posttoday

ประกาศ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางเงิน 'ผู้มีสถานภาพการเมือง' ทั่วประเทศ

06 ธันวาคม 2568

ปปง. ออกประกาศกำหนด "บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง" (PEPs) ที่ต้องถูกสถาบันการเงินตรวจสอบธุรกรรมการเงินอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการทุจริตและการฟอกเงิน

KEY

POINTS

  • ปปง. ได้ออกประกาศกำหนดรายชื่อ "บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง" (PEPs) อย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันการฟอกเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2569
  • คำนิยามของ PEPs ครอบคลุมตำแหน่งระดับสูงอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงครอบครัวและผู้ที่พ้นจากตำแหน่งไม่เกิน 1 ปี
  • บุคคลเหล่านี้จะถูกจัดเป็น "กลุ่มเสี่ยงสูง" ซึ่งทำให้สถาบันการเงินต้องใช้มาตรการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าอย่างเข้มข้น (Enhanced Due Diligence) เช่น การตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน แต่ยังสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ได้มีการเผยแพร่ประกาศสำคัญยิ่งในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นประกาศของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เรื่อง บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง หรือที่เรียกตามมาตรฐานสากลว่า PEPs (Politically Exposed Persons)

 

ประกาศฉบับนี้ออกตามความในกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 (Customer Due Diligence: CDD) โดยจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569

 

การกำหนดบัญชีรายชื่อตำแหน่งนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการฟอกเงิน และเป็นการปฏิบัติตามหลักการสากลของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF) และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (UNCAC)

 

วัตถุประสงค์หลักคือการป้องกันไม่ให้ระบบการเงินของประเทศไทยถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงินโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเสริมสร้างความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงินโดยรวม

 

PEPs ไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่เป็น "กลุ่มเสี่ยงสูง" ที่ต้องถูกตรวจสอบเข้มข้น

 

สำนักงาน ปปง. ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การระบุตำแหน่งตามกฎหมายนี้ ไม่ใช่การกล่าวหาว่าบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่เป็นการกำหนดเพื่อใช้ในการจัดระดับความเสี่ยงของลูกค้าเท่านั้น เนื่องจากบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมืองถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้

 

ดังนั้น สถาบันการเงินและผู้มีหน้าที่รายงานจึงมีหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าอย่างเข้มข้น (Enhanced Due Diligence: EDD) มาตรการ EDD ที่ต้องปฏิบัติ

 

ได้แก่ การตรวจสอบสถานะลูกค้าว่าเป็น PEP หรือไม่, การขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงิน (Source of Funds/Source of Wealth), การขออนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงก่อนเริ่มความสัมพันธ์ทางธุรกิจ, และการติดตามการทำธุรกรรมอย่างใกล้ชิด

 

อย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านี้ยังสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ โดยไม่มีภาระหรือหน้าที่เพิ่มเติม เว้นแต่การทำธุรกรรมนั้นเข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องรายงานตามกฎหมาย เช่น ธุรกรรมที่มีจำนวนเงินสูงถึงเกณฑ์ หรือธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย

 

รายละเอียดตำแหน่ง "บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง" (PEPs) ตามที่ประกาศกำหนด

ประกาศดังกล่าวได้ครอบคลุมตำแหน่งทางการเมืองและตำแหน่งระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารอำนาจรัฐทุกฝ่ายอย่างละเอียด โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้:

1. ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในฝ่ายบริหาร (Executive Branch)

กลุ่มนี้คือบุคคลที่เป็นหัวใจของการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่:

นายกรัฐมนตรี

รองนายกรัฐมนตรี

รัฐมนตรี

ข้าราชการการเมืองที่เทียบเท่าตำแหน่งบริหารราชการส่วนสามัญประเภทบริหาร ระดับสูง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน

2. ข้าราชการฝ่ายบริหารและตำรวจระดับสูง

นอกจากตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยังรวมถึงข้าราชการประจำระดับบริหารสูงสุดในหน่วยงานต่าง ๆ:

ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ทั้งในราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค.

ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้แก่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, จเรตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ที่เทียบเท่า.

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ที่เทียบเท่า.

ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดีตามกฎหมายว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี.

3. ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในฝ่ายนิติบัญญัติ (Legislative Branch)

ครอบคลุมทั้งผู้บริหารและสมาชิกในรัฐสภา:

ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร.

ประธานและรองประธานวุฒิสภา.

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.).

เลขาธิการและรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร/วุฒิสภา.

4. ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในศาลและองค์กรอัยการ (Judicial Branch and Public Prosecutors)

เป็นการตรวจสอบความโปร่งใสในอำนาจตุลาการและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม:

ศาลยุติธรรม: ประธานและรองประธานศาลฎีกา, ข้าราชการตุลาการที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานศาลตั้งแต่ตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาขึ้นไป, รวมถึงผู้ที่เทียบเท่า. รวมถึงเลขาธิการและรองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม.

ศาลปกครอง: ประธานและรองประธานศาลปกครองสูงสุด, ข้าราชการตุลาการศาลปกครองที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานศาลปกครองตั้งแต่ตำแหน่งชั้น อธิบดีศาลปกครองขึ้นไป, รวมถึงผู้ที่เทียบเท่า. รวมถึงเลขาธิการและรองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง.

