posttoday

Daywork ปูทางเวิร์คเบิกประสบการณ์

25 มิถุนายน 2564

ในวันที่ใครๆ ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีในการทำงาน แต่สิ่งที่หนึ่งตลาดแรงงานยังคงต้องการไม่น้อยไปกว่าความรู้หรือความสามารถด้านอาชีพ ก็คือ ทักษะด้านอื่นๆ ในชีวิต ที่สามารถปรับใช้ในชีวิตการทำงาน หรือที่เรียกว่า Soft Skills ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มนุษย์ยังสามารถแข่งขันกับเครื่องจักรหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้

แม้ว่าเทรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มวัยรุ่นจีนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือการสร้างรายได้เสริมจากการลงทุนในกองทุนต่างๆ โดยอาศัยต้นทุนจากครอบครัวที่มั่งคั่ง สำหรับประเทศไทย เป็นที่น่าสนใจว่าวัยรุ่นไทยจำนวนไม่น้อย สนใจหารายได้เสริมตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะเชื่อว่า สิ่งตอบแทนจากการทำงานที่นอกเหนือจากรายได้ ก็คือ ประสบการณ์และโอกาสในอนาคตที่ดีกว่า

Daywork ปูทางเวิร์คเบิกประสบการณ์

ปัจจุบัน เรามีสมาชิกในฐานข้อมูลที่อายุ 18 ปีขึ้นไป เกือบหนึ่งแสนคน ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีการลงทะเบียนเพื่อหางานเดือนละประมาณ 3,000 คน” คุณศศิวิมล เสียงแจ้ว ผู้ก่อตั้งบริษัท เดย์เวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

‘เดย์เวิร์ค’ คือแอปพลิเคชันบนมือถือที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมด้วยงานประเภทพาร์ทไทม์หรือสัญญาจ้างชั่วคราว ฝากประวัติส่วนตัวไว้ โดย ‘เดย์เวิร์ค’ จะเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมไปหานายจ้าง บริษัท หรือองค์กรที่กำลังมองหาพนักงานพาร์ทไทม์ในสายงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานทั่วไปในสำนักงาน งานจัดอีเว้นท์ งานออกบูธแสดงสินค้า งานขายหน้าเคาน์เตอร์ รวมถึงเทรนด์ของตลาดงานใหม่ๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ร้านขายสินค้าซึ่งต้องการผู้ช่วยในการบรรจุของในคลัง

Daywork ปูทางเวิร์คเบิกประสบการณ์

บริษัท เดย์เวิร์ค เริ่มต้นธุรกิจจากการเปิดคอมมูนิตี้จัดหางานสำหรับนักศึกษา เพื่อให้น้องๆ ได้มีโอกาสฝึกงานในองค์กรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์นอกตำรา โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านข้อความต่างๆ ในเว็บบอร์ด ทำให้ทราบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ต้องการหารายได้เสริม เดือนละ 2,000-3,000 บาท จึงนำไปสู่ไอเดียในการสร้างแอปพลิเคชัน ‘เดย์เวิร์ค’

“ไลฟ์สไตล์ของเด็กเจนเนอเรชันนี้อยู่ในพื้นที่หน้าจอ เราจึงปรับรูปแบบแพลตฟอร์มเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการจัดการข้อมูลด้วยนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ทั้งฝั่งคนหางานและฝั่งผู้จ้างงานได้ดียิ่งขึ้น”

Daywork ปูทางเวิร์คเบิกประสบการณ์

เทคโนโลยีที่เดย์เวิร์คนำมาใช้คือ การเก็บข้อมูลประวัติต่างๆ ของผู้ต้องการหางาน การบันทึกประวัติการทำงาน การสะสมชั่วโมงในการทำงาน และข้อมูลการประเมินผลการทำงานจากผู้จ้างที่เดย์เวิร์คเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะช่วยยกระดับ (up level) โปรไฟล์ของพวกเขา และเป็นประโยชน์ต่อการสมัครงานในอนาคต รวมไปถึงมีระบบแจ้งเตือนเมื่อได้รับคัดเลือก และระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเริ่มงาน นอกจากนี้ยังมีระบบจ่ายเงินเมื่อถึงกำหนดจ่าย โดยเดย์เวิร์คสำรองจ่ายค่าจ้างให้ก่อน ทำให้นักศึกษามั่นใจได้ว่าจะได้รับค่าตอบแทนแน่นอน

