การติดเชื้อโควิดซ้ำ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและระบบประสาท
ในช่วงการระบาดใหญ่ที่ผ่านมาหลายท่านอาจได้รับเชื้อ Covid-19 กันไม่มากก็น้อย บางรายอาจคิดว่าไม่เป็นปัญหานัก เมื่อได้รับเชื้อหลังการฉีดวัคซีนจึงไม่ได้เจ็บป่วยอาการหนัก แต่ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปเมื่อโควิดเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและระบบประสาท
Covid-19 หนึ่งในโรคระบาดร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ เราผ่านพ้นจุดนั้นมาอย่างยากลำบากด้วยการฉีดวัคซีน เชื่อว่าหลายท่านกว่าจะมาถึงจุดนี้คงผ่านการเจ็บป่วยติดเชื้อมาไม่น้อย เราคาดหวังให้การแพร่ระบาดถึงจุดจบเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ผลการวิจัยล่าสุดกลับไม่บอกเราแบบนั้น เมื่อการติดเชื้อซ้ำอาจนำไปสู่ความเสี่ยงก่อโรคได้มากมาย
สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดในปัจจุบัน
คนส่วนมากเข้าใจว่าการแพร่ระบาดของ Covid-19 สิ้นสุดลงไปแล้ว แม้ในประเทศไทยยังคงมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยเช่นเดิม แต่ก็เริ่มมีการรณรงค์ให้ถอดหน้ากากและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นในสถานที่ต่างๆ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงประกอบกับอัตราได้รับวัคซีนสูง จึงเริ่มมีการเรียกร้องให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
แต่ที่น่าตั้งคำถามไม่แพ้กันคือ การแพร่ระบาดโควิดในปัจจุบันผ่านพ้นไปแล้วงั้นหรือ?
ไม่นับประเทศจีนกับความมุ่งมั่นในการคงนโยบาย Zero covid เข้มงวดจนยังคงสั่งล็อกดาวน์พื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลายชาติเริ่มไม่สนใจจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันและอัตราการแพร่ระบาด ภายหลังอัตราการฉีดวัคซีของประชาชนในประเทศสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศตะวันตกที่กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติอีกครั้ง
ปัจจุบันโควิดยังคงเกิดการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง จากสายพันธุ์โอไมครอนที่เราคุ้นเคยกันเกิดความเปลี่ยนแปลงไปมาก กลายเป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ดี หรือสายพันธุ์ XBB ที่มีศักยภาพในการหลบภูมิคุ้มกันสูง โดยสายพันธุ์เหล่านี้กำลังเข้ามาแทนที่เชื้อสายพันธุ์เดิมได้ในไม่ช้า
สำหรับประเทศไทยยอดผู้ป่วยเดือนพฤศจิกายนปี 2022 เริ่มทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 12.8% ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยอาการหนักปรับตัวเพิ่มตาม จนทำให้อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ออกมารณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อดลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ประเทศในเอเชียด้วยกันอย่างญี่ปุ่นเองก็เริ่มตระหนักความร้ายแรงในการแพร่ระบาด เมื่อล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งไปถึง 78,000 รายเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นจึงเริ่มพิจารณามาตรการควบคุมการระบาด เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
ส่วนทางด้านประเทศในยุโรปเองแม้จะยังไม่มีการแจ้งเตือนจากทางรัฐบาล แต่องค์กรอนามัยโลกเองก็ออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทยอยสูงขึ้นทั่วภูมิภาค สาเหตุมาจากทั่วทวีปเข้าสู่ฤดูหนาว เมื่อรวมกับการประท้วงประเด็นค่าครองชีพที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดให้ร้ายแรงยิ่งขึ้น
เราจึงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า การระบาดของ Covid-19 ผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยมีแนวโน้มกลับมาระบาดได้ทุกเมื่อ
การติดเชื้อซ้ำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ป่วย
ผลการวิจัยล่าสุดจากนักระบาดวิทยาแห่ง Washington University School of Medicine ค้นพบว่า การติดเชื้อCovid-19 ซ้ำๆ ทำให้บุคคลมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางระบบประสาท หัวใจ และปอดมากกว่าคนติดเชื้อน้อยครั้งกว่า และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพแก่ผู้ป่วยในระยะยาว
ข้อมูลส่วนนี้เกิดขึ้นจากการติดตามข้อมูลด้านสุขภาพแก่ผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตรวจสอบอัตราการเพิ่มของปัญหาสุขภาพภายหลังการติดเชื้อเป็นเวลาหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน ก่อนพบว่าการติดเชื้อโควิดเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนต่อโรคหัวใจและระบบประสาทนานนับปี จากผลกระทบที่เกิดในการติดเชื้อและ Long Covid
ข้อมูลส่วนนี้เกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างจากผู้ไม่ได้รับเชื้อนับล้าน กับผู้ติดเชื้อโควิด 400,000 ราย และ ผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 1 ครั้งราว 40,000 ราย เมื่อลองนำมาเปรียบเทียบจึงพบว่า ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและระบบประสาทแปรผันตรงตามจำวนการติดเชื้อโควิด
จากการตรวจสอบพบว่าการติดเชื้อมากกว่า 1 ครั้งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ ทั้งในแบบเฉียบพลันที่เกิดภายใน 30 วันแรกหลังติดเชื้อ และจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อเกิดการติดเชื้อภายในร่างกาย โดยข้อมูลสารธารณสุขพบว่า ผู้ติดเชื้อครั้งที่ 2 และ 3 มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 3 เท่า และโรคทางระบบประสาทเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อเพียงครั้งเดียว
โดยความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นสูงเป็นพิเศษ ภายในระยะเวลา 30 วันหลังเกิดการติดเชื้อ แต่อัตราเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงดังกล่าวสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนจากผลกระทบที่เกิดกับ Long Covid อีกทั้งผลกระทบในส่วนนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีนของผู้ป่วย
นี่ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของผู้คน เดิมเราน่าจะเคยได้ยินกันว่าเราไม่สามารถใช้ภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อรับมือ Covid-19 ได้ งานวิจัยนี้เป็นการเน้นย้ำอีกครั้งว่า การติดเชื้อโควิดจะทิ้งผลกระทบร้ายแรงแก่ร่างกาย แม้เราจะได้รับเชื้อแล้วไม่เป็นไร แต่นั่นไม่ได้ช่วยยืนยันว่าเมื่อเกิดการติดเชื้อซ้ำเราจะปลอดภัยเช่นกัน
การวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อซ้ำเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้น เราจึงสมควรเฝ้าระวังหมั่นรักษาสุขภาพของตัวเองให้มาก แม้ได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อมาแล้ว เพราะเราไม่อาจแน่ใจว่า ผลกระทบและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและระบบประสาทที่มากขึ้น จะสร้างผลกระทบต่อร่างกายขนาดไหน
คงได้แต่คาดหวังว่าในฤดูหนาวที่กำลังมาถึง เราจะสามารถผ่านพ้นไปได้โดยไม่ต้องติดเชื้อ Covid-19 อีก
ที่มา
https://www.hfocus.org/content/2022/10/26196
https://www.komchadluek.net/covid-19/covid-19-updated/536119
https://news.ch7.com/detail/605343