posttoday

World Cup 2022 : บทส่งสุดท้ายของชายชื่อ ลิโอเนล ผู้เติมเต็ม ลิโอเนล

20 ธันวาคม 2565

ถอดบทเรียนจาก FIFA World Cup 2022 เรียนรู้จากชีวิตที่ผิดพลาด แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังสู่ความสำเร็จในการเดิมพันครั้งต่อไป ปรัชญาของชายที่ชื่อ ลิโอเนล แต่ไม่ใช่เมสซี่ เพราะเค้าคือ ลิโอเนล สคาโลนี่

A complete successful story of the GOAT Legendary Lionel Messi fulfilled by Lionel Scaloni


World Cup 2022 : บทส่งสุดท้ายของชายชื่อ ลิโอเนล ผู้เติมเต็ม ลิโอเนล


คิดให้ได้เท่ากับที่ทำ ทำให้ได้เท่ากับที่คิด เรียนรู้จากชีวิตที่ผิดพลาด แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังสู่ความสำเร็จในการเดิมพันครั้งต่อไป ปรัชญาของชายที่ชื่อ ลิโอเนล แต่ไม่ใช่เมสซี่ เพราะเค้าคือ ลิโอเนล สคาโลนี่ ชายผู้ที่ทำให้ตำนานแห่งเมสซี่ จบ ครบ สงบ และสวยงาม .....

คิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลโลกครั้งนี้ดีมั้ย เพราะเยอรมันนี ทีมที่เชียร์มาตั้งแต่เด็กๆตกรอบเร็วไปหน่อย ส่วนจิตวิญญาณและปาฏิหารย์แห่งเจดรีม ญี่ปุ่น ก็พลาดง่ายๆตกม้าตายเพราะไม่ยอมซ้อมจุดโทษมา (กำลังอินๆเลย เซ็งสุดๆ) แถมเรื่องของสุดยอดดราม่านัดชิงชนะเลิศ 3-3 กับบทที่พระเจ้าขีดเขียนมาเพื่อเมสซี่ ก็คงมีคนเขียน(ที่ดีกว่าผม)เยอะแยะเต็มไปหมด แต่ก็ช่างมันเถอะ ถ้ามัวแต่สนคนอื่นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ชีวิตนี้

World Cup 2022 : บทส่งสุดท้ายของชายชื่อ ลิโอเนล ผู้เติมเต็ม ลิโอเนล

โดยส่วนตัว ขอโม้ไว้เล็กๆก่อนตั้งแต่ตอนต้น ว่าตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นนี้ ผมเดาและพูดออกรายการในทีวีไว้ว่า อาร์เจนติน่าจะเป็นแชมป์โลก เพราะบทและทฤษฎีหลายๆอย่างมันส่งมา ทั้งการที่ทีมไม่แพ้ใครมาร่วม 3 ปีเต็ม เมสซี่เพิ่งปลดล๊อคถ้วยในระดับเมเจอร์ทีมชาติได้ ในโคปปาอเมริกาเมื่อปีก่อน ทังความไม่มีซุปเปอสตาร์ในทีมแต่ทุกคนเล่นเพื่อเมสซี่ ทั้งการเล่นในการ์ต้าและน่าจะเป็นบอลโลกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัว และอื่นๆ บลาๆๆๆๆ แต่ หลังจากเหตุการรถผ้าป่าคว่ำในแมตซ์เปิดหัวกับซาอุดิอาระเบีย ทั้งที่เกมส์นี้ควรจะเป็นสกอร์ 5-0 ของทางว่าที่แชมป์ด้วยซ้ำ

ตามที่ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ และถ้าไม่มีระบบ VAR ก็คงจะเป็นเช่นนั้น (เผลอๆเมสซี่จะซัดแฮตทริกตั้งแต่นัดแรกเอา) ฮา  อย่างไรก็ตาม พระเจ้าแห่งโลกฟุตบอลผู้มีอารมณ์ขันและอาจโรคจิตหน่อยๆคงมองแล้วว่า มันไม่เท่! มันไม่คูล! จึงดลบรรดาลให้ผลออกมาเป็นแบบนั้น อาร์เจนติน่า เมสซี่ และผองเพื่อน จึงแพ้ช๊อคโลกตั้งแต่เกมส์แรก และนั้นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานบทสุดท้าย มหากาพย์แห่งเทพนิยายเมสซี่ ชายผู้มีทุกอย่าง ขาดแต่เพียงถ้วยรูปโลกสีทองเหลือบมรกต ที่เค้ารอคอยมานานกว่า 16 ปี และพลาดพลั้งในการไขว่ขว้ามาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน

Butterfly Effect 1 ความพ่ายแพ้คือจุดเปลี่ยน และมันส่งผลกระทบต่อทุกๆคนในทีม กองเชียร์ มุมมองทรรศนะนักวิจารย์และเหนือสิ่งอื่นใด มันส่งผลต่อผู้ชาย ผู้มีผลต่อการตัดสินใจทั้งหมด สคาโลนี่ ลองคิดเล่นๆ ถ้านัดแรกเล่นแบบนั้นแล้วชนะซาอุฯนิ่มๆง่ายๆ ทีมของสคาโลนี่ก็คงมองไม่เห็นจุดอ่อนของทีมตัวเองที่มีซ่อนอยู่มากมาย ทั้งการที่ทีมมีแผงหลังที่ลอยสูงเกินไป แพ้เกมส์โต้กลับเร็ว เหนื่อยเวลาต้องสู้กับทีมที่มีส่วนสูงและพละกำลังมากกว่า ไม่คุ้นกับระบบล้ำหน้าที่ใช้ VAR และแน่นอน ถ้าไม่แพ้วันนั้น พวกเค้าก็คงไม่เห็นว่า แผนจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนในแต่ละเกมส์และที่สำคัญ หลังจากนั้นทุกๆเกมส์ทุกๆแมตซ์คือนัดชิง เพราะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว และบางทีพวกก็อาจไม่เจอส่วนผสมที่ลงตัวของแผงกองกลางผู้เป็นมดงาน และช่วยกันแบกเมสซี่ไว้บนบ่าในแทบทุกๆเกมส์ เดอ-ปอล แม็ค-อัลลิสเตอร์ ปาเรเดส และเอ็นโซ่ หลายคน ก่อนทัวร์นาเม้น ไม่ใช่ตัวจริงด้วยซ้ำ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าวันนั้นอาเจนติน่าไม่แพ้ซาอุฯ พวกเค้าจะไม่มาไกลถึงแชมป์โลกในวันนี้ รู้ตัวเร็ว ว่ายังไม่สมบูรณ์ รู้ตัวเร็วว่าเราต้องปรับเปลี่ยน ได้เปรียบว่ารู้ตัวช้า รู้เมื่อสายไปเสมอ และสคาโลนี่ รู้ทันทีตั้งแต่วันนั้น

World Cup 2022 : บทส่งสุดท้ายของชายชื่อ ลิโอเนล ผู้เติมเต็ม ลิโอเนล

           
Butterfly Effect 2 จากวันนั้นสู่วันนี้ 16 ปีแห่งความหลัง นัดชิง FA Cup ครั้งที่ 125 ปี 2006 มิลเลเนี่ยม สเตเดี้ยม คาร์ดิฟ .....บทเรียนที่ไม่มีวันลืม ว่าสมาธิตลอด 90 นาที ความละเอียดในการเล่นทุกจังหวะ การเล่นเกมส์รับที่สมบูรณ์ และการจัดการกับความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเป็นแชมป์ ย้อนกลับไป สมัยที่ ลิโอเนล สคาโลนี่ยังคงเป็นนักฟุตบอลอยู่ ผู้เล่น เอาต์ฟิลด์กราบขวาหมายเลข 12 ที่เล่นได้ทั้งแบ๊ค วิงแบ๊ค และมิดฟิลด์ ไม่ได้โดดเด่นถึงขั้นเป็นผู้เล่นระดับโลก แต่ก็จัดว่าเป็นผู้เล่นชั้นดี ระเบียบวินัยสูง แข็งแกร่ง และเค้าเคยติดทีมชาติอาเจนติน่าไม่ถึง 10 นัด แต่กระนั้น ครั้งนึง สคาโลนี่ เคยถูกเวสต์แฮม ยูไนเต็ดยืมตัวจาก เดอปอติโว่ ลาคอรุนญ่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ 6 เดือน และเค้าก็ได้มีโอกาสปะทะกับชายผู้เป็นตำนานของเมืองลิเวอร์พูล ชายที่ชื่อ “สตีเว่น เจอร์ราร์ด” แถมยังได้เจอกันในนัดชิงชนะเลิศถ้วย เอฟเอคัพ ถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ(หรืออาจจะของโลก)ซะด้วย ซึ่งก็แน่นอนครับว่า ช่วงนั้นมันเป็นช่วงพีคของเดอะเจิร์ดพอดิบพอดี ฤดูกาลแห่งความฝัน ทริปเปิ้ลแชมป์บอลถ้วยด้วย ความซวยเลยมาตกที่สคาโลนี่ เพราะในนัดชิงวันนั้น เวสแฮมต์กำลังจะชนะอยู่แล้วรอมร่อ หลังจากนำ 2 ต่อ 0 โดนตีเสมอ 2-2 ขึ้นนำไป 3-2 และแล้วในช่วงนาทีสุดท้ายก็เป็น สคาโลนี่นี่แหละ ที่ล๊ก ลนลาน เคลียร์บอลไม่ขาด สกัดไปเข้าทางเจอร์ราร์ด จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ ลูกยิงไกลขี่พายุทะลุฟ้าเทวดาจับยัด ซัดทะลุตาข่าย เสมอ 3-3 ในเวลา แล้วจบด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งก็ตามที่เรารู้กัน มันกลับกลายเป็นชัยชนะและแชมป์ของลิเวอร์พูล

ว่ากันว่า... สคาโลนี่ยอมรับผิด โทษตัวเอง และเค้าร้องไห้ไม่หยุดตลอดทางบนรถบัสจากคาร์ดิฟกลับลอนดอน .... คิดเล่นๆ ถ้าวันนั้น สคาโลนี่ ไม่พลาด เวสแฮมต์ได้แชมป์ บางที เค้าอาจไม่ใช่โค้ชของทีมชาติอาร์เจนติน่าในวันนี้ สคาโลนี่อาจไม่ใช่โค้ชที่สามารถปลุกใจ แก้ไข ปรับเปลี่ยน และทำให้นักเตะทุกคนทุ่มเทด้วยใจใส่เกินร้อยในทุกๆเกมส์เหมือนอย่างที่เราได้ดูกัน และทุกคนก็คงไม่ทุ่มเทเล่นเพื่อเมสซี่ ทั้งๆที่เจ้าตัววิ่งน้อยกว่าคนอื่นหลายเท่า(แต่ไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกเลย)และบางที...... ตำนานนี้ก็คงไม่สมบูรณ์ 

เรื่องราวของ เมสซี่ ทุกคนคงทราบดี เพราะมีฟีดขึ้นมากมายในช่วงนี้ และทุกคนที่ตั้งใจอ่าน ดู หรือศึกษาแบบละเอียดก็คงรู้ดีว่า มันเป็นทั้งพรสวรรค์ พรแสวง โชคชะตา และมิตรภาพที่ทำให้ก่อเกิดตำนาน แห่ง นิว มาราโดน่า หลังจากชาวอาร์เจนไตต้องรอคอยกันมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่คุณพ่อ ฮอร์เก้ ที่มองเห็นบางสิ่งในตัวเด็กน้อย อันเดรส เมสซี่ ในวันนั้น โค้ชและเพื่อนๆร่วมทีมในวัยเด็กที่ นีเวลล์ โอลด์บอย ในเมืองโรซาริโอ้ การ์เลส เรซัค ผู้อำนวยการกีฬาของบาซ่าที่ค้นพบโคตรเพชรเม็ดงาม แต่ขาดความสมบูรณ์และยอมเสี่ยงที่จะลงทุนเจียรนัย การต้องจากบ้านและหญิงอันเป็นที่รักตั้งแต่วัยเด็ก การฉีดฮอร์โมนเร่งโต เหล่าอดีตโค้ชและเพื่อนร่วมทีมบาเซโลน่า เป็ป กวาดิโอล่า โรนัญดิลโญ่ ชาบี้ อินเนสต้า ปีเก้ เนมาร์ ซัวเรส และคนอื่นๆ เพื่อนพี่น้องในทีมชาติอย่าง อกูเอโร่ เดอ ปอล หรือแม้กระทั่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เกิดมาเป็นทั้งคู่แข่งและแรงบัลดาลใจให้แก่กันและกัน จนกระทั้งมาถึงวันนี้ ชื่อของ สคาโลนี่ คงกลายเป็นอีกชื่อที่เข้ามาอยู่ใน แชปเตอร์สุดท้าย ของนิยาย ที่ชื่อ ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่ แล้วเช่นกัน ชายที่ชื่อเดียว ลิโอเนล

 

พิภู ก็ชอบดูบอล นะจ้ะ ^^