posttoday

ไทยย้ำศาลโลกไม่มีอำนาจพิพากษาเรื่องเดิม

31 พฤษภาคม 2554

ไทยแจงศาลโลก 5 ประเด็น ยันศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่มีอำนาจพิพากษาคำตัดสินเดิม ชี้ขืนทำเท่ากับเป็นการกำหนดแบ่งเส้นเขตแดน เอื้อต่อกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารฝ่ายเดียว

ไทยแจงศาลโลก 5 ประเด็น ยันศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่มีอำนาจพิพากษาคำตัดสินเดิม ชี้ขืนทำเท่ากับเป็นการกำหนดแบ่งเส้นเขตแดน เอื้อต่อกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารฝ่ายเดียว

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงแนวทางการขึ้นชี้แจงต่อศาลศาลโลกของฝ่ายไทย โดยมีตัวแทน คือ นายวีระชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย 5 ประเด็น ว่า 1.การตอกย้ำถึงการที่ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติได้ปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อปี 2505 อย่างครบถ้วน 2.คำพิพากษาของศาลโลกเมื่อปี 2505 เป็นเรื่องของอธิปไตยเหนือตัวปราสาท ไม่ใช่เส้นเขตแดน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา กัมพูชายอมรับเส้นขอบเขตของพื้นที่ใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยุครัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อ 10 ก.ค. 2505 ที่มีขึ้นเพื่อเป็นการปฎิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าว โดยฝ่ายกัมพูชานิ่งเฉยและไม่มีได้ทักท้วงใดๆมานานกว่า 40 ปี

นายธานี กล่าวว่า 3.ไทยย้ำถึงเจตจำนงที่ต้องการอยู่ร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ และพัฒนาความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความร่วมมือ รวมทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงไม่มีเหตุผลที่จะสร้างความขัดแย้งกับกัมพูชา 4.ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเพื่อให้เกิดการปะทะ ไม่ว่าจะเป็นเดือนก.พ. 54 ที่ผ่านมา บริเวณปราสาทพระวิหาร และเดือนเม.ย-พ.ค. 54 ที่ปราสาทตาเมือนและตาควาย แต่จำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องอธิปไตยและพลเรือนไทย ที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจากกัมพูชา และ5.การชี้แจงถึงเจตนาของกัมพูชาที่ต้องการดินแดนเพื่อใช้เป็นพื้นที่กันชนในการบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร เพื่อให้กระบวนการขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกโดยสมบูรณ์

ด้าน ศ.อลัง เปลเล่ต์ ที่ปรึกษาทนายความไทยจากประเทศฝรั่งเศส ชี้แจงว่า คำขอตีความและคำขอมาตรการชั่วคราวนั้น อยู่นอกเขตอำนาจของศาลโลก และคำพิพากษาปี 2505  ให้ไทยถอนทหารออกจาพื้นที่บริเวณรอบตัวปราสาท ถือเป็นความผูกพันครั้งเดียวซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามแล้ว ทั้งนี้ ไทยไม่ได้โต้แย้งอำนาจอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหาร ไม่มีความเห็นต่างในเรื่องนี้ ศาลโลกจึงไม่มีอำนาจตีความและออกมาตรการชั่วคราว ตลอดจนการตีความเหตุผลของคำพิพากษาทำได้เมื่อจำเป็นต่อคำตัดสินเท่านั้น ดังนั้น การพยายามเปลี่ยน คำพิพากษาเป็นกำหนดเส้นเขตแดนจึงไม่ถูกต้อง อีกทั้ง การตีความต้องไม่แก้ไขสิ่งที่ศาลพิพากษาแล้ว เรื่องเขตแดนเป็นเหตุผลประกอบการตัดสินได้หากจำเป็นเท่านั้น

ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ที่ปรึกษาทนายความไทยจากประเทศอังกฤษ ชี้แจงว่า ศาลโลกไม่มีเขตอำนาจออกมาตรการชั่วคราวคดีนี้ เพราะมิใช่เขตอำนาจที่จะพิจารณาว่า คู่ความปฏิบัติตามคำตัดสินแล้วหรือไม่ แต่เป็นอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหารย่อมเกี่ยวข้องกับตัวปราสาทเท่านั้น ซึ่งศาลได้เคยปฏิเสธเมื่อปี 2505 ว่า คดีพิพากษาเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารไม่ใช่เขตแดน รวมทั้งคำขอมาตรการชั่วคราวอ้างความจำเป็นฉุกเฉินจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นห่างจากปราสาทพระวิหารและเกิดภายหลังคำพิพากษาปี 2505 ศาลโลกจึงไม่มีเขตอำนาจ

ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ ที่ปรึกษาทนายความไทยจากประเทศแคนาดา นำเสนอข้อวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ศาลไม่ควรมีคำสั่งออกมาตรการชั่วคราว 3 ประการ ได้แก่ ไทยและกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับคำพิพากษาในคดีเดิม มาตรการชั่วคราวไม่มีความสมดุล เพราะสั่งให้ไทยดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว และคำขอของกัมพูชาไม่เข้าเงื่อนไขเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน หลักฐานที่กัมพูชานำมาอ้างเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น อยู่นอกบริเวณที่ศาลโลกพิพากษาในปี 2505 รวมทั้งการขอให้ศาลมีมาตรการชั่วคราวเท่ากับให้ศาลตัดสินในเบื้องต้นเกี่ยวกับความถูกต้องของแผนที่ ซึ่งขัดกับแนวปฏิบัติของศาลโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม การชี้แจงของไทยในวันนี้ (31พ.ค.) ศาลโลกจะให้เวลาประเทศละ 1 ชั่วโมง โดยฝ่ายกัมพูชาจะเริ่มชี้แจงก่อนในช่วงเช้า ตามด้วยฝ่ายไทยในช่วงบ่าย ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะตรงกับเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งประเด็นวันนี้ จะเป็นการให้กัมพูชาได้ชี้แจงในประเด็นที่ฝ่ายไทยได้ให้การต่อศาลโลกวานนี้ (30 พ.ค.) ตามด้วยการให้โอกาสฝ่ายไทยขึ้นตอบโต้การชี้แจงของกัมพูชา 

ไทยย้ำศาลโลกไม่มีอำนาจพิพากษาเรื่องเดิม

 

ข่าวล่าสุด

พาณิชย์ จับมือ LINE หนุน SMEs ไทยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา รุกตลาดออนไลน์