ล้วงลึกทีมอารักขานายกฯข้าใครอย่าแตะ

เสร็จศึกเลือกตั้งได้ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี

โดย..ธนท บังพล 

ในสถานการณ์อึมครึมแบ่งขั้วแตกแยก อยู่ดีๆ จะปล่อยให้ใครมาตีหัวท่านผู้นำก็ใช่เรื่อง ชิมิ

ก่อนหน้านี้เรามีบุรุษหมายเลขหนึ่ง แต่วันนี้เรามีสตรีหมายเลขหนึ่ง การรักษาความปลอดภัยมันก็ต้องมีปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมบ้าง

ก็แหม ครั้นจะให้ชายฉกรรจ์มาดเข้มมาอยู่ใกล้สาวงามซูเปอร์วีไอพีมันก็ดูแข็งกระด้างไป

ตำรวจปราบจลาจลหญิง (ปจ.หญิง) สังกัดกองบังคับการตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) จึงกลายเป็นชื่อแรกๆ ที่จะได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรีหญิง

ย้อนกลับไปดูการรักษาความปลอดภัยของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี หรือ ศอร.รปภ.สร.1 ที่รวมเอาตำรวจสันติบาล สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)

 แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ เองด้วยว่า จะเลือกใช้ “ตำรวจ” หรือ “ทหาร” ซึ่งสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้เลือกใช้ทหารจาก ศรภ.เป็นหลัก ขณะที่ตำรวจก็เลือกใช้ตำรวจกองปราบปราม ไม่ได้เลือกใช้ตำรวจสันติบาล 3 เหมือนสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

หนึ่งในชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับนายกฯ อภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า การทำงานของชุดรักษาความปลอดภัยให้กับนายกฯ จะใช้กำลังร่วมกันระหว่างตำรวจกับทหาร

โดยจะแบ่งงานออกเป็น 5 ส่วน คือ 1.ชุดล่วงหน้า คือเมื่อได้รับภารกิจและทราบสถานที่ที่นายกฯ จะเดินทางไปแล้ว ทีมชุดนี้จะต้องไปตรวจความเรียบร้อยสถานที่ ตรวจหาวัตถุระเบิด จุดบอดต่างๆ ที่อาจจะเป็นช่องโหว่ให้เกิดเหตุ บางครั้งต้องล่วงหน้าไปก่อนเป็นวันๆ

2.ส่วนประจำสถานที่ ซึ่งต้องคอยตรวจตราพื้นที่ แต่จะเป็นการตรวจคนหรือช่วยเฝ้าระวังเหตุ 3.ส่วนติดตาม ส่วนนี้จะเกาะติดนายกฯ ไปไหนไปด้วย เฝ้าระวังไว้ กันคนที่อาจจะเข้ามาใกล้ตัวหรือเข้ามาทำร้าย 4.ส่วนสนับสนุน และ 5.ส่วนเฝ้าบ้าน

จากประสบการณ์ของเขาที่ผ่านมาในการดูแลความปลอดภัยอย่างโชกโชน ไล่มาตั้งแต่ดูแลนายทหารระดับสูง รวมถึงรองนายกฯ คนหนึ่งในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กระทั่งถึงอภิสิทธิ์ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องไปอารักขา “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปแต่อย่างใด

“ของอย่างนี้ไม่ได้ทำแน่นอน เพราะไม่มีใครเขาใช้ รปภ.ชุดเดิมกันหรอก แต่หากมีการร้องขอ พวกผมในฐานะผู้ปฏิบัติก็พร้อมที่จะรับหน้าที่”

และเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทีมอารักขา “นายกฯ ปู” จะใช้ทีมเดิมที่เคยรักษาความปลอดภัยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่อยู่เบื้องหลังคอยดูแลจัดกำลัง เปิดเผยว่า การอารักขานายกฯ หญิง จะใช้ตำรวจหญิงจากกองกำกับการ 5 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จากค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์

