ป.ป.ช.ชี้ทุจริตไทยยังรุนแรง เฝ้าจับตาโครงการรัฐเกิน 500 ล้าน
ป.ป.ช.เผยแนวโน้มทุจริตในไทยยังรุนแรงต่อเนื่อง กำหนดปีงบฯ 69 จับตาโครงการรัฐขนาดใหญ่กว่า 500 ล้านบาท เน้นเฝ้าระวังเชิงรุกทุกจังหวัด ป้องกันความเสียหายก่อนเกิดจริง
KEY
POINTS
- ป.ป.ช. ประเมินสถานการณ์ทุจริตในไทยยังคงรุนแรงและยังไม่ลดระดับลง
- กำหนดให้ปีงบประมาณ 2569 เป็นปีแห่งการเฝ้าระวังโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป
- สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ช. ทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเชิงรุก โดยเฉพาะโครงการในระดับพื้นที่ที่มีวงเงินตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณ การรับเรื่องร้องเรียน และการสืบสวนในประเด็นการทุจริต รวมถึงการตรวจพบในสื่อสังคมออนไลน์ สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์การทุจริตในไทยยังไม่ลดระดับความรุนแรงลง
ด้วยเหตุนี้ ป.ป.ช. กำหนดให้ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นปีแห่ง “การเฝ้าระวังโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ” โดยเน้นโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงโครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระดับประเทศ เช่น การทุจริตเชิงนโยบาย การเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุน การจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส หรือการใช้เงินกับโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพ
หากพบสัญญาณหรือปัจจัยที่บ่งชี้ว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้น ป.ป.ช.จะเร่งเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในทันที พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันสกัดการทุจริตตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1–9 และสำนักงานประจำจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่ติดตามและตรวจสอบเชิงรุก โดยเฉพาะโครงการในระดับพื้นที่ที่มีวงเงินตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อให้การเฝ้าระวังครอบคลุมทุกมิติและทุกระดับการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ
ป.ป.ช.ตั้งเป้าให้การดำเนินงานปีงบฯ 69 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบป้องกันการทุจริตของประเทศ หวังสร้างกลไกตรวจสอบที่เข้มแข็ง ป้องกันความเสียหายก่อนเกิดขึ้นจริง ลดการสูญเสียงบประมาณแผ่นดิน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศว่า “ประเทศไทยเอาจริงกับการต่อต้านคอร์รัปชัน”