ในส่วนของนายจ้าง ระบบมีการบันทึกข้อมูลต่างๆ อาทิ ตำแหน่งที่เปิดรับ จำนวนที่ต้องการ อัตราค่าจ้าง ช่วงเวลาในการเปิดรับสมัคร ความรวดเร็วในการจ้างงาน เพื่อสร้างฐานข้อมูลรวมที่สามารถนำมาประเมิน ‘ค่ากลางของตลาด’ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราค่าจ้าง เพื่อสร้างมาตรฐานที่เป็นธรรม เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ โดยไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ว่าจ้าง

โมเดลที่เดย์เวิร์คออกแบบขึ้น เกิดจากการเรียนรู้พฤติกรรมของทุกฝ่าย นำไปสู่ฐานข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างในหลายสถานการณ์ เช่น กรณีผู้ได้รับการว่าจ้างขอยกเลิกรับงานกะทันหัน ระบบก็สามารถดึงผู้สมัครรายอื่นๆ ที่สมัครมาในตำแหน่งเดียวกันมาเข้ารับงานแทนได้ทันที

“ในการลงทุนกับนวัตกรรมที่รองรับฐานข้อมูลที่มีความละเอียด มีการประมวลผลที่รวดเร็ว จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เราจึงสมัครขอรับทุนผ่านโครงการ Open Innovation ที่จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อนำมาพัฒนาระบบ ซึ่งนำไปสู่ผลสำเร็จอันเป็นที่น่าพอใจ จากการที่แอปพลิเคชันได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ซึ่งโดยปกติตำแหน่งที่เปิดรับสมัครจะเต็มภายใน 20 นาที หลังจากมีการโพสต์บนหน้าจอ”

นอกเหนือจากการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสร้าง ‘เครื่องมือ’ ที่มีประสิทธิภาพ ‘บริการเสริม’ ที่เดย์เวิร์คสร้างสรรค์ขึ้นมาเพิ่มเติม คือ ‘เดย์เวิร์ค มาสเตอร์’ ทีมงานที่เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงเด็ก ช่วยรับฟังปัญหาจากการทำงาน และช่วยเจรจากับนายจ้าง หรือให้คำปรึกษากับเด็กเพื่อปรับทัศนคติ หรือวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“สิ่งที่สะท้อนออกมาจากเด็กๆ ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น รวมไปถึงความอดทน มีมานะ มีวินัย ไม่เกี่ยงงาน และความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้จะปลูกฝังและเสริมสร้างคุณสมบัติอันเป็นที่ต้องการในเวลาที่พวกเขาออกมาทำงานจริง และเด็กๆ หลายคนที่เคยสมัครงานผ่านเดย์เวิร์ค ก็ได้รับการว่าจ้างเป็นพนักงานประจำในเวลาต่อมา”

สำหรับมุมมองต่อสถานการณ์หลังโควิด-19 คุณศศิวิมลมีความคิดเห็นว่า “งานจ้างในลักษณะ on-demand หรือ การจ้างงานในระยะสั้น น่าจะมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทต้องลดขนาดองค์กร เพื่อควบคุมงบประมาณ ปัจจุบัน เรามีประวัติผู้หางานในฐานข้อมูลเป็นจำนวนมาก และมีบริษัทเข้าร่วมในการให้โอกาสน้องๆ มากกว่า 3,000 แห่ง โดยเดย์เวิร์คก็จะมุ่งมั่นเดินหน้าหาพันธมิตรเพิ่ม พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับตลาดมากยิ่งขึ้น”

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Startup Thailand Marketplace ของ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลชาย ซีเกมส์ ไทย พบ ฟิลิปินส์ วันนี้ 28 ธ.ค.68