"พรรคประชาชน" ชี้ ถอน เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เหตุกลัวถูกคว่ำ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบให้ ครม. ถอนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ออกจากการพิจารณาของสภาว่า

 

จากการประชุมสภาเช้าวันนี้ พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านพยายามตั้งคำถามต่อรัฐบาลถึงเหตุผลในการขอถอนร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเพราะรัฐบาลต้องการไปพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบ ให้ประชาชนมีโอกาสวิพากษ์วิจารณ์มากยิ่งขึ้น หรือถอนร่างออกไปเพราะกลัวจะถูกคว่ำในสภาฯ กันแน่

เหตุผลที่ตัวแทน ครม. อย่าง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงนั้น พวกตนเห็นว่าฟังไม่ขึ้น เช่นอ้างว่า ครม. ถอนร่างออกไปเพราะองค์ประกอบของ ครม. เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ถ้าใช้เหตุผลนี้กับร่างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ทำไมร่างกฎหมายอื่นที่ ครม. เสนอเข้ามาอยู่ในระเบียบวาระ จึงไม่มีมติให้ถอนออกไปเช่นกัน

 

อีกเหตุผล คือที่พรรคประชาชนขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ ว่าถ้าถอนออกไปแล้ว จะไม่เสนอร่างกลับเข้ามาอีกภายในสภาชุดนี้ พรรคเพื่อไทยสามารถนำเรื่องนี้ไปเป็นนโยบายหาเสียงได้ ให้ประชาชนตัดสินผ่านการเลือกตั้ง

 

ซึ่งคุณจุลพันธ์บอกว่าไม่สามารถรับปากได้ เพราะไม่ใช่ตัวแทนของ ครม. ทั้งหมด แต่วันนี้คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่สภาฯ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ คุณแพทองธารสามารถใช้สิทธิในฐานะ รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมการประชุมสภาและเป็นตัวแทนยืนยันในที่ประชุมได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แสดงออกว่ารัฐบาลขาดความจริงใจ ประกอบกับผลโหวตที่มีประมาณ 250 กว่าเสียง หากหักลบเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยออกมาแสดงจุดยืนว่าไม่สามารถเห็นด้วยกับร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้

เชื่อว่าทุกคนคำนวณได้ถ้าร่างกฎหมายนี้เข้าสู่วาระที่หนึ่ง มีโอกาสสูงมากที่จะถูกคว่ำ ดังนั้นทั้งหมดสอดคล้องกับสิ่งที่พวกตนได้ตั้งคำถามตั้งแต่แรก ว่ารัฐบาลถอนร่างเพียงเป็นแท็กติกในสภา ที่กลัวว่ากฎหมายจะถูกคว่ำต่างหาก

 

หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า พรรคประชาชนเห็นด้วยกับการถอนร่างอย่างจริงใจ แต่เมื่อรัฐบาลไม่ได้ให้เหตุผลที่แท้จริง พวกตนจึงไม่สามารถร่วมในการลงมติครั้งนี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้รัฐบาลใช้เสียงข้างมากในการถอนร่างออกไป แต่ในอนาคตไม่มีอะไรรับประกันว่ารัฐบาลจะไม่เสนอกลับเข้ามาอีก ดังนั้น พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง