posttoday

วาทกรรมเดือด! เค้าลางท่าที ‘ทุกฝ่าย’ วีโต้ ‘มติแพทยสภา’ เกิดแน่?!

28 พฤษภาคม 2568

ประเมินท่าที ‘ทักษิณ’ ‘สมศักดิ์’ และฝ่ายเกี่ยวข้อง ที่เมื่อวานออกมาชัดเจนเห็นเป็นภาพกว่าครั้งไหน! พูดได้แค่ว่า เดือด จนเห็นเค้าลางว่า ‘วีโต้’ เกิดไม่เกิด

คณะกรรมการฯ ตีองค์ประชุมแพทยสภาไม่ชอบ มติไม่ชอบ

 

เริ่มต้นด้วยเวลา 14:00 เมื่อวานนี้ (27 พฤษภาคม 2568) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการเสนอความเห็นแก่สภานายกพิเศษฯ ที่แต่งตั้งโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ข้อความเห็นกรณี ‘มติแพทยสภา’ ลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีสืบเนื่องการส่งตัวจากโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์มายังโรงพยาบาลตำรวจ และการรักษาอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร  .. ต่างทยอยเข้ามาประชุมกันเพื่อยื่นข้อความเห็นของตนต่อ ‘มติ’ ดังกล่าว

 

นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ หนึ่งในคณะกรรมการฯ  และดำรงตำแหน่งนายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแบบไม่กั๊ก! โดยมีใจความสำคัญ แบบคำต่อคำได้ว่า

 

“ คำวินิจฉัยของพวกเราในคณะกรรมการ 9 ท่าน มันไปไม่สุดได้หรอก เนื่องจากเอกสารที่เราขอไปมันมาไม่ครบ ไม่ครบยังไง คือ กรรมการทั้ง 4 ชุดของแพทยสภา มันไม่มีเอกสารประกอบตั้งแต่ชุดแรกถึงชุดสาม ประกอบกับมีรายงานจากนายแพทย์ทั้ง 3 ที่ได้รับผลประทบว่า บางทีก็มีการใช้มติเสียงข้างน้อยมาลงโทษ ซึ่งก็เขียนเป็นรายงานให้พวกเรา”

 

นายนรินท์พงศ์ ตอบคำถามสื่อ หลังจากที่ถูกถามว่าเอกสารที่ขอไปเป็นเรื่องของรายชื่อถูกต้องหรือไม่ จะส่งผลต่อการพิจารณาอย่างไรในเมื่อไม่ใช่เรื่องของการวินิจฉัย โดยนายนรินทร์พงศ์ตอบว่า

 

โดยปกติของข้อกฎหมาย การพิจารณาอะไรก็ดี อันดับแรกต้องดูองค์ประชุมของมติว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าที่มาชอบองค์ประชุมชอบ มติก็ชอบ

 

วาทกรรมเดือด! เค้าลางท่าที ‘ทุกฝ่าย’ วีโต้ ‘มติแพทยสภา’ เกิดแน่?!

 

“แต่ปรากฎว่ามตินี้มันขาดจริงๆ .. แต่ในส่วนนี้จะเป็นจุดอ่อนของแพทยสภาหรือไม่ ผมก้าวล่วงไม่ได้ แต่ในส่วนของผมคงต้องนำมาวินิจฉัยในทุกเรื่อง”

 

นอกจากนี้ นายนรินท์พงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังในวันเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีสำคัญ คือ มองว่าอนุกรรมการชุด 1-3 ของแพทยสภาขาดความชอบธรรม และมองว่าการกลับไปที่แพทยสภาชุด 4 ซึ่งมีการเปิดรายชื่อทั้ง 70 คนจะสร้างความชอบธรรมมากขึ้นอีกครั้ง

 

“ หากมติมีการส่งกลับไป ผลไม่ได้เสียต่อมุมมองทางการเมืองหรือแพทย์เลย แพทย์กลับได้รับประโยชน์ เพราะจะส่งกลับไปที่แพทยสภาชุดที่ 4 ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ 70 คน ซึ่งมีชื่อมีองค์คณะอะไรเป็นอะไร 2 ใน 3 จาก 70 คน แพทย์ก็จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ …  อยากให้มองว่าการกลับไปก็ไม่ได้เอื้อประโยชน์ แต่น่าจะเป็นประโยชน์คือไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องดีกว่าหรือไม่”

 

 

วาทกรรมเดือด! เค้าลางท่าที ‘ทุกฝ่าย’ วีโต้ ‘มติแพทยสภา’ เกิดแน่?!

