posttoday

ราชทัณฑ์ แจงปม "หากินกับคุก" หลังสว.อภิปรายในสภาฯ ยัน!ไม่มี "สมเด็จ"

07 มีนาคม 2568

"กรมราชทัณฑ์" ร่อนแถลง แจงปมสว.สิทธิกร อภิปรายในสภาฯ แฉ "หากินกับคุก" ยัน!ไม่มี "สมเด็จ" ในเรือนจำ ไม่มีสิทธิพิเศษ

กรณี นายสิทธิกร ธงยศ สมาชิกวุฒิสภา ได้มีการอภิปราย พร้อมภาพที่มีข้อความว่า “ขบวนการหากินกับคุก” สร้างความไม่เท่าเทียมกันในเรือนจำ และยังกล่าวว่า มีตัวละครที่ใช้ชื่อว่า “สมเด็จในกรมราชทัณฑ์และเรือนจำ” ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ ได้ นั้น 

 

กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า จากการอภิปรายดังกล่าว ไม่เป็นความจริง สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและสร้างความเสียหายให้กับกรมราชทัณฑ์ จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้

 

 1. ประเด็นกล่าวอ้างว่า มีขบวนการ “หากินกับคุก” ในยุคของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยเมื่อมีผู้ต้องขังเข้าใหม่ในเรือนจำ จะมีผู้ต้องขังด้วยกันพาไปพบบุคคลที่นายสิทธิกรฯ ขนานนามว่า “สมเด็จ” ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่มีอิทธิพล มีหน้าที่เป็นมือไม้ให้กับเจ้าพนักงานเรือนจำที่ทุจริต และสามารถทำให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้รับอภิสิทธิ์ฝากและใช้เงินในเรือนจำได้เกินกว่าเดือนละ 9,000 บาท ด้วยการโอนเงินตอบแทนผ่านบัญชีม้าเพื่อเป็น ค่าดำเนินการให้กับเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น 

 

2. ประเด็นกล่าวอ้างว่า “สมเด็จ” จัดให้มีการเล่นการพนันโดยใช้กล่องนมหรือกาแฟชนิดซองแทนอุปกรณ์เล่นการพนันหรือแทนเงินสด อีกทั้งยังสามารถใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำ หรือกรณีหากผู้ต้องขังไม่ต้องการย้ายเรือนจำ หรือผู้ต้องขังซึ่งไม่ได้ป่วยจริงสามารถออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้ โดยสมเด็จเป็นผู้ดำเนินการนั้น 

กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง และไม่มีสมเด็จในเรือนจำ เนื่องจาก กรมราชทัณฑ์มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด มีการสลายกลุ่มบ้านที่สร้างอิทธิพล มีการตรวจค้นจู่โจมสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง

 

กรณีการย้ายผู้ต้องขัง มีคณะทำงานจำแนกลักษณะผู้ต้องขังประจำเรือนจำเป็นผู้พิจารณาโดยคำนึงถึงพฤติการณ์ผู้ต้องขัง เหตุผลความจำเป็นในการย้ายอย่างละเอียดรอบคอบ สำหรับกรณีการส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ผู้ต้องขังต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์จึงจะสามารถส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกได้ 

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า นอกจากกฎระเบียบ และมาตรการต่างๆ ที่ได้ชี้แจงข้างต้นแล้ว กรมราชทัณฑ์ ยังเน้นย้ำให้บุคลากรทุกระดับต้องไม่กระทำการทุจริตผิดคุณธรรมจริยธรรม และต้องปฏิบัติตนตามข้อกำหนดจริยธรรม ของกรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด

 

ที่ผ่านมาหากพบการกระทำทุจริต โดยเฉพาะการนำสิ่งของต้องห้าม เข้ามาในเรือนจำหรือการให้ผู้ต้องขังมีอิทธิพล จะดำเนินการลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด   

 

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด กรมราชทัณฑ์ จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูล ก็จะดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกระดับทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นกรณีความผิดที่เกิดขึ้นก่อนที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ตาม

ข่าวล่าสุด

สัญญาณเตือนฮิวแมนนอยด์ แนวโน้มฟองสบู่หุ่นยนต์อาจกำลังมา