ศาลรัฐธรรมนูญ: ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, เลขาธิการและรองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ.

องค์กรอัยการ: อัยการสูงสุด, รองอัยการสูงสุด, ผู้ตรวจการอัยการ. ข้าราชการอัยการที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ชั้น อธิบดีอัยการขึ้นไป. รวมถึงเลขาธิการและรองเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด.

5. องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและพรรคการเมือง

หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ.

หัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง.

6. ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพและกระทรวงกลาโหม

ตำแหน่งระดับสูงในหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ต้องถูกตรวจสอบเข้มข้น ได้แก่:

ปลัดกระทรวงกลาโหม และรองปลัดกระทรวงกลาโหม.

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด.

ผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ รวมถึงรองผู้บัญชาการของแต่ละเหล่าทัพ.

ข้าราชการทหารที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดีตามกฎหมายว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่เทียบเท่าอธิบดี.

7. ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในองค์กรของรัฐและรัฐวิสาหกิจ

บัญชีรายชื่อนี้ยังรวมถึงบุคคลระดับนำในองค์กรของรัฐที่จัดการงบประมาณและทรัพยกรสำคัญของประเทศ:

องค์กรของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ: ประธานกรรมการ, กรรมการ, ผู้บริหารสูงสุด และรองผู้บริหารสูงสุด.

หน่วยงานของรัฐอื่น: เช่น ประธานกรรมการ, กรรมการ, เลขาธิการและรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.).

ประธานกรรมการ, กรรมการ, ผู้ว่าการและรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย.

ผู้บริหารสูงสุดและรองผู้บริหารสูงสุดของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ (เช่น อธิการบดีและรองอธิการบดี).

ผู้บริหารสูงสุดและรองผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการเงินของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ.

ประธานกรรมการ, กรรมการ, เลขาธิการและรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.).

ผู้บริหารและรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย.

8. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกระดับ

รายชื่อตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูกระบุอย่างละเอียด ครอบคลุมผู้บริหาร สมาชิกสภา และปลัด:

กรุงเทพมหานคร: ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, รองผู้ว่าฯ, ที่ปรึกษา/ที่ปรึกษา/เลขานุการ/ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ, สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร, ปลัดกรุงเทพมหานคร และรองปลัดฯ.

เมืองพัทยา: นายกเมืองพัทยา, รองนายกฯ, ที่ปรึกษา/ที่ปรึกษา/เลขานุการ/ผู้ช่วยเลขานุการนายกฯ, สมาชิกสภาเมืองพัทยา, และปลัดเมืองพัทยา.

องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.): นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด, รองนายกฯ, ประธานที่ปรึกษา/ที่ปรึกษา/เลขานุการ/ผู้ช่วยเลขานุการนายกฯ, สมาชิกสภา อบจ., และปลัด อบจ..

เทศบาล (ครอบคลุม เทศบาลนคร, เทศบาลเมือง, เทศบาลตำบล): นายกเทศมนตรี, รองนายกเทศมนตรี, เทศมนตรี, สมาชิกสภาเทศบาล, และปลัดเทศบาล.

องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.): นายกองค์การบริหารส่วนตำบล, รองนายกฯ, และปลัด อบต..

9. ผู้ดำรงตำแหน่งในต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ

รวมถึงการขยายขอบเขตการตรวจสอบไปยังผู้ที่มีความเสี่ยงจากต่างประเทศ:

ประมุขแห่งรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศ, รัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลต่างประเทศ.

ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในศาล องค์กรอิสระ หรือองค์กรระหว่างประเทศ.

ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินที่รัฐบาลต่างประเทศถือหุ้น.

10. บุคคลที่พ้นจากตำแหน่งแล้วไม่เกินหนึ่งปี และผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิด

บุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งตามข้อ 5 ถึงข้อ 16 และพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว ไม่เกินหนึ่งปี ก็ยังคงมีสถานภาพเป็น PEPs และต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มข้น.

นอกจากนี้ ประกาศยังครอบคลุมถึง "บุคคลในครอบครัว" หรือ "บุคคลที่เกี่ยวพันใกล้ชิด" กับ PEPs ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกรณีที่มีปัจจัยบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของ PEPs นั้น. อย่างไรก็ตาม หากสถาบันการเงินพิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคลที่เกี่ยวพันใกล้ชิดนี้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก็สามารถพิจารณายกเว้นการใช้มาตรการตรวจสอบเข้มข้นได้.

การประกาศบัญชีรายชื่อที่ละเอียดและครอบคลุมนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยในการยกระดับมาตรการต่อต้านการฟอกเงินให้สอดคล้องกับมาตรการสากลอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นที่การสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินและความโปร่งใสในหมู่ผู้มีอำนาจ

 

ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (คลิ๊กอ่าน)

ข่าวล่าสุด

ยุคที่ Hyperscaler สร้างชิปแข่งกันเอง นี่คือจุดเปลี่ยนของ AI หรือโอกาสของ NVIDIA?