 

 

ทักษิณ ซ้ำ แพทยสภาไม่มีจริยธรรม

 

ถัดมาเวลาช่วงเวลาเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกงานที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในงานนี้ปรากฎภาพร่วมเฟรมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข ที่จะต้องตัดสินว่า 'วีโต้' มติแพทยสภาหรือไม่ ได้ให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าวเป็นนัยๆ ว่า แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์ แต่บางทีก็ไม่มีเสียเอง

 

“บางคนไลน์กลุ่มหลุดออกมา แพทยสภาบางคนด่าผม อยู่ในไลน์กลุ่ม แล้วแพทยสภาอีกคนหนึ่ง ก็ตอบเป็นสติกเกอร์ไปว่า YES ซึ่งยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างนี้เรียกว่าจริยธรรมมีปัญหาซะเอง” นายทักษิณ กล่าว

 

สมศักดิ์ ย้ำอีกที ‘ที่ได้มาไม่สมบูรณ์’

ทั้งนี้ ในช่วงเย็นเวลาประมาณ 16:00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไปในทำนองเดียวกันว่า กระบวนการพิจารณาของแพทยสภานั้น มีคณะกรรมการ 4 ชุด ชุดแรกเป็นชุดรับเรื่องร้องเรียน ชุดที่ 2 อนุกรรมการสอบสวน ให้ความเห็นในระดับหนึ่ง ทำงานอยู่ประมาณ 4 เดือน แล้วส่งไปชุดที่ 3 อนุกรรมการกลั่นกรอง ทำงานระยะสั้นๆ และมีการเปลี่ยนแปลงโทษแล้วเอาเข้าการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา จากวันที่ 1 เป็นในวันที่ 8 พ.ค.2568

 

“ระยะเวลาสั้นๆ โทษถูกเปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาอย่างไรผมไม่ทราบ แต่มีเปลี่ยนแปลงไปจากอนุกรรมการสอบสวนไปถึงอนุกรรมการกลั่นกรองไปถึงคณะกรรมการแพทยสภา จึงอยากรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพราะอะไร แต่ไม่ได้ข้อมูล ก็ไม่เป็นไร

แต่ที่ขอไปเพราะกลัวว่าไม่ชัดเจน ถ้าได้ก็จะสมบูรณ์ ก็ไปคิดว่าเมื่อไม่สมบูรณ์แต่ต้องทำงานต่อ เป็นประโยชน์ของใคร หรือใครอยากจะรู้อะไร จะเพิ่มเติมอะไร หรือไม่อยากให้รู้อะไร ก็คิดดูเอาเอง” นายสมศักดิ์กล่าว

 

 

กลิ่น ‘วีโต้’ หึ่ง น่าจะถึง ‘ศาลปกครอง’

วาทกรรมทั้งหมดของเมื่อวานที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 14:00 -16:00 น. ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ว่า ‘อาการหนักเพียงพอที่จะอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานานหรือไม่’ หรือ ‘แพทย์ได้วินิจฉัยและเซ็นต์เอกสารที่ตรงกับความเป็นจริงของอาการหรือไม่’ จนนำไปสู่การลงโทษว่าถูกหรือผิดแต่อย่างใด

 

แต่กำลังโจมตีตรงไปที่ผู้ที่พิจารณาอย่าง ‘แพทยสภา’ ว่ามีจริยธรรมเพียงพอที่จะ ‘ตัดสิน’ และทำให้ ‘มติ’ ถูกต้องรึเปล่า เรียกได้ว่าเจาะจงตีที่องค์ประชุมและ ‘ล้มกระดาน’ ข้อเท็จจริงไปเลย

 

ทั้งนี้ ในการพิจารณาของ ‘แพทยสภา’ นั้นก่อนที่จะยื่นให้สภานายกพิเศษพิจารณา ก็เคยผ่านแพทยสภาชุดที่ 4 ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานฯ คณบดีคณะแพทยศาสตร์รวมแล้วกว่า 70 คนแล้วหนึ่งครั้ง และในครั้งนั้นมีมติเกือบเอกฉันท์ ลงโทษแพทย์ผู้กระทำความผิดดังกล่าว

 

แต่อย่าลืมว่า องค์ประชุมในครั้งนั้นหายไปราว 20 คน ซึ่งเท่ากับว่า เป็นจำนวนเกือบ 1 ใน 3 ขององค์ประชุม!

(อ่านเพิ่มเติม : เปิด 'ตัวเลข' องค์ประชุม 'แพทยสภา' วานนี้ เค้ารางทางรอด 'ทักษิณ')

 

เกมครั้งนี้จึงยังไม่จบ! หลายคนที่อ่านมาถึงจุดนี้ก็คงจะพอคาดเดาได้ว่า อาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างนี้ที่คงฝุ่นตลบอบอวล  ท่ามกลางการออกมาคัดค้านของแพทย์กลุ่มต่างๆ ที่ยืนหยัดมติฝั่งแพทยสภา และขอไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงจรรยาบรรณของวิชาชีพที่พวกเขามี

 

สุดท้ายนายนรินท์พงศ์ ได้เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวเช่นกันว่า การมายื่นขอความเป็นธรรมของแพทย์ทั้ง 3 คนนี้เพื่อจะเอาคำสั่งไปอุทธรณ์กับศาลปกครอง!

.

.

ท้ายสุด สมมติว่าหากมีการวีโต้เกิดขึ้น และแม้แพทยสภาจะตัดสินว่าผิดอีกครั้ง เรื่องนี้คงจะไปถึง ‘ศาลปกครอง’ และแน่นอนว่ากระบวนการคงจะยืดเยื้อเกินกว่าวันที่ 13 มิถุนายน นี้ที่จะมีการตัดสินคดีชั้น 14.

ข่าวล่าสุด

ฮ่องกงเตรียมใช้หุ่นยนต์สุนัข ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อขจัดยุงลาย