 “ปกติในชุดล่วงหน้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ เราจะไม่ค่อยใช้ จะมีแต่ชุดตาม 46 คน โดยใช้ ตชด. ซึ่งก็ไม่มีอาวุธพิเศษ โดยการอารักขายิ่งลักษณ์ ก็จะใช้คนเดิมๆ เป็นผู้หญิงที่ทางหน่วย ตชด.จัดมาให้ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการวางกำลัง คือ ต้องกะทัดรัดและเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด”

ทั้งนี้ ชุดติดตามหรือคอยประกบจะต้องใช้ผู้หญิงแต่ต้องไม่ใกล้มาก ทิ้งระยะให้ห่างพอสมควร

“เราจะใช้ ตชด.หญิง 4 คน สลับทีละ 2 คน ผสมกับผู้ชาย ชุดหนึ่งจะมี 5 คน จากทั้งหมด 10 กว่าคน เพื่อสลับเปลี่ยนกันไป แต่ขณะนี้ต้องรอผู้ใหญ่ประชุมกันอีกทีว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ในเบื้องต้นจากที่เคยอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะใช้รูปแบบเบื้องต้นนี้กับยิ่งลักษณ์เช่นกัน เพียงแต่อาจจะต้องรอสรุปจากผู้ใหญ่อีกทีว่าจะมีอะไรที่พิเศษหรือไม่”

ด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.อคฝ. กล่าวถึง ปจ.หญิง ที่ส่วนหนึ่งจะต้องถูกคัดมาปฏิบัติหน้าที่อารักขานายกฯ หญิงคนแรกของไทยว่า ขณะนี้มีผู้ที่ผ่านการฝึกเฉกเช่นผู้ชายทั้งการดำรงชีพในป่า ฝึกยิงปืน ปราบจลาจล ควบคุมฝูงชน แล้ว 95 นาย

“เราจะมีการคัด ปจ.หญิง ที่ยิงปืนแม่น ได้คะแนนเต็ม 100 ซึ่งมีอยู่ 10 นาย เพื่อนำมาเป็น รปภ.บุคคลสำคัญ เด็กเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว และพร้อมที่จะปฏิบัติงานได้ทันที”

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ปจ.หญิง ที่ได้รับการฝึกมานี้ จะมีการจัดชุดล่วงหน้า ชุดติดตาม ชุดประกบสำหรับวีไอพี มีการจัดขบวนเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แล้วแต่พื้นที่

“ภาพความอ่อนโยน ได้รับการฝึก และมีวินัยของ ปจ.หญิง มีความเข้มแข็งอยู่ภายใน เชื่อหรือไม่ว่าผู้หญิงยิงปืนแม่นกว่าผู้ชาย ได้คะแนนเต็มร้อย อีกทั้งยังทุ่มเทในการทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นดำริของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ที่เห็นว่าเคยมีรัฐมนตรีหญิงจากต่างประเทศมาเยือนไทย หรือภริยาผู้นำต่างประเทศ ต่อไปหากมีการร้องขอมายังเรา เราต้องมีความพร้อมในการอารักขาบุคคลวีไอพี”

โดย ผบก.อคฝ.ยืนยันความพร้อมในการทำหน้าที่ของ ปจ.หญิง ที่จะนำไปอารักขานายกฯ หญิงว่า พื้นฐานการฝึกอย่างหนัก ทั้งการต่อสู้ป้องกันตัว ฝึกความอดทน ฝึกการยิงปืน หากมีการร้องขอให้ไปทำหน้าที่ ปจ.หญิง จะแข็งแกร่งและมีวินัย ไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก

แหม ค่อยชื่นใจหน่อย ถ้ามี ปจ.หญิง ที่ผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชนแล้ว แต่ต้องเก็บเอาไว้ดองในกองก็น่าเสียดายอยู่

และที่สำคัญ อิอิ สวยๆ ทั้งนั้น...กระพ้มรับรอง นายกฯ ข้าใครอย่าแตะ