Fox Hunt รุ่น 1 มินิจิ้งจอกพันธุ์สยามเตรียมกลับบ้าน
นักเตะเยาวชนทุนรุ่นเยาว์ 16 ชีวิต ภายใต้โครงการ 'Fox Hunt ตามล่าจิ้งจอก สายพันธุ์สยาม' หรือ Fox Hunt รุ่นที่ 1 เตรียมกลับบ้านเกิดปลายเดือนนี้! หลังใช้ชีวิต และฝึกการเล่นฟุตบอลอย่างมืออาชีพกับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้
นักเตะเยาวชนทุนรุ่นเยาว์ 16 ชีวิต ภายใต้โครงการ 'Fox Hunt ตามล่าจิ้งจอก สายพันธุ์สยาม' หรือ Fox Hunt รุ่นที่ 1 เตรียมกลับบ้านเกิดปลายเดือนนี้! หลังใช้ชีวิต และฝึกการเล่นฟุตบอลอย่างมืออาชีพกับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City Football Club) เป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ลั่นพร้อมสานฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง
จากการที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ริเริ่มโครงการ 'Fox Hunt ตามล่าจิ้งจอก สายพันธุ์สยาม' เพื่อค้นหาเยาวชนไทยที่มีความสามารถและทักษะทางด้านฟุตบอลที่โดดเด่น ให้ได้ไปเรียนรู้และพัฒนาการเล่นฟุตบอลอย่างมืออาชีพกับครูฝึก และนักเตะอาชีพระดับโลกภายใต้หลักสูตร 'เลสเตอร์ ซิตี้ อคาเดมี' (Leicester City Academy) ที่แคมป์บ่มเพาะนักเตะในอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปีพ.ศ. 2557 นั้น
หลังได้รับประกาศนีบัตรจบหลักสูตรปลายเดือนมิถุนายนนี้ นักเตะเยาวชนทุน ทั้ง 16 คน จะเดินทางกลับเมืองไทย เพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา พร้อมสานฝันต่อในการเป็นนักเตะมืออาชีพต่อไป
นายอภิวิชญ์ ทราบรัมย์ หรือน้องเอ็ม อายุ 20 ปี จากโรงเรียนปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร หนึ่งใน 16 Fox Hunt รุ่นที่ 1 กล่าวว่า "ผมชอบเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แล้วเกิดติดใจ จึงเล่นกับเพื่อนๆ เรื่อยมา ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสไปต่างประเทศเลยครับ เพราะพ่อแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป รับเหมาก่อสร้าง เปลี่ยนไซต์งานไปเรื่อยครับ มีรายได้ก็พอจุนเจือครอบครัว วันที่ทราบว่าได้รับคัดเลือกจากเด็กกว่า 1,000 คน! ให้ได้ไปเข้าแคมป์ของโครงการคิงเพาเวอร์ และเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศอังกฤษ ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสนี้ในชีวิต สำหรับเด็กธรรมดาๆ คนนึง มันเกินฝันครับ!"
"2 ปีครึ่ง ผมได้อะไรมากมาย ได้โอกาสไปเรียนรู้ ฝึกการเล่นฟุตบอลที่ต่างประเทศ ได้ประสบการณ์จากมืออาชีพ ฝึกเลี้ยงบอล ส่งบอล ระบบรุกรับอย่างมืออาชีพ รวมถึงได้รับคำแนะนำในการฝึกซ้อมขั้นพื้นฐานด้วยครับ ก่อนเดินทาง ต้องไปเข้าคอร์สอินเทนซีฟเพื่อเรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น พอไปอยู่จริง ปรับตัวอยู่ 3-4 เดือนเลยครับ ภาษาอังกฤษยาก ต้องตั้งใจเรียน กินนอนเป็นเวลา รักษาระเบียบวินัย ให้ร่างกายฟิตพร้อมทั้งเพื่อการเรียน และเพื่อการซ้อมฟุตบอลครับ สิ่งที่ประทับใจ คือได้เล่นฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีก และได้รู้จักเพื่อนๆ ทีดีมากครับ ความฝันต่อไป คือ ผมอยากติดทีมชาติครับ! อยากไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ให้ทั่วโลกรู้ว่า ฝีมือเด็กไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ" น้องเอ็มกล่าวทิ้งท้าย
นายอนนต์ สมากร (น้องโบ๊ต) อายุ 20 ปี จากโรงเรียอัสสัมชัญธนบุรี อีกหนึ่งใน Fox Hunt รุ่นที่ 1 กล่าวว่า "ไม่รู้จริงๆ ครับว่า เริ่มชอบเล่นฟุตบอลตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกที คือ รักฟุตบอลไปแล้วครับ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาว่างเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนและหลังเลิกเรียน ตอนที่ทราบว่า มีรับสมัครก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ครับ เพราะมีนักเตะรุ่นเยาวชนที่เก่งๆ อีกมาก แล้วมีคนสมัครกว่าพันคน จะได้มาเป็น 1 ในเพียง 16 คน แค่คิดก็ยากแล้วครับ แต่นี่เป็นบทพิสูจน์ว่า ฝันที่เป็นจริง มีจริงๆ ครับ ตอนที่รู้ผล ดีใจมากๆ พ่อแม่ภูมิใจมากครับ เพราะที่บ้านคงไม่ได้มีโอกาสที่จะส่งเราไปเรียนแบบนี้ได้ เป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ คงไม่มีอีกแล้ว เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะการไปเรียนรู้การเล่นฟุตบอลกับสโมสรระดับพรีเมียร์ลีก อย่างเลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาแล้ว ผมจะตั้งใจซ้อมต่อ เอาความรู้ เคล็ดลับ วิชาที่ทางโค้ชเลสเตอร์ ซิตี้สอนมาใช้ในทุกๆ วัน อนาคตอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ และฝันอยากไปยุโรปครับ"
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ Fox Hunt ตามล่า จิ้งจอกพันธุ์สยาม จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะการแข่งขันฟุตบอล รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน และเป็นแรงขับเคลื่อนวงการฟุตบอลของไทย ให้ก้าวหน้า และยกระดับเทียบเท่ากับวงการฟุตบอลในระดับสากลต่อไป
สำหรับ Fox Hunt รุ่นที่ 2 ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ เมื่อต้นปีพ.ศ. 2559 และจะเดินทางกลับเมืองไทยกลางปีพ.ศ. 2561


