ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดยังบูมทั่วโลก แม้มีปัญหาขยะพลาสติก
อุตสาหกรรมน้ำดื่มบรรจุขวดทำให้กลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมหงุดหงิดรำคาญใจแม้จะพยายามชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของขยะพลาสติกต่อโลกและจากข้อมูลก็ยังพบว่า ปัจจุบันในโลกมีน้ำดื่มบรรจุขวดเพียง 2.3% เท่านั้นที่ใช้ขวดแก้ว แน่นอนว่าที่เหลือคือขวดพลาสติกจำนวนมหาศาล
เหมันต์ วิธานเกตุ ประธานของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม Friends of the Earth International ออกมายืนกรานกับโลกผ่านบีบีซีว่า เราไม่ควรซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกเพราะ “ความเสียหายจากพลาสติกเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้” และ "เมื่อแยกส่วนเป็นไมโครพลาสติกแล้ว จะทำให้เกิดมลพิษต่อระบบนิเวศทั้งหมด รวมทั้งมหาสมุทรและอากาศที่เราหายใจ โดยไม่มีทางที่จะเอากลับคืนมาได้"
เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว มีการซื้อขวดน้ำพลาสติกเป็นจำนวนถึง 50,000 ล้านขวดทุกปี และจากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันมีขวดพลาสติกที่ขายทั่วโลกเพียง 9% เท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล ในอุตสาหกรรมปัจจุบัน นับได้ว่าขวดที่ทำจากโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต หรือ PET สามารถรีไซเคิลได้ 100%
เราได้รับคำแนะนำว่า น้ำดื่มบรรจุขวดดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล แม้ล่าสุดจะมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการปนเปื้อนของน้ำประปาในสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือ ภาคส่วนน้ำดื่มบรรจุขวดทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีรายได้ถึง 324,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะพุ่งไปที่ 419,900 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2572 การเติบโตนี้นำขบวนโดยน้ำอัดลมซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
เหตุผลสำคัญของการเติบโต
Simon Oldham ไซมอน โอลด์แฮม กรรมการผู้จัดการร่วมของ Highland Spring แบรนด์น้ำดื่มบรรจุขวดของสกอตแลนด์ ยืนยันถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับน้ำรุ่นที่มีฟอง
“ในช่วงที่เกิดโรคระบาดของโควิด-19 น้ำอัดลมมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำ หรือไม่มีเลย” โอลด์แฮมเสริมว่า ยอดขายน้ำดื่มบรรจุขวดที่เพิ่มขึ้นโดยรวม "ได้รับแรงหนุนจากความระมัดระวังเรื่องสุขภาพมากขึ้น... โดยผู้บริโภคมองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์"
Jill Culora รองประธานฝ่ายสื่อสารของ International Bottled Water Association ในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า สำหรับหลายๆ คน น้ำดื่มบรรจุขวดเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพ
“สำหรับประเทศกำลังพัฒนาทางเศรษฐกิจหลายๆ ประเทศ น้ำดื่มบรรจุขวดทำหน้าที่เป็นเหมือนทางออก เมื่อไม่มีน้ำดื่มที่ปลอดภัย” เธอกล่าว "หลายประเทศยังไม่ได้สร้างระบบจ่ายน้ำสาธารณะที่จำเป็น สำหรับประเทศเหล่านั้น น้ำดื่มบรรจุขวดมักเป็นแหล่งน้ำสะอาดเพียงแหล่งเดียวของประเทศ
ยิ่งกว่านั้น น้ำดื่มบรรจุขวดยังสามารถใช้ได้ในยามฉุกเฉินและเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื่องจากตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพตลอดทั้งปี บางครั้งน้ำจากระบบน้ำประปาอาจเกิดปัญหาใช้การไม่ได้หลังจากสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยธรรมชาติ
ยิ่งกว่านั้นนักวิชาการที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับน้ำจากสถาบัน Global Health คิดว่าน่าจะมีปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังยอดขายน้ำดื่มบรรจุขวดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
"การประชาสัมพันธ์และการตลาดของอุตสาหกรรมน้ำดื่มบรรจุขวด และการขาดการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแหล่งน้ำสาธารณะ อาจมีบทบาทหลัก อย่างน้อยก็ในประเทศต่างๆ เช่น สเปน"
และแม้ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมีหน้าที่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำประปามีความปลอดภัย แต่ก็ควรมีความโปร่งใสมากกว่านี้ เพราะข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพน้ำจะช่วยลดความกังวลของผู้คนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับน้ำดื่มบรรจุขวด
สำหรับคนที่กังวลเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำประปา ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดก็คือการใช้ระบบกรองน้ำที่บ้าน เช่น ระบบกรองน้ำที่ติดตั้งไว้ที่อ่างล้างจาน หรืออาจเป็นตัวกรองที่ใส่ลงในเหยือกน้ำ
ในอิสราเอล น้ำดื่มมากกว่า 3 ใน 4 ของประเทศตอนนี้มาจากโรงงานแยกเกลือออกจากน้ำทะเลบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอื่นๆ เช่น ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างก็พึ่งพาน้ำกลั่นจากน้ำทะเล ซึ่งมีรสชาติจืดชืดและไม่มีชีวิตชีวา เพื่อปรับปรุงรสชาติของน้ำนี้และกำจัดคลอรีน บริษัท Mayu ของอิสราเอลจึงสร้างระบบเหยือกน้ำที่เรียกว่า "Swirl" ประกอบด้วยอุปกรณ์อย่าง เหยือกแก้วขนาด 1.5 ลิตรที่วางอยู่ด้านบนของตัวเครื่องฐานกระเบื้องเคลือบ
เครื่องที่ว่านี้ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และเมื่อเปิดเครื่องจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเป็นเกลียวที่ช่วยเติมออกซิเจนให้กับน้ำในเหยือก ซึ่งกล่าวกันว่า ช่วยปรับปรุงรสชาติของน้ำ
นอกจากนี้ผู้ใช้ Mayu ยังสามารถหาซื้อแร่ธาตุผสมเติมลงในน้ำเพื่อเลียนแบบรสชาติของน้ำดื่มบรรจุขวดที่พวกเขาชื่นชอบ และเพื่อคืนคุณค่าทางโภชนาการได้อีก
พอสรุปได้ว่า การปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำสาธารณะคือหัวใจสำคัญของการลดขยะขวดพลาสติกให้กับโลก แม้ว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตเพียงใด
หากยังไม่แน่ใจลองมาฟังเหตุผลอีกสักข้อ
เมื่อนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพโลกแห่งบาร์เซโลนา (ISGlobal) ยังพบผลกระทบของน้ำดื่มบรรจุขวดที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติสูงกว่าน้ำประปาถึง 3,500 เท่า
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ตรวจสอบผลกระทบของน้ำดื่มบรรจุขวดในบาร์เซโลนา ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม โดยพบว่า หากประชากรในเมืองดื่มน้ำขวดกันหมด จะส่งผลให้ต้นทุนในการสกัดทรัพยากรสูงขึ้น 3,500 เท่าเมื่อเทียบกับการดื่มน้ำก๊อกทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ 83.9 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ยิ่งกว่านั้น นักวิจัยยังพบว่าน้ำดื่มบรรจุขวดส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศมากกว่าน้ำประปาถึง 1,400 เท่า
เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเราที่อาจช่วยหยุดการสร้างขยะพลาสติกได้ แต่อาจทำได้ยากหากความเสี่ยงนั้นคือสุขภาพของเราเอง แต่คำถามคือ เรายังมีทางเลือกอื่นอีกไหม หรือว่า เราจะหาทางเลือกนั้นเองด้วยวิธีของเรา
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/business-64635190