"วันทนา โอทอง"เผยนาที ทีมรปภ.นายกฯลากตัวปิดปากอุดจมูก
"วันทนา โอทอง"แจ้งความดำเนินคดีทีมรปภ.นายกฯ เผยนาทีถูกลากตัวปิดปาก อุดจมูก ระหว่างไปยืนดักรอ รับนัดรวมตัวแต่ไม่ได้ไปก่อความวุ่นวาย เดือดร้อนเรื่องทำมาหากิน เสียใจถูกทำเกินกว่าเหตุ
น.ส.วันทนา โอทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เมื่อปี 2562 ผู้ไปยืนดักรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และถูกเจ้าหน้าที่ปิดปากลากตัวใช้ร่มบังสื่อมวลชน ก่อนถูกนำตัวไปดำเนินคดีที่สภ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13มี.ค.66 เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พร้อมกับทนายความเข้าพบ พ.ต.ต.นพพิณฑ์ แก้วอินไชย สว.สอบสวน กก.3 บก.ปปป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยของนายกฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
น.ส.วันทนา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ปรากฎในคลิปถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิส่วนตัว และกักขังหน่วงเหนี่ยวขณะที่ไปรอพบนายกฯ เพื่อร้องเรียนเรื่องอาชีพค้าขาย ที่ประสบภาวะลำบาก ขณะเกิดเหตุพล.อ.ประยุทธ์ยังเดินทางมาไม่ถึง จึงออกมาเดินที่ลานจอดรถและได้พบกับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ก่อนถูกถามว่า “มาทำอะไร” เมื่อบอกว่ามารอร้องเรียนนายกฯ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจท้องที่และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งสถานที่ดังกล่าว ไปมาหมดแล้วแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จึงต้องมารอพบนายกฯ แต่ก็ไม่มีใครฟัง
จากนั้นตำรวจชาย 2 นายจะเดินเข้ามาประชิดตัวพร้อมข่มขู่และใช้มือบีบที่ข้อมือจนปวดก่อนจะมีตำรวจหญิงเข้ามาโอบตัวทันทีโดยไม่มีการสอบถาม ระหว่างจึงพยายามดิ้นเพราะหายใจไม่ออก เนื่องจากถูกอุดปากอุดจมูกจนเป็นลม ซึ่งเป็นจังหวะที่มีเจ้าหน้าที่นำร่มมากางเพื่อบังไม่ให้มีใครเห็นหรือบันทึกภาพขณะที่กำลังถูกกระทำได้รับบาดเจ็บ แขนบวมจากการอักเสบ ขาบวมเป็นแผลถลอก แพทย์สั่งให้หยุดทำงานส่วนตัวประกอบอาชีพค้าขายจึงขาดรายได้
ขอยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจมาประท้วง หรือนัดรวมตัววางแผนกับกลุ่มหญิงเสื้อดำอีก 2 รายที่มีแนวคิดเห็นต่างทางการเมือง แต่ยอมรับว่าเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้พบหญิงกลุ่มดังกล่าวจริงแต่ไม่ได้สร้างความวุ่นวาย ตะโกนด่าทอ หรือชูสัญลักษณ์ใดๆ
ส่วนกรณีที่ปรากฎโพสต์ในเฟซบุ๊กในทำนองเชิญชวนให้มารวมตัวรับนายกฯ ยอมรับว่าโพสต์จริง แต่ไม่ได้ชวนให้มาประท้วงส่วนตัวได้ข้อมูลมาว่าคนที่มารอรับจะได้เงินค่าตอบแทน เป็นค่าน้ำมันรถและค่าอาหาร ซึ่งตนไม่ได้ขัดขวาง แต่ส่วนตัวไม่รับเงินจากใคร
"รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าตำรวจทำตามหน้าที่ แต่ไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ เพราะตนก็เป็นประชาชนเสียภาษีคนหนึ่ง เป็นคนไทยเหมือนกัน ส่วนตัวนายกเองก็เป็นคนของประชาชน น่าจะต้องรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย"
ด้านทนายความ ระบุว่า จะแจ้งข้อหากับตำรวจชุดจับกุมทั้งหญิงและชายที่ปรากฎตามคลิปวีดีโอในข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ส่วนคดีที่ป้าถูกแจ้งความ ยืนยันว่ามีหลักฐานต่อสู้คดี