มติสว. โหวตผ่านงบ1.2แสนล้าน แจกเงินดิจิทัล ห่วง รัฐหาเสียง หวังผลการเมือง
มติที่ประชุมสว. 139 ต่อ 38 เห็นชอบ ร่างพรบ.งบ67 วงเงิน 1.22 แสนล้าน ลุยดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สว.ตั้งข้อสังเกตุ ไม่แจกเงินสด หวั่น รัฐบาลหาเสียง หวังผลการเมือง ไม่มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง จุลพันธ์ แจง ไม่ให้เงินสด กลัวประชาชนออมส่วนหนึ่ง ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจเต็มที่
วันที่ 6ส.ค. มีการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา(สว.) ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำเสนอต่อวุฒิสภา โดยเป็นการพิจารณาแบบไม่ตั้งกรรมาธิการ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็นเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภค การลงทุนในประเทศโดยเร่งด่วน ไม่สามารถรองบประมาณปี2568 ยืนยันว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ และเม็ดเงินจำนวนมาก จะไหลจากภาครัฐ ไปยังภาคเอกชน เกิดการสั่งซื้อสินค้า และบริการ รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินภาษีของประชนชนให้มีประสิทธิภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินไหลสู่ประชาชน และภาคธุรกิจ สร้างความเจริญเติบโตให้ดับประเทศ พัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามกฎหมาย
นางเบ็ญจมาศ อภัยทอง สว.อภิปรายว่า เหตุใดรัฐบาล จึงไม่แจกเป็นเงินสด เพื่อให้ประชาชน นำไปใช้จ่ายได้สะดวก อาชีพพ่อค้า แม่ค้า แทบจะไม่เคยได้รับการดูแลจากรัฐบาล เหมือนเกษตรกร หรือชาวนา การเป็น สว.ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะมาบอกความในใจแม่ค้าทุกคน ที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลจากรัฐบาล ชาวนาได้ไร่ละ 1,000 หรือไร่ละ 10,000 บาท แต่แม่ค้าต้องช่วยตัวเอง ขายของกลางคืน ใช้ความอดทนทำมาหากิน ทำอาชีพเพื่อดูแลครอบครัว
ประชาชนส่วนหนึ่ง อยากได้เงิน 10,000 บาท แต่อยากได้เป็นเงินสด ตอนแรกรัฐบาลบอกว่า ทุกคนต้องได้ 10,000 บาท แต่ก็มีเงื่อนไขมากมาย บางคนก็ทำมาหากิน มีเงินเก็บ 500,000 บาทขาดคุณสมบัติแล้ว เขาผิดอะไรที่มีเงินเก็บ และทำไมทุกคนไม่ได้เงิน คนที่ขยันทำมาหากิน แต่ถูกตัดสิทธิ ทำไมถึงไม่ทำให้เสมอภาคเท่ากัน ทำไมต้องคัดเกรด
นางแดง กองมา สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า การที่รัฐบาลจะแจกเงินประชาชนคนไทย 10,000 บาท มีความยินดีและดีใจมาก แต่มีความกังวลว่าจะนำไปใช้จ่ายอย่างไรหลังได้รับเงินส่วนนี้ เนื่องจากเป็นเงินดิจิทัล จึงรู้สึกคิดหนักที่บางครอบครัวมีสมาชิก 4-5 คน หากรวมเป็นเงิน 40,000-50,000 บาท อยากเอาไป ซ่อมแซมบ้าน ซื้อควายซื้อวัวเลี้ยง ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ทำไมรัฐบาลไม่แจกเป็นเงินสด จะได้ใช้ง่ายๆ
สำหรับการอภิปรายของนางแดงนั้น ทำให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ได้นำโทรศัพท์ มาบันทึกภาพ ก่อนที่จะหยิบกระดาษมาซับน้ำตาอยู่นานแล้ว จนนางแดงอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังคงเช็ดอยู่
นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ อภิปรายแสดงความกังวลว่า โครงการดังกล่าวของรัฐบาล จะเป็นการเอื้อนายทุน สร้างภาระจนจะทำประเทศเสียหาย เพิ่มหนี้ให้กับประชาชนหรือไม่ จากการลงพื้นที่ ประชาชนก็ยังสงสัยต่อการใช้เงินดิจิทัล และจะไปใช้จ่ายต่ออย่างไร ทำไมไม่จ่ายเป็นเงินสด จึงตั้งข้อสงสัยว่า จะเป็นการเอื้อประโยชน์จริงหรือไม่ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง หรือเป็นเพียงการหาเสียงล่วงหน้า
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า งบประมาณดังกล่าว เป็นไปตามกรอบกฎหมาย และวินัยการเงินการคลัง รัฐบาล จำเป็นจะต้องมีการกู้หนี้เพิ่มเติม เพื่อเติมเงินใส่ในระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจในการเดินหน้าโครงการ
ส่วนข้อสังเกตเหตุใดรัฐบาลไม่จ่ายเป็นเงินสดนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า กลไกที่รัฐบาลกำหนด เป็นกลไกลใหม่ ต่างจากอดีต ที่แจกเป็นเงินสด เพราะอาจทำให้ประชาชน ออมไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ รัฐบาลต้องการให้เม็ดเงินกระจายตัวอยู่ในความเหมาะสม ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนอยู่ในระบบได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตามที่รัฐบาลต้องการ เช่นในจังหวัดเชียงใหม่ หากรัฐบาลกำหนดให้ใช้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ในอำเภอแม่ริม ซึ่งมีประชากรจำนวนประมาณ 80,000 คน จะมีเงินหมุนอยู่ในอำเภอ 800 ล้านบาท หากแจกเป็นเงินสด ประชาชนก็จะไปใช้เงินในอำเภอเมืองเชียงใหม่มากกว่า หากร้านค้า ต้องการจะขึ้นเป็นเงินสด สามารถทำได้ในการหมุนรอบที่ 2 และเงินสดก็จะยังคงหมุนเวียนในระบบ มีผลระยะยาว และกลไกนี้ ไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการวางรากฐานดิจิทัลระยะยาว ให้คนไทยพร้อมรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงข้อมูลประชาชนต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการกำหนดนโยบายได้อย่างตรงจุด ขอย้ำว่า แอพลิเคชันทางรัฐ มีความปลอดภัยแน่นอน
นายจุลพันธ์ ชี้แจงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลหวังผลการเมือง ขอยืนยันว่า โครงการนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้ว เป็นสัญญาประชาคม ที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา จึงจะต้องเดินหน้า ไม่มีความเป็นพรรคการเมือง ทุกพรรคอยู่ร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง และยังมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดนโยบายตามข้อห่วงใยของสังคม ที่รัฐบาลพร้อมรับฟัง
เมื่อสว.ได้อภิปรายแล้วเสร็จ ประธานวุฒิสภา ได้ขอมติจากที่ประชุม ผลปรากฎว่า มติเสียงข้างมาก 139 เสียง ต่อ 38 เสียง ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ภายหลังที่วุฒิสภา ให้ความเห็นชอบ ประธานวุฒิสภา จะส่งร่างงบประมาณ ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอน และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป