาะ ก็รู้สึกดีใจค่ะ” สายศิริ เล่าถึงวินาทีแรกที่เห็นห้องบนคอนโดมิเนียมเป็นครั้งแรก

 

ห้องทั้งห้องตกแต่งด้วยโทนสีสไตล์อบอุ่น คือ สีโอ๊กครีมนิดๆ และสีขาว ยิ่งทำให้ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 200 ตารางเมตรดูกว้างมากขึ้น ซึ่งความเรียบง่าย ดร.สายศิริบอกว่าดีที่สุดแล้ว

เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับห้องรับประทานอาหารเปิดโล่ง มองไปเห็นมุมโต๊ะทำงาน มุมนั่งเล่นและรับแขกของบ้านตกแต่งด้วยโซฟาตัวใหญ่ตัดเย็บจากหนังนุ่มน่านั่งสีครีม จุคนนั่งได้มากกว่า 10 คน เหมาะเอาไว้รับรองแขกในวันที่จัดปาร์ตี้ที่บ้าน ตรงพื้นปูด้วยพรมขนแกะฟูนุ่มเท้า ยิ่งเพิ่มความดูดีให้มุมนี้มากขึ้น

 

ส่วนด้านขวามือแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ส่วนด้านติดประตูมุมขวาจัดสรรเป็นห้องครัวและห้องเก็บของ สิ่งที่ ดร.สายศิริ ชอบบนคอนโดมิเนียมนี้นอกจากสีสันที่นุ่มนวลของห้องแล้ว บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยายังดีมากๆ โดยเฉพาะมุมนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารสามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นได้อย่างเต็มที่ เธอจะมีความสุขมากๆ เมื่อเวลาเย็นๆ ได้ออกมารับลมที่ระเบียงและจิบกาแฟไปด้วย ช่วยทำให้เธอลืมชีวิตที่วุ่นวายของเมืองหลวงไปเลย

หากถึงสไตล์การตกแต่งของบ้าน ดร.สายศิริ บอกว่า ทั้งคุณแม่และคุณพ่อเน้นความเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพื่อให้อยู่สบายที่สุด

 

“โจ้ชอบบ้านที่ตกแต่งเรียบง่าย อยู่สบาย อยู่แล้วอบอุ่น มีคนที่เรารัก ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ซึ่งตอนนี้บ้านหลังเดิมที่เราอยู่ก็อยู่กันมานานแล้วเลยปรับปรุงให้ดูทันสมัย เรียบง่ายสบายเหมาะกับยุคสมัยมากขึ้น อย่างห้องนอนในฝันโจ้อยากได้ห้องนอนที่เรียบง่ายอยู่แล้วสบาย โจ้ชอบบ้านที่ตกแต่งโมเดิร์น ใช้สีขาวตัดกับครีม ให้อารมณ์อยู่แล้วผ่อนคลาย เพราะห้องนอนคือห้องที่เราจะได้พักผ่อนจริงๆ ซึ่งคอนโดมิเนียมที่เราอยู่ปัจจุบันมีความเป็นคุณแม่ค่อนข้างมาก เช่น ภาพวาดรูปดอกไม้ แจกันดอกไม้ ช่วยเพิ่มทำให้บ้านเราดูอ่อนหวานสไตล์ผู้หญิง ซึ่งคุณพ่อก็ไม่ว่า อย่างมุมห้องรับแขกเป็นมุมโปรดของโจ้เลยก็ว่าได้ ก็เป็นความน่ารักของทั้งครอบครัวอีกแบบหนึ่ง”